แนวหน้า
พลังงานเร่งปตท.หาก๊าซจากแหล่งอื่นทดแทน หลังพบปตท.สผ.ส่งมอบก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอาทิตย์ล่าช้า ทำให้กฟผ.ต้องใช้น้ำมันแทนก๊าซ ดันต้นทุนสูง ชาวบ้านต้องใช้ไฟแพง "วิเศษ"ยืนยันปตท.ต้องรับผิดชอบ
นายวิเศษ จูภิบาล รักษาการรมว.พลังงาน กล่าวว่า จากกรณีที่ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอาทิตย์ซึ่ง ปตท.สผ.ดูแลจะส่งก๊าซเข้าระบบได้ในปี 2551 ล่าช้าจากแผนที่กำหนดไว้ในปี 2550 ดังนั้นในเร็วๆ นี้จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ ปตท. ปตส.สผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) มาหารือร่วมกันว่าทำอย่างไร เพราะหาก กฟผ.ผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันแทนก๊าซฯจากแหล่งอาทิตย์จะทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น และหากเป็นเช่นนั้น ปตท.จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นดังกล่าว
"ปตท.ต้องรับผิดชอบหากจัดหาก๊าซมาเข้าระบบไม่ทันตามแผนเพราะการบริหารแผนผิดพลาด ทำให้ส่งก๊าซล่าช้า และส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น เนื่องจากไม่ใช่ความผิดของผู้บริโภค"นายวิเศษกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามปริมาณการผลิตของแหล่งก๊าซทั้งในอ่าวไทย และพม่า พบว่าเมื่อท่อก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 3 ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีนี้ แหล่งก๊าซต่างๆ ก็สามารถส่งก๊าซเข้าระบบได้เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถทดแทนก๊าซจากแหล่งอาทิตย์ได้ ทั้งนี้ ปตท.จะต้องเข้าไปเจรจาซื้อเพิ่มเติมจากสัญญาและให้ได้ก๊าซในราคาต่ำที่สุดด้วย
ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ กฟผ.ไปหาวิธีเพิ่มการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ และถ่านหินเข้ามาในระบบด้วยเพื่อช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ทั้งนี้สปป.ลาวเองก็พร้อมจะเร่งทุกโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำให้เร็วขึ้นโดยเฉพาะโครงการน้ำงึม3
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้ปตท.ได้เร่งก่อสร้างโครงการท่อก๊าซเชื่อมต่อไปแหล่งเจดีเอเพื่อมาทดแทนแหล่งก๊าซอาทิตย์ โดยคาดว่าจะเริ่มนำก๊าซแหล่งเจดีเอเข้าระบบได้ในช่วงกลางปี 2550 ในปริมาณ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และปลายปี 2550 อีก 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคาดว่าแหล่งอาทิตย์จะเข้าระบบในปี2551ในปริมาณ 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน