สนธิยันถ้าตร.ไม่นำอาวุธออกจะแจ้งทหารนำออกไป

"สนธิ" ระบุ หากตำรวจไม่นำอาวุธออกจากทำเนียบ จะแจ้งทหารนำออกไป แฉ นปก.ส่ง คนป่วนในพันธมิตรฯ


(29ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 04.00 น. ผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รปภ.พันธมิตรฯ ว่า นายสมศักดิ์ โกศัยสุข จะแถลงข่าวด่วนที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางมาถึงพบนายสมศักดิ์พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ยืนรออยู่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าพบอาวุธสงครามบนอาคารงานอำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทำเนียบรัฐบาล อาวุธที่พบมีปืน เอ็ม 16 จำนวน 17 กระบอก เอชเค 33 จำนวน 13 กระบอก ลูกกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 3 ลัง ลังละ 2,000 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด .38 2 กล่อง 2,000 นัด ลูกกระสุนเอชเค 33 จำนวน 440 นัด ไฟฉาย 13 กระบอก วิทยุสื่อสารจำนวนหนึ่ง


ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯ ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปถ่ายภาพ

โดยระบุว่า จะรอให้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน และให้มาดูพร้อมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น เรือตรีแซมดิน เลิศบุตย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม ซึ่งอดีตคือ เรือตรีแซมดิน อดีตนายช่างปืน แผนกปืน กองทดสอบสรรพวุธ กรมสรรพวุธทหารเรือ พร้อมด้วยนายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยพันธมิตร เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ที่ สน.ดุสิต


ผู้สื่อข่าวนั่งรอจน 05.00 น. เรือตรีแซมดิน และนายกิตติชัย เดินทางกลับมาที่เกิดเหตุ เรือตรแซมดิน บอกว่า ให้ผู้สื่อข่าวรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะตนอยากจะให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย

และแสดงความบริสุทธิ์ใจของพันธมิตรฯ อยากจะให้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเราได้แจ้งความ และตำรวจบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว ที่ สน.ดุสิต โดยมี พ.ต.ท.เอกพล ทวิวงศ์ไชยกุล พนักงานสอบสวน สบ.2 สน.ดุสิต เป็นผู้รับแจ้งความ
จากนั้น ผู้สื่อข่าว นั่งรอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจก็ไม่มา เรือตรีแซมดิน จึงประสานไปยัง พล.ต.จำลอง รายงานให้รับทราบ และขอนำผู้สื่อข่าวไปดูอาวุธสงครามที่พบ จากนั้น เรือตรีแซมดิน และนายกิตติชัย จึงนำผู้สื่อข่าว ขึ้นไปชั้น 2 ของอาคารงานอำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทำเนียบรัฐบาล และพบกองอาวุธสงครามดังกล่าว โดยอาวุธทั้งหมดกองอยู่กับพื้น


เรือตรีแซมดิน กล่าวว่า ได้นำอาวุธดังกล่าวออกมากอง ให้ผู้สื่อข่าวเก็บภาพ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ใช่อาวุธของพันธมิตรฯ

ซึ่งหลังจากที่พันธมิตรฯให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากทำเนียบรัฐบาล ตนพร้อมด้วยการ์ด เข้าตรวจอาคารงานอำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทำเนียบรัฐบาล จึงพบคนกลุ่มหนึ่ง และตนได้เข้าไปสอบถาม คนกลุ่มดังกล่าวบอกว่าเป็นตำรวจสันติบาล ไม่สวมเครื่องแบบ ตนจึงถามว่า เจ้าหน้าที่มีกี่คน เจ้าหน้าที่บอกว่ามี 38 คน


ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเข้ามาเจรจากับตน จะขอให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 38 อยู่ดูแลรักษาความปลอดภัยในอาคารดังกล่าว

ตนจึงปรึกษา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯ และเห็นว่าควรจะเชิญออก เพราะหากให้อยู่จะเกิดปัญหาความปลอดภัยได้ และทางผู้บังคับบัญชา ก็ยินดีจะนำเจ้าหน้าที่ออก แต่ขอเวลาเคลียร์ห้อง 10 นาที ตนจึงนำเจ้าหน้าที่ออกจากทำเนียบ และเดินไปส่งแยกมิสกวัน ระหว่างนั้นตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯว่าได้พบอาวุธดังกล่าว จึงรีบกลับมาดู และไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต ขอให้เจ้าหน้าที่มานำอาวุธออกไป เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้อาจไม่เหมาะสม และเกิดปัญหาได้


เมื่อถามว่า หากตำรวจไม่มานำอาวุธสงครามออกไปจะทำอย่างไร เรือตรีแซมดิน กล่าวว่า อย่างไรก็ต้องควรมาเอา เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


เมื่อถามว่า อาวุธนี้ อาจจะเป็นของฝ่ายรักษาการของทำเนียบหรือไม่ นายแซมดิน กล่าวว่า อาวุธสงครามนี้ดูแล้วจะเกินความจำเป็น เพราะสามารถใช้ฆ่าคนได้
นายสนธิ ลิ้มทองกุล เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า การค้นพบอาวุธสงคราม มีความเป็นไปได้ว่า ฝ่ายรัฐกำลังจะใช้ความรุนแรงกับประชาชน หรือไม่ อาวุธที่เตรียมไว้ อาจจะใช้ยิงขึ้นฟ้าในกรณีที่เกิดการสลายการชุมนุม ขณะเดียวกันยังมองได้อีกว่าอาจเป็นการพยายามใส่ความพันธมิตร ว่าซ่องสุมอาวุธ และทำให้เกิดความรุนแรง


นายสนธิ กล่าวต่อว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมรับแจ้งความ และไม่มาดูอาวุธที่ตรวจพบ เราจะติดต่อทหารให้มารับอาวุธดังกล่าวไป เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม


นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่า ในทำเนียบรัฐบาลยังมีตำรวจหลบอยู่ แต่พันธมิตรฯจะไม่กดดันให้ตำรวจออกไปแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังทราบว่าแกนนำ นปก.มีการประชุมกัน และส่งตัวแทนเข้ามาสังเกตุการณ์ และก่อความวุ่นวายภายในการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมวัน ขณะนี้พันธมิตรฯ ได้ช่วยกันเก็บกวาดสิ่งของที่สกปรก อยู่ทั่วบริเวณการชุมนุม และขอร้องผู้ร่วมชุมนุมรักษาความสะอาดในพื้นที่


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์