ในอนาคตหญิงไทยที่ใช้ นาง จะเหลือน้อยลง

นายอวยชัย  อินทร์นาค ผู้อำนวยการส่วนทะเบียนทั่วไป กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กล่าววันนี้ (13 ก.ค.) ว่า หลังจาก พ.ร.บ. คำนำหน้านามหญิง มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ข้อมูลภาพรวมการขอจดทะเบียนทั่วประเทศถึงวันที่ 9 กรกฎาคม มีจำนวน 50,890 คน จำนวนนี้ขอใช้ “นาง” จำนวน 16,420 คน ขอใช้ “นางสาว” จำนวน 34,417 คน  หญิงที่มาจดทะเบียนสมรสใหม่รวม  25,745 คน ขอใช้ “นาง” จำนวน 12,681 คน ขอใช้ “นางสาว” จำนวน 13,040 คน ขอใช้กรณีอื่น ๆ เช่น ยศ จำนวน  24 คน  ขณะที่หญิงที่มาจดทะเบียนหย่าทั้งสิ้น  8,912 คน ขอกลับไปใช้ “นางสาว” จำนวน  5,688 คน ขอใช้ “นาง” คงเดิมจำนวน 3,205 คน ขอใช้กรณีอื่น ๆ จำนวน  19 คน  ขณะที่หญิงที่จดทะเบียนสมรสแล้วจำนวน 6,033 คน มาขอใช้ “นาง” จำนวน 483 คน  แต่กลับมาขอใช้ “นางสาว” มากถึง 5,547 คน  ขอใช้กรณีอื่นจำนวน 3 คน  ส่วนหญิงที่จดทะเบียนหย่าไปก่อนหน้านี้แล้ว นำใบทะเบียนหย่ามาใช้คำนำหน้านามจำนวน  10,200 คน ขอใช้ “นางสาว” เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ คือ จำนวน 10,142  คน ขณะที่ยังขอใช้ “นาง” มีจำนวน 51 คน ขอใช้กรณีอื่นจำนวน 7 คน นายอวยชัย กล่าวด้วยว่า เมื่อดูจากตัวเลขเพียงกว่า 1 เดือน ที่กฎหมายคำนำหน้านามหญิงมีผลบังคับใช้ มีแนวโน้มที่ผู้หญิงจะเลือกใช้ “นางสาว” กันมากขึ้น ทั้งผู้ที่จดทะเบียนสมรสใหม่หรือผู้ที่จดทะเบียนอยู่แล้ว ดังนั้นต่อไปคำนำหน้าหญิงกับชาย จะเท่าเทียมกันคือไม่สามารถแยกแยะถึงสถานภาพได้ ในอนาคตคำนำหน้านามหญิง “นาง” จะมีเหลือน้อยลง