"จำลอง"ลั่นม็อบไล่"ทักษิณ" 26ก.พ.ชุมนุมแบบยืดเยื้อ
"จำลอง ศรีเมือง" ระบุ เหตุผลออกมาขับไล่"ทักษิณ"เพราะขายหุ้นชินฯเลี่ยงภาษีและปล่อยให้"สมัคร-ดุสิต" ออกมาจาบจ้วง"ป๋าเปรม" เผย จะแจ้งกลุ่มพันธมิตรว่าจะชุมนุม 26 กพ.แบบยืดเยื้อ ปักหลัก
ทำเนียบ/20 ก.พ.49 -- พล.ต. จำลอง ศรีเมือง ประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ เอฟเอ็ม 98.0 เมกกะเฮิร์ตซ ถึงสาเหตุที่ประกาศร่วมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันที่26ก.พ. ว่า เหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมาตนมาทีหลังทุกครั้ง เพราะกลุ่มที่ออกมาก่อนอาจจะไม่สำเร็จ ตั้งแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพวกเผด็จการจนถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ตนออกมาลำดับหลังๆคือประมาณเกือบเดือนจึงออกมา เช่นเดียวกันกับครั้งนี้ ซึ่งตนได้คิดแล้วคิดอีกหลายครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจ
เมื่อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวหลังคนอื่นมีเงื่อนไขอะไร โดยเฉพาะการออกมาไล่นายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า บนเงื่อนไขก็คือ ตนจะไปร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน รวมทั้งสมาชิกที่เรียกว่ากองทัพธรรมที่ตนเป็นประธานอยู่ เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของธรรมะ ผู้สื่อข่าวถามว่าการตัดสินมาร่วมภายหลังเพราะว่ากระแสที่ก่อขึ้นมีพลังไม่พอที่จะไล่นายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ก็ไม่เชิง เมื่อดูๆ ไปแล้ว เราไม่ทราบว่าจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ที่มีการขอร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก แต่เมื่อตนไปเพิ่มเติมอีกหนึ่งคน ก็อาจจะมีส่วนบ้าง ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเลอเลิศ เมื่อถามว่า พล.ต.จำลอง คิดในใจตั้งนานแล้วหรือไม่ ว่านายกรัฐมนตรีต้องลาออก พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนได้วิเคราะห์ติดตามสถานการณ์มาเรื่อยๆ พร้อมทั้งมีการปรึกษาหารือกับผู้ที่มีความสนใจทางการเมืองมาตลอดเวลา เช่น อะไรจะพอช่วยกันได้ อะไรพอจะไหวหรือไม่ หรือจะช่วยอะไรกันได้บ้าง ซึ่งตรงนี้เราก็หารือกันมาตลอด ไม่ใช่เฉพาะครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า บทสรุปที่ว่านายกรัฐมนตรีควรลาออก เกิดขึ้นนานแล้วหรือไม่ พล.ต. จำลอง กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาในตอนที่นายกรัฐมนตรีขายหุ้นชินคอร์ป ตนได้มีจดหมายรักไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อถามว่า บทสรุปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่มีการซื้อขายหุ้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ใช่เป็นการขายหุ้นหลังการแก้ไขกฎหมายซึ่งเป็นการจงใจแก้กฎหมาย เพียงสองวันเท่านั้น อย่างนี้เราเห็นว่า มันน่าเกลียด และตนก็เคยพูดกับพ.ต.ท.ทักษิณสมัยที่อยู่พรรคพลังธรรมเสมอๆ ซึ่งตนเขียนไว้ในจดหมายรักว่า เป็นนักการเมือง ซื่อสัตย์สุจริตอย่างเดียวไม่พอ ต้องเสียสละด้วยเพราะฉะนั้นการที่ออกมาบอกว่าไม่ต้องเสียภาษี ถ้านายกฯ จะเสียภาษีอีกอย่างหนึ่งก็ไม่มีใครว่า ก็ควักออกมา 26,000 ล้านบาท เอามาช่วยคนยากคนจนก็ยังเหลือเงินอีก 46,000 ล้านบาท ถ้าใช้เป็นพันๆ ชาติก็ไม่หมดเลย
