อนุกรรมการสอบ พปช.ชง 'ยุบพรรค' กกต.เตรียมเรียกประชุมสัปดาห์หน้าก่อนยื่นศาล รธน.ชี้ขาด ' เทพเทือก' โบ้ย ส.ส.ร่วมทีม 'วิฑูรย์' แจกตั๋วหนัง ยันไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญหนียุบแน่ ด้านพลังประชาชนเตรียมเลือกตั้งใหม่คาดโดนยุบหลัง 5 ธ.ค. สะพัด 'เบนซ์ทองหล่อ' ทาบเช่าตึกไอเอฟซีทีต่อ
อนุกก.สรุปคดียุบพรรค'พปช.'
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาคารศรีจุลทรัพย์ นายประทีป เปรื่องวงศ์ อัยการอาวุโส เป็นประธาน คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณายุบพรรคพลังประชาชน (พปช.) กรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง (ใบแดง) เป็นระยะเวลา 5 ปี เนื่องจากมีการทุจริตการเลือกตั้งใน จ.เชียงราย ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 โดยเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนสรุปผลให้ประธาน กกต. เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ลงมติว่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ตามมาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ คณะอนุกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณายุบพรรคพลังประชาชนได้ส่งเอกสารหลักฐานเสนอต่อนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว เพื่อทำความเห็นเสนอต่อที่ประชุม กกต.เพื่อขอความเห็นชอบแจ้งต่ออัยการสูงสุดก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หลังจากนี้ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าจะมีความเห็นอย่างไร
ชงกกต.เสนอศาล'ยุบพรรค'
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะอนุกรรมการเห็นว่าควรส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค เนื่องจาก กกต.ได้เคยวางบรรทัดฐานในการพิจารณาคดียุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 103 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 94 ตีความว่าหากกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีส่วนรู้เห็นในการกระทำก็จำเป็นต้องยื่นเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรค โดยไม่ต้องพิจารณาเรื่องความเกี่ยวข้อง หรือความมีอำนาจในพรรคการเมืองแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาถึงความเกี่ยวข้องระหว่างการกระทำทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนในขณะนั้น กับความรู้เห็นของพรรคการเมือง ซึ่งศาลฎีกาก็ได้มีคำพิพากษาไว้ชัดเจนว่าการกระทำดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับพรรคและส่งผลประโยชน์ต่อพรรคอย่างชัดเจน ดังนั้น พรรคจึงต้องมีส่วนรับผิดชอบกับการกระทำครั้งนี้
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการได้เสนอเอกสารประกอบการพิจารณาให้กับนายทะเบียนพรรคการเมือง ประกอบไปด้วย สำนวนใบแดงของนายยงยุทธ ประกอบคำพิพากษาศาลฎีกา คำชี้แจงของนายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ซึ่งอาจใช้เป็นหลักฐานในการส่งให้อัยการสูงสุดทำคำร้องส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชนต่อไป
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านการบริหารการเลือกตั้ง ระบุว่า จะนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ในสัปดาห์หน้า เพราะ กกต.แต่ละคนจะต้องอ่านผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดก่อนการลงมติ
กกต.ปัดคำพยากรณ์'บิ๊กเติ้ง'
นายประพันธ์กล่าวถึงกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมาระบุว่า 15 สิงหาคม จะมีพรรคการเมืองได้รับใบแดง (เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง) ว่า ไม่ทราบว่านายบรรหารอ้างนั้นหมายถึงอะไร นายบรรหารอาจมีข้อมูลบางอย่าง ตนไม่ทราบ เพราะ กกต.ยังไม่ได้รับข้อมูลหรือสำนวนใดๆ ทั้งสิ้น และในวันที่ 15 สิงหาคม กกต.ไม่มีการประชุมด้วย
'วิฑูรย์' เลื่อนแจงกกต.
