จงรัก เชื่อ วัฒนา เผ่นเขมร ไม่มาศาลฟังคำพิพากษา คลองด่าน เล็งประสานส่งตัว

ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา 18 ส.ค. ชี้ชะตา "วัฒนา อัศวเหม" คดีทุจริตที่ดินคลองด่าน หลังออกหมายจับฐานไม่มาฟังนัดแรก "จงรัก" เชื่อไม่มาศาลวัดดวงแน่ ระบุถ้าโดนจำคุกจะประสานเขมรส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมารับโทษ ถ้ายกฟ้องกลับบ้านได้

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 18 สิงหาคม เวลา 14.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดย ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ผู้พิพากษาอาวุโส เจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะ 9 คน ในคดีทุจริตที่ดินคลองด่าน นัดอ่านคำพิพากษา คดี อม.2/2550 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นจำเลย ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขู่ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นร่วมออกโฉนดที่ดิน 1,900 ไร่ ทับที่คลองสาธารณประโยชน์ และที่สงวนหวงห้ามเพื่อนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท หรือประหารชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาครั้งแรก แต่นายวัฒนาหลบหนีไปอยู่ในประเทศกัมพูชา ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับนายวัฒนา และปรับนายประกันจำนวน 2,200,000 บาท

ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายวัฒนามาฟังพิพากษาว่า พยายามติดตามจับกุมมาโดยตลอด เชื่อว่าหากนายวัฒนายังอยู่ในประเทศไทยจริงคงพบตัวแล้ว แต่เนื่องจากสายข่าวหลายสายระบุว่า นายวัฒนาหนีไปกัมพูชาก่อนหน้านี้แล้ว คงจะต้องไปแถลงต่อศาลถึงผลการติดตามตัวนายวัฒนา ศาลอาจใช้ดุลพินิจอ่านคำพิพากษาจำเลยได้

พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า ประเทศกัมพูชาปฏิเสธที่จะส่งตัวนายวัฒนาให้ไทย เนื่องจากขณะนี้นายวัฒนายังไม่ได้ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดและลงโทษจำคุก เป็นแต่เพียงการหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลเท่านั้น

ต้องรอฟังผลจากคำพิพากษาของศาลในวันที่ 18 สิงหาคมก่อน ว่า นายวัฒนาถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกหรือไม่ หากถูกพิพากษาให้จำคุก และถูกออกหมายจับอีกครั้งหนึ่ง ทางตำรวจจะนำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าเข้าหลักเกณฑ์ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างประเทศไทยหรือไม่ เพื่อให้กัมพูชาส่งตัวนายวัฒนากลับมาลงโทษตามคำพิพากษา แต่ถ้าศาลยกฟ้อง นายวัฒนาก็สามารถเดินทางกลับมาไทยได้เองตามปกติ เพราะถือว่าไม่มีความผิดใดๆ

"ผมเชื่อว่านายวัฒนาคงจะไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาล คงหลบหนีไปแล้ว เพราะเหลือเวลาอีกเพียงวันเดียว หากจะมาก็น่าจะประสานงานกับตำรวจแล้ว คงไม่โผล่ไปที่ศาลเฉยๆ เป็นแน่ อยากเรียกร้องให้กลับมาฟังคำพิพากษา เพราะศาลอาจจะยกฟ้องก็ได้ น่าจะมาวัดดวงกันดู ถ้าศาลยกฟ้องก็สามารถกลับบ้าน และใช้ชีวิตอยู่ในไทยต่อไปได้ ไม่ต้องระเหเร่ร่อน" พล.ต.อ.จงรักกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์