ถึงคิว "พรรคประชาธิปัตย์" ขึ้นเขียงถูกเชือดโดน "ใบแดง" ที่ "วิฑูรย์ นามบุตร" รองหัวหน้าพรรค ถูกกล่าวหา "แจกตั๋วหนัง" แถมยัง "เปิดปราศรัย" หาเสียง ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง กรณีนี้อาจทำให้ 49 กก.บห.พรรคต้องสิ้นชื่อทางการเมือง
ถึงคิว "พรรคประชาธิปัตย์" ขึ้นเขียงถูกเชือดโดน "ใบแดง" จากกรณีที่ "วิฑูรย์ นามบุตร" ส.ส.สัดส่วนและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย วุฒิพงษ์ นามบุตร, ศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี และวิทวัส พันธ์นิกุล ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี ถูกกล่าวหา "แจกตั๋วหนัง" แถมยัง "เปิดปราศรัย" หาเสียง ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง
งานนี้เล่นเอา "พรรคประชาธิปัตย์" ถึงกับร้อนๆ หนาวๆ
ด้วยเหตุที่ว่า "วิฑูรย์" ยังนั่งเป็น 1 ในกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหาก "คณะกรรมการการเลือกตั้ง" (กกต.) ฟันธงว่ามีความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 237 วรรค 2 ส่งผลให้ถูก "ยุบพรรค" ได้ เบื้องต้น "อนุกรรมการสอบสวน" ที่ตั้งขึ้นโดย กกต.กลางได้สอบปากคำพยานจำนวน 6 ปาก ที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา และแม้ว่าพยานสำคัญรายหนึ่ง ที่เป็นผู้ถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าว จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
แต่บรรดาผู้ร้องเรียนโดยเฉพาะ "สมบัติ รัตโน" อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชาชน ผู้ซึ่งร้องเรียนกรณีดังกล่าวเพื่อให้ กกต.ตรวจสอบ
ก็เชื่อว่าหลักฐานวีซีดีและพยานที่หลงเหลือ น่าจะแน่นหนาพอที่จะนำไปสู่การแจก "ใบแดง" ได้ซึ่งในขั้นตอนหลังจากนี้ ทั้งวิฑูรย์และผู้ถูกกล่าวหาอีก 3 คน จะต้องเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ "อนุกรรมการสอบสวน" ในวันที่ 14-15 สิงหาคมนี้ เบื้องต้นคาดว่าอนุกรรมการฯ จะสามารถสรุปสำนวนนี้ เพื่อเสนอต่อ "กกต.ชุดใหญ่" เพื่อพิจารณาให้ "ใบแดง" ได้ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้เช่นกัน ดังนั้นจะต้องรอลุ้นต่อไปว่า "วิฑูรย์และพรรคประชาธิปัตย์" จะถูก "5 เสือ กกต." ให้ "ใบแดง" เช่นเดียวกับที่เคยให้ "ยงยุทธ ติยะไพรัช" จากพรรคพลังประชาชน "นพดล พลซื่อ" จากพรรคเพื่อแผ่นดิน "มณเฑียร สงฆ์ประชา" จากพรรคชาติไทย และ "สุนทร วิลาวรรณ" พรรคมัชฌิมาธิปไตย หรือไม่?
ปชป. ระทึก! ลุ้น วิฑูรย์ รอดใบแดง
ทั้งนี้ หากมองข้ามช็อต "วิฑูรย์" โดนใบแดง ผลต่อมาคือ "พรรคประชาธิปัตย์" อาจถูกยุบ แรงกระเพื่อม จะมีผลต่อความเป็นสมาชิกภาพ ส.ส.ผู้ซึ่งเป็น "กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 49 คน"
ด้วยผลคือ ทั้ง 49 คนนี้ อาจถูก "ตัดสิทธิ" ทางการเมือง 5 ปี นอกจากนี้ พรรคที่ถูกยุบ และกรรมการบริหารพรรคทุกคนยังไม่สามารถไปจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เช่นกัน ถือเป็นการ "ล้างบาง" พรรคการเมืองเก่าแก่อย่าง "ประชาธิปัตย์" ให้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยทันที ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ "49 กรรมการบริการพรรค" ประกอบด้วย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค, รองหัวหน้าพรรคประกอบด้วย อภิรักษ์ โกษะโยธิน, วิฑูรย์ นามบุตร, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นิพนธ์ พร้อมพันธุ์, ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์, ไตรรงค์ สุวรรณคีรี, วิทยา แก้วภราดัย, อลงกรณ์ พลบุตร และสุรินทร์ พิศสุวรรณ, สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค, รองเลขาธิการ ประกอบด้วย กรณ์ จาติกวณิช, ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร, นิพนธ์ บุญญามณี และถาวร เสนเนียม, กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เหรัญญิกพรรค, องอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรค
กรรมการบริหาร ชินวรณ์ บุณยเกียรติ, สาทิตย์ วงศ์หนองเตย, อาคม เอ่งฉ้วน, รังสิมา รอดรัศมี, นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ, สุวโรช พะลัง, ธีระ สลักเพชร, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล, สุรเชษฐ์ แวอาแซ, ขยัน วิพรหมชัย, อัญชลี วานิชเทพบุตร, ณิรัฐกานต์ ศรีลาภ, พินิจ กาญจนชูศักดิ์, สุกิจ ก้องธรนินทร์, บุญมาก ศิริเนาวกุล, ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู, มนัส ศรีบงกช, อนันต์ คลังจันทร์, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, สาธิต ปิตุเตชะ, นราพัฒน์ แก้วทอง, ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร, ชำนิ ศักดิเศรษฐ์, จุติ ไกรฤกษ์, เฉลิมชัย ศรีอ่อน, ชุมพล กาญจนะ, ศิริโชค โสภา, ผุสดี ตามไท, สุรเชษฐ์ มาศดิตถ์, อิสสระ สมชัย และวิรช ร่มเย็น ถูกแช่แข็ง 5 ปี
เหลือระดับ "เก๋า" ของพรรค จะเหลือเฉพาะตำแหน่งอยู่ในสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ
นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายไพฑูรย์ แก้วทอง, นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.สัดส่วน นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เท่านั้น
ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันที่ 15 สิงหาคม 2551 ฉบับที่ 11115