รมว.ต่างประเทศโยนนายกฯ ยกเลิกหนังสือเดินทางทักษิณ

นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าววันนี้ (21 ส.ค.) กรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

ตอบกลับหนังสือที่กระทรวงการต่างประเทศสอบถามถึงการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า หนังสือดังกล่าวมาถึงเมื่อวันที่ 18 ส.ค. และเมื่อวันที่ 20 ส.ค. กระทรวงการต่างประเทศได้พิจารณาเรื่องนี้ทั้งวัน จนวันเดียวกันนี้  ได้มีหนังสือไปถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับการยกเลิกหนังสือเดินทางทางการทูตและหนังสือเดินทางธรรมดา  

"เมื่อรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ (อดีตนายกรัฐมนตรี) มีคำสั่งให้ยกเลิก เพิกถอน หนังสือเดินทางทางการทูต  เรื่องนี้จึงถือเป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้แนะนำอะไรให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ เพียงแต่ชี้แจงข้อเท็จจริงและกฎระเบียบ ส่วนจะใช้ระยะเวลากี่วันต้องแล้วแต่นายกรัฐมนตรี เพราะหนังสือได้ออกจากกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว และเรื่องดังกล่าวก็คงไม่ขัดระเบียบอะไร อยู่ที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวต่อกรณี พ.ต.ท.ทักษิณยื่นขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ ว่า ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว เพียงแต่ติดตามจากหนังสือพิมพ์เท่านั้น ยังไม่มีเรื่องที่เป็นทางการเข้ามา อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศไม่อยู่ในวิสัยคัดค้านเรื่องนี้ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางมาเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการในเรื่องต่างๆ ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้รู้สึกกดดันในการทำงานหรือไม่ นายเตช กล่าวว่า ไม่กดดัน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น  ตนได้รับข้อเรียกร้องแล้ว หลายเรื่องกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการอยู่ อาทิ กรณีให้ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาสนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เพราะจะเห็นได้จากเอกสารการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ระบุว่าแถลงการณ์ดังกล่าวไม่เป็นส่วนหนึ่งของการตกลงกัน และขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการเพิ่มเติมอยู่ 

"กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ มีผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ซึ่งเป็นนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงแนะนำว่า ควรจะมีหนังสือเป็นทางการต่อไปยังสหประชาชาติและกัมพูชา กำลังหาทางและชั่งน้ำหนักว่าขั้นตอนจะเป็นอย่างไรต่อไป" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว