สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวันเดียวกันว่า ได้รับสำเนาจดหมายฉบับล่าสุดของ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ส่งถึงนายกรัฐมนตรีไทยลงวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า ไทยเป็นฝ่ายผิดในเหตุการณ์เผชิญหน้าที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร อ.กัณทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ทั้งนี้เป็นจดหมายตอบกลับจดหมายของนายสมัคร นายกรัฐมนตรีไทย ที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาไปเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมก่อนหน้านี้
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาอ้างว่า หากพิจารณาตามแนวเขตแดนตามแผนที่ซึ่งเคยใช้ประกอบการพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก)
ซึ่งพิจารณาแล้วพิพากษาเมื่อปี 2505 ให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พระเจดีย์ สิขะสะวาระ ในบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสะวาระ ซึ่งเป็นจุดที่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าอยู่ในเวลานี้นั้น "ตามกฎหมายแล้วอยู่ลึกเข้ามาในดินแดนของกัมพูชา 700 เมตรโดยประมาณ ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าความพยายามร่วมกันของเรา จะยังผลให้เกิดทางแก้ปัญหาที่เป็นที่พึงพอใจของทั้งสองฝ่ายต่อปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันนี้"
ด้านพลจัตวา เจีย เกียว ผู้บัญชาการทหารกัมพูชาประจำพื้นที่จังหวัดพระวิหาร กล่าวกับเอเอฟพีว่า พล.อ. กุน กิม รองผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา
ได้ไปพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร เยี่ยมเยือนทหารและบอกกับบรรดาทหารที่ประจำการอยู่ในบริเวณดังกล่าวให้อดทนและทำงานหนักเพื่อให้เวลากับรัฐบาลแก้ปัญหาครั้งนี้