ทักษิณฟ้องหมิ่นอาญา-แพ่งเรียก800 ล.ปชป.-นสพ. 3 ฉบับ

ทักษิณ ส่งทนาย ฟ้องหมิ่นอาญา-แพ่งเรียก 800 ล้าน ปชป.-นสพ. 3 ฉบับ ตีพิมพ์ข่าวกล่าวหา เป็นผีปอบ กลับร่างปฏิบัติหน้าที่รักษานายกฯ


ที่ศาลอาญา (14มิ.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทยและนายกรัฐมนตรี โดย นายนพดล มีวรรณะ ผู้รับมอบอำนาจ มอบหมายให้นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความ ยื่นฟ้อง พรรคประชาธิปัตย์ ,นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งประชาธิปัตย์ ,นายสุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์มติชน ,นายฐากูร บุนปาน บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ข่าวสด ,นายประชา เหตระกูล บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ร่วมเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิด พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484

ตามฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.49 จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันแถลงข่าวเรื่องที่โจทก์กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งจำเลยที่ 3- 5 ร่วมกันตีพิมพ์เผยแพร่ข่าวระบุว่า ...พรรคประชาธิปัตย์มีข้อสังเกตว่า มีการสร้างกระแสเป็นกระบวนการเพื่อให้เห็นว่าบ้านเมืองนี้ถ้าขาดนายกฯทักษิณ จะเสียหาย แต่ที่จริงความเสียหายเกิดจากการบริหารงานของนายกฯ เพราะนายกฯ บริหารประเทศแบบ ซีอีโอ มีรัฐมนตรีเป็นเพียงผู้ช่วย เป็นง่อยทำงานไม่ได้ทำให้คณะรัฐมนตรีไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน


จึงอยากเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีชุดนี้ลาออกทั้งคณะ และข้อความอื่นทำนองว่าโจทก์จะกลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง เพื่อเคลียร์ผลประโยชน์ที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จสิ้น เพื่อทำลายหลักฐานการทุจริต และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกพรรคไม่ให้พรรคแตก รวมทั้งข้อความอื่นที่พาดพิงโจทก์ว่าสภาพโจทก์วันนี้เหมือนกับผีปอบที่ออกจากร่างแล้วกลับเข้าร่างไม่ได้ โจทก์จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อกลับเข้าสู่ร่างเดิม

โดยข้อความที่จำเลยทั้งห้าร่วมกันเผยแพร่ ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า ระหว่างที่โจทก์เป็นนายกฯได้บริหารงานผิดพลาด ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหาย และใช้อำนาจในตำแหน่งเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งกระทำทุจริตประพฤติมิชอบเพื่อประโยชน์ตนเองและพรรคพวก ส่วนที่เปรียบเทียบว่าโจทก์เป็นผีปอบ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี กำลังพยายามกลับมาทำงาน เพื่อที่จะโกงกินบ้านเมือง สูบเลือด สูบเนื้อประชาชน โดยการกระทำของจำเลยทั้งห้าไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือติชมด้วยความเป็นธรรม แต่เป็นการใส่ความโจทก์ด้วยความเท็จทั้งสิ้น ทำให้โจทก์ต้องเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ซึ่งโจทก์ยื่นฟ้องขอให้ศาลพิพากษาจำเลยตามความผิด และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 8 ฉบับ เป็นเวลา 15 วัน


โดยศาลรับคำฟ้องไว้เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 16 ต.ค.49 เวลา 09.00 น. และช่วงบ่ายวันเดียวกันที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความยังได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย 800 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี กับพรรคประชาธิปัตย์ ,โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ,บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.มติชน ,นสพ.มติชน ,บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ข่าวสด ,นสพ.ข่าวสด , บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.เดลินิวส์ และ นสพ.เดลินิวส์ จำเลยที่ 1-8 ด้วย โดยศาลประทับรับคำฟ้องไว้และนัดชี้สองสถานในวันที่ 30 ต.ค.49 เวลา 09.00 น.

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก