ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชากรณีเขาพระวิหาร ว่า กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เปิดฉากรุกทางการทูต
ด้วยการยื่นเรื่องส่งตรงถึงทั้งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) และอาเซียน ให้เร่งเข้ามาเป็นตัวกลางยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยขอความช่วยเหลือจากยูเอ็นเอสซี ขอให้รีบเปิดประชุมฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยึดแนวทางกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลัก หลังจากการเจรจาระดับสูงระหว่างทั้ง 2 ประเทศล้มเหลว
นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กัมพูชาและไทยอดทน
หลังจากที่การเจรจาระหว่าง 2 ประเทศล้มเหลวในการแก้ปัญหาชายแดนเขาพระวิหาร ทั้งนี้ นายบัน คีมุนแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าว ว่าจะกลายเป็นความรุนแรง รวมถึงการเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ โดยหวังว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะสามารถแก้ไขอย่างสันติวิธีด้วยวิธีทางการทูต
นอกจากนี้ ทางสำนักข่าวเอเอฟพียังรายงานด้วยว่า นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งจดหมายถึงองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก
ในฐานะผู้รับขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก จนกลายเป็นชนวนเหตุของความขัดแย้งกับประเทศไทย ว่าฝ่ายไทยกำลังแสดงพฤติกรรมคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างรุนแรง และฝ่าฝืนหลักการทุกประการที่เขียนไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากยกกำลังทหาร และขนอาวุธหนักมาประชิดใกล้กับปราสาทเขาพระวิหาร ทั้งที่ปราสาทพระวิหารแห่งนี้ได้รับความคุ้มครองในฐานะมรดกโลก
ทางรัฐบาลกัมพูชาจึงขอให้ยูเนสโก นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเลขาธิการยูเอ็น และคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น
เพื่อให้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และหลีกเลี่ยงไม่ให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกัน เพราะไม่เช่นนั้นปราสาทพระวิหารอาจได้รับความเสียหาย เพราะผลจากการเผชิญหน้าทางทหารที่เกิดขึ้นมานานนับสัปดาห์แล้ว