จากนั้นเวลา 15.30 น. มีการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบการร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งใน จ.อุบลราชธานี ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายสุธน แสงสายัณห์ อัยการอาวุโส เป็นประธาน โดยมีนายศุภชัย ศรีหล้า นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ และนายวิทวัส พันธ์นิกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา กรณีแจกคูปองเพื่อนำไปแลกบัตรชมภาพยนตร์หรือนำไปขึ้นเงินในช่วงที่มีการปราศรัยในโรงภาพยนตร์เนวาด้า จ.อุบลราชธานี ถือเป็นการจูงใจให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 4 และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เดินทางมาชี้แจงเพราะติดภารกิจประชุมสภา จึงเลื่อนเข้าชี้แจงในวันที่ 15 สิงหาคมแทน
'เทพเทือก'ยันไม่แก้รธน.หนียุบ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงผู้ที่กระทำความผิดไม่ใช่นายวิฑูรย์ แต่เป็นผู้สมัคร ส.ส.ที่เป็นลูกชายเจ้าของโรงภาพยนตร์เนวาด้า และกิจกรรมแจกตั๋วหนังก็มีมานานแล้ว ตั้งแต่ผู้สมัครคนดังกล่าวสังกัดพรรคชาติไทย จึงเป็นความผิดของคนอื่นไม่ใช่นายวิฑูรย์และยังมั่นใจว่าไม่มีความผิด ซึ่งได้พยายามรวบรวมเอกสารต่างๆ เพื่อชี้แจง กกต.ต่อไป
'แม้ว่า กกต.จะพิจารณาว่าคนของพรรคผิด แต่พรรคก็ยืนยันว่าจะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยให้คนพ้นผิดแน่นอน ถ้าจะแก้ก็ต้องแก้เพื่อบ้านเมืองเท่านั้น' นายสุเทพกล่าว
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า ผลการวินิจฉัยของ กกต.จะออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ และหากจะมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยืนยันว่าจะไม่คิดแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยเหลือเรื่องนี้เด็ดขาด และยืนยันว่าพรรคไม่มีการหาพรรคสำรอง เพราะสมัยที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ประชาธิปัตย์ก็ผ่านมาได้
พปช.คาดถูกยุบหลัง5ธ.ค.
แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคพลังประชาชนแจ้งว่า ขณะนี้พรรคพลังประชาชนอยู่ระหว่างการเตรียมจัดทัพการเลือกตั้งใหม่ หลังจากประเมินกันในระดับแกนนำว่าการยุบพรรคพลังประชาชนน่าจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 5 ธันวาคม 2551 แต่เชื่อว่าทันทีที่เรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะชิงยุบสภาก่อน โดยเบื้องต้นได้เตรียมชื่อพรรคเพื่อไทย และจดทะเบียนสำรองอีก 2 พรรค โดยคณะทำงานด้านวิชาการ กำลังคิดนโยบายเลือกตั้งครั้งใหม่อยู่ ซึ่งยังคงชู พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจุดขายเหมือนเดิม นอกจากนี้ ส.ส.พรรคที่แยกตัวไปอยู่พรรคอื่น เช่น พรรคเพื่อแผ่นดิน ในสายว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี และสายของสุชาติ ตันเจริญ ไปถึงพรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาจะกลับมารวมตัวกันในพรรคเดียวกันอีกครั้ง
สะพัดเบนซ์ทองหล่อเช่าตึก'พปช.'
แหล่งข่าวจากกลุ่มเพื่อนเนวินรายหนึ่งก็เชื่อว่าหากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ จะส่งผลให้นายสมัครและกรรมการบริหารพรรค 32 ราย ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ผู้ใหญ่ในพรรคบางส่วนจึงทาบทามให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นผู้นำพรรค เพราะประสานและใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีด้วย แต่ ส.ส.บางส่วนคัดค้านเพราะไม่ไว้วางใจ พล.อ.ชวลิต ที่เคยปฏิเสธครั้งที่ทาบทามเป็นนายกรัฐมนตรี จนต้องทาบทามนายสมัครแทน
ด้านแกนนำพรรคพลังประชาชนที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งว่า นายวสันต์ โพธิพิมพานนท์ เจ้าของเบนซ์ทองหล่อ ได้ติดต่อขอเช่าอาคารไอเอฟซีที ที่ทำการพรรคพลังประชาชน เพื่อเปิดสาขาเบนซ์ทองหล่อ