เรื่องภาษีก็ถูกต้องตามกฎหมายแต่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นผู้นำประเทศ จะเสียสละอะไรสักอย่าง ใครจะว่าอย่างไร แล้วก็จะมีการสรรเสริญเยินยอว่าท่านเป็นผู้เสียสละ พล.ต.จำลอง กล่าว และยอมรับว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของกฎหมาย เป็นการแก้กฎหมายเพียงสองวันไม่ใช่ 2 ปีแล้วเรื่องขายหุ้นจึงเกิด ซึ่งครั้งนี้ถือว่าไม่มีครั้งไหนที่ครู -อาจารย์ จะรวมตัวกันเป็นปึกแผ่น เหมือนครั้งนี้ โดยเฉพาะคณาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ก็ออกมาระบุด้วยว่า ไม่สามารถจะสอนลูกศิษย์ได้ หากยังเป็นอย่างนี้อยู่ จึงอยากให้นายกฯ ลาออก ตนก็เห็นตรงกับเรื่องนี้และครู-อาจารย์เหล่านั้น ก็ไม่ได้ออกมาชักชวนอะไรตน เพราะตนเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเอง และครู--อาจารย์เหล่านี้ก็มีตำแหน่ง
ไม่ใช่จะเป็นคณบดี คณะนั้น หรือ คณะนี้กันง่ายๆ เขาก็คงจะถูกกลั่นแกล้งอะไร เมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อเขาเหล่านี้ยืนหยัดออกมาแล้ว ผมซึ่งตกอยู่ในสองสถานะ ที่จะต้องรับผิดชอบ หากเราไม่ออกมาเลย มันทำไม่ได้ และครูบาอาจารย์เหล่านี้ ท่านก็ไม่ได้เชื้อเชิญให้ท่านนายกฯมาเล่นการเมือง และกรณีที่มีการจาบจ้วง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ครูบาอาจารย์เหล่านี้ก็ไม่ได้ โยงใย อะไรกับ พล.อ.เปรม แต่ผมรับใช้ พล.อ.เปรม มาตลอด และผู้ที่รู้จักมักคุ้นกับผมรวมทั้งพี่ๆ น้อง ทั้ง 3 เหล่าทัพก็โทรมาหาผม ว่าพอแค่นี้เหรอ เขียนแค่จดหมายรักแค่นี้เองเหรอ ทั้งๆที่ผมก็คิดว่าผมทำไปเยอะแล้วพล.ต.จำลองกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า พล.ต.จำลอง มีประวัติศาสตร์ร่วมทั้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ. เปรม เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ก็ย่อมรู้สึกเป็นธรรมดา พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ใช่ เมื่อถามว่า แต่นายสมัคร สุนทรเวช และ นายดุสิต สิริวรรณ สองพอธิกรที่จ้าบจงพล.อ.เปรมได้แสดงความรับผิดชอบระดับหนึ่ง คือ ปิดตัวเองจากการจัดรายการไปแล้ว พล.ต.จำลอง กล่าวว่า คงไม่ใช่ปิดตัวเอง แต่เป็นการถูกปิดมากกว่าเมื่อถามว่า หากถูกสั่งปิด แสดงว่ารัฐบาลตระหนักถึงปัญหานี้ ถือว่าเพียงพอหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ในความรู้สึกของตนในเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่จะจริงจัง แต่ในความรู้สึกของผู้ที่คุ้นเคย- ผู้ที่เคารพนับถือ พล.อ.เปรม เมื่อคนเหล่านี้อยากจะให้ดำเนินการอะไรต่อ และก็มีข่าวว่า ผู้ที่เป็นต้นเหตุเดินทางไปต่างประเทศแล้ว ตนก็ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ การขอขมาก็ไม่เกิดขึ้น แต่ตนก็ไม่เคยออกมาเร่งรัดให้ขอขมา แต่ตนเร่งรัดว่า ที่ทำไปมันผิด เพราะการที่ทั้งสองคนออกมาจาบจ้วง พล.อ.เปรม ก็เพื่อปกป้องนายกรัฐมนตรีโดยตรง ขอให้ไปอ่านจดหมายของตนให้ดี
