สุวิทย์ย้ำถอนตัวเพื่อชาติ

"สุวิทย์" แจงใช้สิทธิหัวหน้าแถลงถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ย้ำจุดยืนเพื่อประเทศชาติ-ประชาชน

ชี้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.ลูกพรรคที่ไม่เห็นด้วย แนะพรรคถึงเวลาเลือก กก.บห.- หัวหน้าคนใหม่ หวังเห็นการเมืองใหม่สีขาวไร้ผลประโยชน์แอบแฝง วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ห้องมหาวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น  นายสุวิทย์  คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมเรื่อง วาระอ้อยแห่งชาติแผนปฏิบัติการพัฒนาด้านอ้อย จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ซึ่งมีเกษตรกรชาวไร่อ้อยประมาณ 3,000 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและมีความเข้าใจในแผนปฏิบัติการพัฒนาด้านอ้อยตามระเบียบวาระแห่งชาติและถือเป็นแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

จากนั้น นายสุวิทย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกจากรัฐบาลวานนี้ ว่า พรรคเพื่อแผ่นดินได้มีมติมอบอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองได้ทุกกรณี

ที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคไม่ได้ใช้มติดังกล่าว เมื่อถึงเวลาต้องใช้จึงได้ตัดสินใจใช้การไม่ขอร่วมรัฐบาลชุดต่อไป อย่างไรก็ตามตนได้ให้เกียรติ ส.ส.ของพรรคเช่นกัน เพราะ ส.ส.ย่อมมีเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องฟังมติพรรคก็ได้ ซึ่ง ส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดินทุกคนย่อมมีสิทธิ์ในการพิจารณา ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาในด้านการเมือง ถ้าเราไม่ยึดติดกับตำแหน่ง มีจุดยืนที่ถูกต้อง ถือเป็นสิ่งสำคัญของนักการเมือง การตัดสินใจถูกต้องอาจไม่ถูกใจ ไม่มีในเรื่องผลประโยชน์ ผลตัดสินใจถูกต้องแล้ว เพราะได้คำนึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลัก ผมขอยืนยันว่าได้ตัดสินใจบนพื้นฐานด้านผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
 
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนได้ตัดสินใจถอนตัวร่วมรัฐบาลชุดใหม่ ได้มี ส.ส.ในพรรคเพื่อแผ่นดิน มาพูดคุยกันหลายคน

ซึ่งได้มีการนัดประชุมพรรคในกรณีดังกล่าวในวันที่ 5 ส.ค.นี้ "ผมไม่ขอแสดงความคิดเห็นในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล หรือคนอื่น ๆ ในส่วนของผมได้ตัดสินใจไปแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการตัดสินใจของพรรคร่วมรัฐบาล ในอนาคตถือว่าเป็นเรื่องพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่จะตัดสินใจประการใด ถือว่าเป็นสิทธิของเขา มารยาททางการเมือง การตัดสินใจของพรรคการเมืองที่ได้เข้าร่วมรัฐบาลที่ได้ยึดหลักการอย่างไร พรรคการเมืองนั้นก็ยังได้ยึดหลักการอยู่เหมือนเดิม แต่ละคนไม่เข้าไปก้าวก่ายการบริหารการจัดการภายในของพรรคการเมืองแต่ละพรรค" นายสุวิทย์ กล่าว

ต่อข้อถามสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เตรียมประชุมใหญ่นำคนนอกมาเป็นหัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ตอบว่า ระบบพรรคการเมืองมีอยู่

การบริหารจัดการภายในพรรคการเมืองต้องยึดระบบพรรค การเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีขึ้นคงไม่มีปัญหาอะไร ปัจจุบันสิ่งที่ตนอยากเห็นคือการเมืองใหม่มีนักการเมืองที่ขาวสะอาด เป็นการเมืองที่ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง การเมืองที่คิดถึงประเทศชาติและประชาชนจริงๆ ถ้ายังมาคิดถึงตนเองก่อนบ้านเมืองไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งเป็นหลักการณ์ทางการเมืองที่ตนยึดถือมานาน โดยเฉพาะผลประโยชน์ของส่วนรวม ประเทศชาติ และประชาชน ซึ่งตนได้ตัดสินทางการเมืองตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา

"ผมได้มองผลประโยชน์ประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลักในการตัดสินใจทางการเมือง ผมจึงคิดว่าสังคมปัจจุบันบ้านเมืองของเราต้องการทุรกรรมทางบัญชี และความสมานฉันท์ จึงไม่ขอไปเข้าร่วมในส่วนของพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ในส่วนของผมเองที่กระทำลงไปและตัดสินใจในครั้งนี้ ถือว่า ทำเพื่อชาติ ประชาชนชน ยึดถือหลักการมาโดยตลอด ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญให้เป็นจุดยืนที่ผมต้องการทำการเมืองใหม่ให้เป็นการเมืองสะอาดบริสุทธิ์ มีความสมานฉันท์ ความรัก สามัคคีให้เกิดขึ้นกับบ้านเมือง ผมจึงไม่ไปทะเลาะกับใคร เถียงกับใคร

ในส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินคนใหม่ ผมขอบอกว่าถึงเวลาก็ต้องการมีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคขึ้นมาใหม่

โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคเพื่อแผ่นดินได้มีการประชุมแก้ไขกฎเกณฑ์พรรคไปและปรับปรุงโครงสร้างพรรคไปแล้ว เมื่อจะเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินคนใหม่ ก็จำเป็นต้องมีการเลือกตั้งขึ้นมา ซึ่งเป็นไปตามกบวนการข้อบังคับพรรค และ พ.ร.บ.พรรคการเมือง" นายสุวิทย์ กล่าว
 
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี “คิดดี พูดดี ทำดี”

ส่วนใครจะคิดอย่างไรก็สามารถคิดได้ ซึ่งไม่มีใครไปสามารถห้ามเขาไม่คิด หรือคิดเหมือนเราทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ ในส่วนที่ตนคิดว่าคิดแล้วเป็นส่วนที่ดีก็ตัดสินใจทำเลย  ตนมีความเชื่อมั่นว่าเมื่อคิดทำในสิ่งที่ดี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเราก็จะดีไปหมด ส่วน ส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดินส่วนหนึ่งมีความคิดเห็นเป็นอย่างอื่นที่คิดไม่ตรงกับการตัดสินใจของตน และจะไม่เข้าร่วมกับการตัดสินใจของตน โดยคงจะอยู่กับพรรคที่ร่วมรัฐบาลเก่านั้น ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกพรรคตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเห็นใจเช่นกัน เพราะเขาต้องมีความรับผิดชอบ และการตัดสินใจที่ถูกต้องของเขาเช่นกัน จึงไปกีดกันไม่ให้เขาคิดในส่วนที่เขาอยากจะทำก็ไม่ได้เช่นกัน จึงว่าไปตามกระบวนการของพรรคการเมือง

"ในส่วนที่พรรคการเมืองอื่นได้เสนอความคิดเห็นว่า อาจจะมีงูเห่าสองเกิดขึ้นมาในรัฐบาลชุดใหม่ ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่เขาจะคิดได้ ซึ่งไม่ขอแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม ในการตัดสินใจของผม ผมตัดสินใจอย่างไร ผลจะเป็นอย่างไร ผมจะได้เล่าให้ ส.ส.ในพรรคทราบในช่วงที่มีการประชุมกัน โดยแจ้งให้ทราบกระบวนการตัดใจไม่ขอร่วมรัฐบาลกับรัฐบาลชุดใหม่เป็นอย่างไร ดังนั้นขอให้พวกเราอย่าไปคิดมากเพราะบ้านเมืองของเราได้บอบช้ำมามากแล้ว อย่าให้บอบช้ำต่อไปอีกเลย ผมขอยืนยันว่า การถอนตัวจากการไม่ร่วมรัฐบาลนั้นอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ยึดผลประโยชน์ของชาติ ประชาชนเป็นสำคัญจึงสามารถตัดสินใจในการกระทำของตนได้ง่าย" นายสุวิทย์ กล่าว