วันนี้ (27 ส.ค.) บรรดา 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยภายในทำเนียบรัฐบาล ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยอมมอบตัวสู้คดี หลังจากมีข่าวว่าตำรวจไปขออนุมัติหมายจับแกนนำพร้อมกับพวกอีก 9 คน ทางด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมาตรวจสอบความเสียหายจากเหตุการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ บุกสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT พร้อมกับนำของกลางที่ตรวจค้นเพิ่มเติมได้จากผู้ต้องหาทั้ง 85 คน โดยจากการตรวจค้นตัวผู้ต้องหาเพิ่มเติม พบอาวุธปืนไม่มีทะเบียนเพิ่มเป็น 5 กระบอก วิทยุสื่อสาร และจากการตรวจสอบพบว่า ธงกู้ชาติสีดำที่กลุ่มผู้บุกรุกนำติดตัวมาด้วย มีด้ามเป็นมีดดาบปลายแหลมจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบมีดสปาต้าขนาดใหญ่ ขวาน หนังสติ๊กและลูกกระสุนเหล็ก สนับมือ ไม้กอล์ฟที่สามารถใช้เป็นอาวุธหนัก ที่สามารถทำอันตรายสาหัสและถึงแก่ชีวิตได้ รวมทั้งตรวจพบใบกระท่อมที่เป็นสิ่งเสพติดประเภทที่ 5 เพิ่มเติมได้อีกด้วย
ศาลอนุมัติหมายจับแล้ว จำลองมุกเดิมนั่งกลางวง
ต่อมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ได้ประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อแยกแยะอาวุธที่ผู้ต้องหาแต่ละคนครอบครอง เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้อีก 5 ข้อกล่าวหา คือก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะ บุกรุกสถานที่ราชการ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีวิทยุสื่อสารไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธในที่สาธารณะและมียาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครอง โดยในขณะนี้ศาลมีคำสั่งให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 85 คนที่เรือนจำเป็นเวลา 12 วัน โดยมีการจัดทนายให้ผู้ต้องหากลุ่มนี้และทนายได้ให้ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การจัดฉากอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานและหลักฐานแน่นหนาว่า เป็นฝีมือของกลุ่มพันธมิตรฯ และจะสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อเอาผิดเพิ่มเติมต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่อไป โดยฐานความผิดของผู้ต้องหาทั้ง 85 คนมีโทษจำคุกอย่างน้อย 5 ปี และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด
ส่วนผลการตรวจสอบความเสียหายที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT นั้น เบื้องต้นพบว่า
มีความเสียหายหลายที่ ทั้งบริเวณห้องประทับรับรองของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ระหว่างมาบันทึกเทปรายการ TO BE NUMBER ONE ได้รับความเสียหายบริเวณประตูทางเข้า และมีการเคลื่อนย้ายลาดพระบาทที่ปูในห้องออกจากห้องประทับมาไว้ที่หน้าห้องสุขาด้วย ทั้งนี้ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT จะรวบรวมความเสียหายให้เจ้าพนักงานอีกครั้งหนึ่ง
ล่าสุด รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า
ศาลได้อนุมัติหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ แล้ว โดยที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้ลงไปนั่งปะปนกับบรรดากลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ภายในทำเนียบรัฐบาล และยืนยันจะให้จับตัวไปโดยไม่มีการต่อสู้ขัดขืน
ประกาศจะรอให้ตำรวจมาจับกุมตัวในทำเนียบรัฐบาล แต่ท้าหาตัวให้เจอ พร้อมยืนยันจะไม่ใช้ฝูงชนเป็นโล่กำบังตัว และหากถูกออกหมายจับก็ไม่ขอประกันตัว
ส่วนการที่รัฐบาลจะขอความร่วมมือให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบฯ เพราะจะมีงานสำคัญในวันที่ 30 ส.ค.นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า อย่าได้นำเรื่องนี้มาบีบบังคับ และจะให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของแกนนำรุ่นต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สำหรับผู้ที่ถูกออกหมายจับประกอบด้วย
1. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
2. นายสนธิ ลิ้มทองกุล
3. นายพิภพ ธงไชย
4. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
5. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
6. นายสุริยะใส กตะศิลา
7. นายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์
8. นายอมร อมรรัตนานนท์ และ
9. นายเทิดทูน ใจดี
ใน 4 ข้อหาหนัก คือเป็นกบฎ ตระเตรียมการเป็นกบฎ มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่สั่งให้เลิกทำการมั่วสุมแต่ไม่เลิกตามคำสั่งการ