เมื่อถามว่า ที่ พล.ต.จำลอง ระบุว่า อยากให้มีต่อตรงจุดไหน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ใช่ อยากให้มีต่อ แต่ทหาร 3 เหล่าทัพ พูดคล้ายๆว่า เมื่อตนเคยเป็นลูกน้องป๋า (พล.อ.เปรม) มา และก็เคยไปเชื้อเชิญพ.ต.ท.ทักษิณมาเล่นการเมือง จะทำแค่นี้พอเหรอ เมื่อถามว่า แสดงว่าทหาร 3 เหล่าทัพ กลุ่มนั้นประสงค์ให้ พล.ต.จำลอง ทำอะไร อย่างใดอย่างหนึ่ง พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ใช่กลุ่ม แต่เป็นรายบุคคล เมื่อซักต่อว่าบุคคลเหล่านั้น มีความคาดหวังต่อ พล.ต.จำลอง ที่จะเคลื่อนตัวอย่างไร ประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ กล่าวว่า เขาไม่ได้บอก แต่ให้ตนคิด เท่านั้นเอง เพราะเขาเห็นตนอายุมาก คงไม่ต้องบอกหรือกล่าวอะไรกัน เมื่อถามว่า สิ่งใดเป็นประเด็นหลัก หรือประเด็นประกอบ ที่ออกมาขอร้องครั้งนี้ นับตั้งแต่การขายหุ้น การไม่เสียภาษี หรือ การจาบจ้วง พล.อ.เปรม พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เมื่อประกอบกันแล้วก็มีหลายอย่าง ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะตนรู้ว่า หากออกมาพูดอะไร ก็จะถูกลูกหาบพรรคไทยรักไทย ออกมาจาบจ้วงแน่นอน เช่น กล่าวหาว่าตนเคยพาคนไปตาย ใครจะไปรู้ว่าตนไม่เคยพาคนไปตาย เป็นต้น
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. ได้ออกมายอมรับ ให้พล.ต.จำลองร่วมขับไล่นายกรัฐมนตรีด้วย แต่มีเงื่อนไขว่า พล.ต.จำลอง จะต้องไม่เป็นผู้นำคนเดียว และต้องมีการคิดร่วมกันก่อน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนคิดว่านายสุริยะใสไม่รู้ คงพูดไปตามที่ไม่รู้ ไม่รู้ว่าเมื่อช่วงพฤษภาทมิฬก็มีการประชุมกัน เช่น มีการให้หยุดในวันที่ 10 พ.ค. เพื่อดูว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีการดำเนินการอะไรหรือไม่ แล้ว 17 พ.ค. ตอนนั้นตนก็ไม่เห็นด้วย เมื่อประชาชนมาเป็นแสนคนแล้วไปบอกให้กลับ แล้วให้เขามาทำไม แต่เราก็ต้องทำตามมติของที่ประชุมส่วนรวม
คราวนี้ผมพูดตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ผู้สื่อข่าวไม่เอาไปลง ไม่ต้องกลัวว่าจะผมจะเข้าไปชิงใน การนำอะไร ผมไม่รู้จะเอาชื่อเอาเสียงไปทำอะไร อายุ 70 ปี 1 เดือน กับอีก 15 วัน แล้ว มันมากมายก่ายกองแล้วไม่รู้จะเอาไปทำอะไร นั้นก็สบายใจได้ว่า ผมในฐานะที่เป็นผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่ง เมื่อมีการเรียกร้องและมีความคิดเห็นตรงกัน คืออยากให้นายกรัฐมนตรีลาออก พล.ต.จำลอง กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รูปแบบการชุมนุมของกลุ่มกองทัพธรรมจะเป็นอย่างไร พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มตนจะเป็นเหมือนเดิม คือจะบอกกลุ่มพันธมิตรว่า ตนก็ต้องยืดเยื้อ ปักหลัก และตนก็เชื่อว่าคณะพันธมิตร ก็คงจะไม่คัดค้าน ซึ่งเขาก็คงมองว่าเป็นเรื่องดี ตนใช้คำว่า ชุมนุมอย่างจริงจัง แต่ไม่ทราบว่าจะปักหลักเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ ไม่ใช่ไปตอนเย็นๆ แล้วดึกๆ กลับ ไม่ใช่อย่างนั้น
เมื่อถามว่า นายกฯ ไม่ลาออกไม่เลิกชุมนุมใช่ไหม พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น คนไทยไม่ชอบการข่มขู่ แต่เมื่อถึงวันนั้นแล้วก็อาจมีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือดีกว่านั้น โดยอาจไม่ถึงขั้นที่ต้องมีการชุมนุม เมื่อถามว่าตรงนั้นเป็นความคาดหวังหรือการวิเคราะห์ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนแค่ฟัง ก็ไม่ต้องเหนื่อยลำบากลำบนอะไร ใครอยากไปกินไปนอน ไปลำบากอยู่บนท้องสนามหลวง