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายสมาน เลิศวงศ์รัตน์ นายทะเบียนพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่าจะย้ายที่ทำการพรรค อาคารดังกล่าวพรรคทำสัญญาเช่ากับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เดือนละ 2 แสนบาท
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า หากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ นายทะเบียนพรรคพลังประชาชนก็ได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคสำรองไว้แล้ว 2 พรรค ซึ่งจะต้องมีสมาชิกบางส่วนแตกไปอยู่กับพรรคอื่นๆ บ้าง แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นพรรคไทยรักไทยเดิมจะกลับมาอยู่รวมกันอีก
พปช.ให้'เลี้ยบ'ร่างกฎโควต้า
นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายของพรรค และนายสมาน เลิศวงศ์รัตน์ นายทะเบียนพรรคพลังประชาชนรับไปดำเนินการกำหนดรูปแบบการกำหนดกฎการจัดสรรการดำรงตำแหน่ง ตามข้อบังคับพรรค ข้อที่ 89 เพื่อให้คัดสรรบุคคลเป็นไปอย่างมีกฎเกณฑ์ และเป็นระเบียบมากขึ้น ไม่สะเปะสะปะเหมือนที่ผ่านมา และต้องยึดกฎเกณฑ์อย่างเข้มงวด ไม่อย่างนั้นคนในพรรคก็อยู่ไม่ได้ พรรคก็จะแตกแน่
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค รับจะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการเขียนหลักเกณฑ์การจัดสรรบุคคลเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง โดยคำนึงถึงความรู้ความสามารถ ความอาวุโสและสัดส่วนจำนวน ส.ส.ของแต่ละภาคเป็นสำคัญ ภาคอีสานมี ส.ส.มากก็เป็นธรรมดาที่จะได้รับตำแหน่งทางการเมืองมาก แต่ก็จะกระจายไปยังภาคอื่นๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในพรรคพลังประชาชนมี ส.ส.223 คน กลุ่ม 'เพื่อนเนวิน'เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด มี ส.ส.ในมือกว่า 90 คน และได้รับตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ มากมาย ล่าสุด คือการปรับ ครม.ที่ผ่านมา โดยเป็นที่รับรู้กัน ส.ส.ในโควต้า'แก๊ง ออฟ โฟร์' ที่มีนายเนวิน ชิดชอบ รวมอยู่ได้รับตำแหน่งมากที่สุด
'ก๊กเหนือขู่'สมัคร'เจอยกมือสวน
พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน คนใกล้ชิดนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเพื่อนเนวิน จะกำหนดหลักเกณฑ์การรับตำแหน่งทางการเมือง โดยคำนวณจากจำนวน ส.ส.ในมือว่า ทำได้ แต่ต้องกระจายไปยังกลุ่มอื่นๆ อย่างเป็นธรรม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีควรวางตัวให้ดี รับฟัง ส.ส.ทุกคนอย่างเป็นธรรม ถ้าไม่รับฟัง เกิดกลุ่มนั้นไปจับมือพรรคฝ่ายค้านแล้วยกมือสวนมติพรรครัฐบาลก็ยุ่งแล้ว เพราะถ้า ส.ส.ส่วนหนึ่งไม่พอใจ ไม่ยกมือให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณประจำปีที่อยู่ในสภา นายกรัฐมนตรีก็ต้องยุบสภา
ด้านนายสุวัฒน์ วรรณสิริกุล ประธานภาคกรุงเทพมหานคร (กทม.) คนใกล้ชิดคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม มีการพูดเรื่องนี้เพียงคร่าวๆ ไม่มีการลงลึกในรายละเอียด จึงไม่ทราบว่าจะกำหนดหลักเกณฑ์กันอย่างไร แต่จะใช้จำนวน ส.ส.เป็นตัวกำหนดสัดส่วนไม่ได้ หากเป็นอย่างนั้นภาคอีสานที่มี ส.ส.อยู่ร้อยกว่าคนก็เอาตำแหน่งต่างๆ ไปกินกันหมดพอดี
'มฌ.'ปัดรวม'พผ.'ตั้งพรรคใหม่
นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า เท่าที่พูดคุยในพรรค ส.ส.อีสาน เห็นพ้องกันว่าจะต้องรวมกัน เหมือนสมัยที่อยู่พรรคไทยรักไทย และยอมรับว่าได้คุยกับ ส.ส.พรรคมัฌชิมาธิปไตย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่จะไปอยู่ด้วยกัน หากพรรคพลังประชาชนตั้งพรรคใหม่ขึ้นมาใหม่
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) กล่าวปฏิเสธคำให้สัมภาษณ์ของนายรณฤทธิ์ชัย โดยระบุว่า กรรมการบริหารพรรคมัชฌิมาธิปไตยมอบหมายให้มาแถลงข่าวยืนยันว่าพรรคยังมั่นคงและไม่เคยคิดจะรวมกับพรรคใด ดังนั้นกระแสข่าวที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องจริง และหากพรรคถูกยุบก็เตรียมตั้งพรรคใหม่ไว้รองรับแล้ว แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
