ศาลยกคำร้องขอยุติคดี สั่งไต่สวนคดีที่ดินรัชดา

วานนี้ (15 ส.ค.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีนายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน พร้อมด้วยองค์คณะรวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ  ที่มีอัยการสูงสุดเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1 และคุณหญิงพจมาน  ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจำเลยที่ 2 โดยศาลได้เรียกพยานเข้าให้ปากคำจำนวน 5 ปากคือ รองผู้อำนวยการ สำนักผังเมือง เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี และเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการพิจารณาศาลได้ให้คู่ความทั้ง 2 ฝ่าย รอศาลประมาณ 30-35 นาที ก่อนศาลจะมีคำสั่งในคดีนี้ให้ทราบ จากนั้นองค์คณะออกนั่งบัลลังก์อีกครั้ง เพื่ออ่านกระบวนรายงานการพิจารณา โดยสรุปว่า ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสองมีหนังสือแจ้งให้ทนายจำเลยทั้งสองทราบว่า ไม่ประสงค์จะให้ทนายความที่แต่งตั้งดำเนินคดีแทน และทนายจำเลยทั้งสองจึงขอถอนตัวจากการเป็นทนายความ และเนื่องจากจำเลยทั้งสองไม่มาศาล เพราะได้เดินทางไปพำนักยังต่างประเทศแล้ว จำเลยทั้งสองจึงยังไม่เข้ามาอยู่ในอำนาจศาล ขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ  ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยทั้งสองได้มารายงานตัวและให้การต่อศาลแล้ว โดยได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณา และศาลได้อนุญาตให้พิจารณาลับหลังจำเลยทั้งสองได้ ทำตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอ ดังนั้น จำเลยทั้งสองจึงเข้ามาอยู่ในอำนาจศาลแล้ว  แม้ต่อมาจำเลยทั้งสองไม่มาศาล ศาลก็มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีต่อไปได้ การที่จำเลยทั้งสองหลบหนีไม่มาศาล ย่อมต้องถือว่าจำเลยทั้งสองสละสิทธิ์ในการต่อสู้คดีเอง จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดี เพื่อให้ได้ตัวจำเลยทั้งสองมาศาลก่อน จึงจะดำเนินกระบวนพิจารณาคดี ส่วนการที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยทั้งสอง โดยอ้างว่าจำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความดังกล่าวดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไป เห็นว่า คดีนี้เป็นการดำเนินการตามกระบวนพิจารณาในระบบไต่สวน ศาลมีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อค้นหาความจริงตามเนื้อหา แม้จำเลยทั้งสองจะไม่มีทนายความ ศาลสามารถดำเนินการไต่สวนพยานหลักฐานไปได้ การขอถอนตัวจากการเป็นทนายความตามคำร้องของทนายจำเลย เห็นว่าเป็นการมุ่งประสงค์เพียงให้ศาลหยุดการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ไว้ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อเจตนารมณ์ของการจัดตั้งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลย และที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า ไม่ติดใจไต่สวนพยานที่เหลืออีกจำนวน 7 ปาก เห็นว่า คดีนี้เป็นระบบไต่สวนที่ศาลจะต้องค้นหาความจริงให้ได้ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำความผิดหรือไม่ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงเห็นสมควรให้ไต่สวนพยานต่อไป ให้เลื่อนคดีไปนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองในวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ให้ทนายจำเลยทั้งสองติดต่อให้พยานรวมทั้งนายวราเทพ มาเบิกความในวันนัดดังกล่าวด้วย ด้านนายเอนก คำชุ่ม ทนายความจำเลย กล่าวว่า  ไม่ถอดใจในการทำงาน ต้องทำหน้าที่ตามที่ศาลสั่งต่อไป ซึ่งเราก็จะทำเท่าที่ทำได้ ส่วนกรณีที่จำเลยขอให้ถอนทนายขอให้เป็นเหตุผลส่วนตัวของจำเลย ส่วนตัวขอไม่แสดงความเห็น ทั้งนี้ คำให้การของพยานจำเลยที่จะมาเบิกความที่เหลือ ได้ทำเป็นเอกสารส่งให้ศาลทั้งหมดแล้ว ส่วนคำให้การของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งไปแล้วตั้งแต่ชั้นของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แต่จะใช้ชุดเดิมในนัดที่ศาลนัดให้จำเลยทั้งสองมาเบิกความในวันที่ 22 ส.ค.หรือไม่ จะขอพูดในวันที่ 19 ส.ค.นี้ ขณะที่นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการคดีพิเศษ กล่าวว่า อัยการยังคงดำเนินการต่อไปตามหน้าที่ ส่วนการติดตามตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดีนั้น ศาลยังไม่มีคำสั่งให้อัยการดำเนินการ ส่วนกรณีการยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลได้เมื่อใดนั้น ต้องรออัยการสูงสุดกลับมาพิจารณาว่าจะยื่นฟ้องเมื่อใด

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์