เมื่อเวลา 08.10 น.วันที่ 29 ส.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.
ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์การชุมนุมฯ ยึดทำเนียบรัฐบาล ของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เช้านี้ เจ้าหน้าที่ จากกองบังคับคดีจะเดินทางมาเพื่อร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทั้ง 6 คนที่ศาลมีคำสั่งบังคับให้ย้ายออกจากพื้นที่ทางโจทก์ได้ร้องคุ้มครองฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นในทำเนียบรัฐบาล ตลอดจนถนนราชดำเนิน ซึ่งศาลได้บังคับแล้วเมื่อวานตอนเย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ไปประกาศให้ทราบ เราจะจัดทีมไปประกาศให้ทราบ ถ้าไปแจ้งกับเจ้าตัวไมได้ก็จะใช้วิธีปิดหมาย หรือแจ้งให้คนบริเวณใกล้เคียงทราบ
ถามว่าคงไม่ออกง่ายๆ ผบช.น.ระบุว่า ก็ต้องแจ้งให้ทราบก่อน เขาอาจจะเปลี่ยนใจออกก็ได้ มันไม่แน่ ของแบบนี้จะต้องค่อยๆ พูดค่อยๆ จากัน
สำหรับเรื่องอาวุธปืน ที่ทางพันธมิตรฯ แจ้งภายหลังผลักดันตำรวจ ปจ.ในทำเนียบ 7 กองร้อย ออกมานั้น ผบช.น.บอกว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ถ้ามีก็น่าจะเป็นอาวุธประจำกาย ตำรวจสันติบาล กองบังคับการ 3 มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลทำเนียบฯ อยู่ มีกำลังอยู่ประมาณ 100 นาย แนะนำให้สอบถาม ผบช.ส.ได้
ต่อข้อถามถึงการเคลื่อนย้ายเวทีถาวรของพันธมิตรฯ เข้าไปปักหลักในทำเนียบฯ เมื่อคืน ( 28 ส.ค.) ที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้วนั้นจะเป็นการยึดทำเนียบฯ ถาวรหรือเปล่า ผบช.น.ระบุว่า ตนพยายามร้องขอให้เลิกชุมนุมโดยเร็วที่สุด
โดยพยายามเจรจาอยู่ตลอด และเพิ่งเลิกเจรจาเมื่อวานเพราะว่ามีการเปลี่ยนผู้ปฏิบัติ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น.รับผิดชอบแทน เป็น ผบ.เหตุการณ์ ส่วนตนจะมารับผิดชอบงานทั่วไปทั้งหมด พล.ต.ต.สุชาติจะได้สานงานต่อเนื่องได้ แต่ระหว่างยังไม่มอบหมายตำแหน่งใหม่ ตนก็ยังมีอำนาจอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พล.ต.ต.สุชาติ ทำได้ไม่มีปัญหาอะไร เพราะอยู่ด้วยกันก็ช่วยกันมาตลอด
เมื่อถามถึงสัญญาณภาพเสียงเอเอสทีวีหายไป เป็นจอดำ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นั้น ผบช.น.ยืนยันว่า ไม่ใช่ การกระทำของตำรวจขนาดไฟฟ้ายังไม่กล้าตัดเลย กลัวว่าจะช็อร์ตเอา ตำรวจเราทำไม่เป็นเรื่องแบบนั้น
นอกจากนี้ พล.ต.ท.อัศวิน ยังฝากประกาศผ่านถึงประชาชนทั้งใน กทม.และ ต่างจังหวัด ขอความกรุณาอย่าเข้ามา ขณะนี้บ้านเมืองค่อนข้างจะอ่อนล้า แย่ลงไปเต็มที่ ต่างชาติไม่เชื่อถือเศรษฐกิจไทย และเมื่อมีภาพข่าวการกระทบกระทั่งกันแพร่ออกไปทางสำนักข่าวต่างๆ จะทำให้ต่าชาติหวั่นเกรง กระทบต่อการท่องเที่ยว การลงทุน เหตุการณ์ครั้งนี้จะได้จบลงได้ด้วยดี ด้วยคนไทยกันทั้งนั้น ตนไม่อยากให้มีการกกระทบกระทั่ง แต่ก็มีได้บ้างเป็นธรรมชาติ เหมือนลิ้นกับฟัน แต่อย่าถึงขั้นขบกัดกันเลย มันจะหนักหนาสาหัส ช่วยกันถอยไปคนละก้าว ในส่วนของประชาชนผู้เรียกร้องก็ถอยให้เราบ้างให้เราได้มีจุดยืนได้บ้าง
ต่อถำถามว่า สว.นักวิชาการหลายๆ คนออกมาให้ทัศนะว่า การตั้งข้อหากบฏ กับแกนนำผู้ชุมนุมฯ หนักไปนั้นจะมีการทบทวนหรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า คงไม่ เราตั้งไปถ้าศาลไม่เห็นด้วยก็คงจะไม่ให้หมายจับ
ในเมื่อศาลเห็นชอบให้มาเราก็ต้องดำเนิน แต่ขอเรียนให้ทราบว่า ในอนาคตเมื่อเหตุกาณ์คลี่คลายไปแล้ว ทางออกในเรื่องนี้ก็มีมากมาย มีวิธีการออกอยู่ แต่ทั้งนี้ตนอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกันให้ดี ประเทศชาติเราจะต้องช่วยกันทะนุบำรุง ทะนุถนอม เหมือนหญิงสาว เราต้องค่อยๆ ประคับประคอง อย่าไปรุนแรง มันจะหมดความสวยงามได้ ตำรวจเรายืดหยุ่นตลอดเวลา ตำรวจ เป็นคนกลางที่จะเข้าไปดำเนินการ ตนใช้นโยบายแบบนี้มาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. โดยพื้นฐานความจริง สื่อมวลชนจะรู้ว่า ตนเป็นคนมุทะลุดุดันใจร้อนมาตลอด ถ้าเป็นเรื่องโจรผู้ร้ายอื่นๆ ป่านนี้จบไปแล้ว แต่นี้เป็นเรื่องของความคิดแตกต่างทางความคิด ก็พยายามค่อยประสาน แม้จะยืดเยื้อมายาวนานตนก็พยายามอดทน ใครจะวิจารณ์ว่า ตนทำงานล่าช้า ตนก็ยอมรับว่าทำงานล่าช้าจริง ตนไม่อยากจะทำเร็วบนซากศพของประชาชน
อัศวินค่อยๆเคลียร์ม็อบ ชี้ไม่อยากทำงานบนซากศพปชช.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง อัศวินค่อยๆเคลียร์ม็อบ ชี้ไม่อยากทำงานบนซากศพปชช.