นับถอยหลังรัฐบาลสมัคร วิบากกรรมยังไม่จบ... แต่ศพเกลื่อน

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง นับถอยหลังรัฐบาลสมัคร วิบากกรรมยังไม่จบ... แต่ศพเกลื่อน

แม้ขณะนี้ "ฝ่ายการเมือง" จะละเว้นการจองล้างจองผลาญรัฐมนตรีอีก 35 ชีวิต แต่เชื่อว่าสังคมทุกภาคส่วนจะทวงถามความรับผิดชอบจาก ครม. ในฐานะ "ผู้สนับสนุนหลัก" ให้ "นพดล" ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมฯ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนอย่างแน่นอน

ชะตากรรมรัฐบาลภายใต้การนำของ "สมัคร สุนทรเวช" นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เริ่มนับถอยหลังทันที

เมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญลงมติ 8 ต่อ 1 ว่าแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นหนังสือสนธิสัญญาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน

นั่นหมายความว่า "นพดล ปัทมะ" รมว.ต่างประเทศ ในฐานะผู้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมฯ ลงวันที่ 18 มิถุนายน มีสิทธิกระเด็นตกเก้าอี้เสนาบดีเป็นรายที่ 2 ตามก้น "จักรภพ เพ็ญแข" อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีผู้มี "ทัศนคติอันตราย" ไปติดๆ

ล่าสุด ส.ว. เตรียมงัดมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญาขึ้นมาเล่นงาน ครม. ทั้งคณะ

นอกจากนี้ "ศัตรูถาวร" อย่างพรรคประชาธิปัตย์ยังประกาศล่ารายชื่อ ส.ส. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 (จำนวน 120 คน) ร้องขอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อถอดถอน "นพดล" ออกจากตำแหน่งตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ หลังมีพฤติกรรม "ส่อว่าจงใจใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ"

อย่างไรก็ตาม "ฝ่ายแค้น" กลับยอม "ปล่อยผี" รัฐมนตรีรายอื่นๆ โดยอ้างว่าหลักฐานไม่แน่นพอ

ที่สำคัญมีการทอดไมตรีให้ "กิ๊กเก่า" อย่างออกหน้าออกตา โดยระบุว่าจะนำบันทึกวาระประชุม ครม. มาดู หากพบว่ารัฐมนตรีคนใดแสดงความเห็นคัดค้าน ก็อาจไม่ต้องร่วมรับผิดชอบ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าบุคคลที่ช่วยกันทำหน้าที่ "แยง(เรื่อง)-แย่ง(ซีน)–แย้ง(นพดล)" อย่างแข็งขันในช่วงที่ผ่านมา

คนหนึ่งคือ "สุวิทย์ คุณกิตติ" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม จากพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.)

อีกคนหนึ่งคือ "สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล" รมว.เกษตรและสหกรณ์ จากพรรคชาติไทย (ชท.)

เป็น "2 บิ๊ก" จาก 2 พรรคที่กำ 58 เสียงอยู่ในมือ

หาก ปชป. เดินหน้ายื่นถอดถอน ครม. ทั้งคณะ ย่อมทำให้พรรคร่วมรัฐบาลจะกลายเป็น "นักโทษ" ในสายตาของสังคมทันที

ในทางกลับกันหาก ปชป. ให้อิสระ "พันธมิตร พปช." กลับใจ โดยใช้กระแสสังคมเป็นตัวกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลแสดงสปิริตถอนตัว หรือลาออกเอง ย่อมทำให้คนการเมืองเหล่านั้นพอใจกับภาพ "พระเอก" ที่ได้รับ และมีโอกาสจะ "คบค้า" กับ "พลพรรคค่ายสะตอ" เมื่อโอกาสอำนวย

แม้ขณะนี้ "ฝ่ายการเมือง" จะละเว้นการจองล้างจองผลาญรัฐมนตรีอีก 35 ชีวิต แต่เชื่อว่าสังคมทุกภาคส่วนจะทวงถามความรับผิดชอบจาก ครม. ในฐานะ "ผู้สนับสนุนหลัก" ให้ "นพดล" ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมฯ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนอย่างแน่นอน

เพราะรายการนี้ชัดเจนว่า ครม. กระทำการขัดมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งฝ่ายบริหารสูงสุดจะอ้างว่าไม่รู้ข้อกฎหมาย หรือไม่มีเจตนาจะทำผิดคงไม่ได้

เมื่อเป็นเช่นนี้รัฐบาลที่มีมลทินจะนั่งบริหารประเทศอยู่ได้อย่างไร?

นอกจากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญแล้ว "สมัครกับพวก" ยังเผชิญวิบากกรรมถึงขีดสุด เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือให้ใบแดง "ยงยุทธ ติยะไพรัช" ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน (พปช.) ในคดีกระทำความผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550

แน่นอนกรณีนี้ "ยงยุทธ" ไม่ได้ "ตายเดี่ยว" แต่อาจเกิดโศกนาฏกรรมการเมืองภาค 2 ขึ้นกับกรรมการบริหาร (กก.บห.) พปช. ทั้ง 37 ชีวิต เนื่องจาก "ยุทธตู้เย็น" มีสถานะเป็นรองหัวหน้า พปช.

จากนี้ "บิ๊ก พปช." คงต้องนั่งนับถอยหลังวันสิ้นลมการเมืองแบบวันต่อวัน หลัง กกต. เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ พปช. ตามมาตรา 103 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. เพราะอาจทำให้คนการเมือง 37 ชีวิตต้อง "ตายหมู่" เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับการ "สั่งยุบ" พรรคไทยรักไทย (ทรท.) พร้อม "ขังลืม" กก.บห.ทรท. 111 คน

ท้ายที่สุดผลแห่งการทำหน้าที่ของ "อำนาจที่ 3" ได้ทำให้รัฐบาล "สมัคร" กลายเป็นฝ่ายบริหารที่หมดความน่าเชื่อถือ ซ้ำยังมีรัฐมนตรีพร้อมแปลงสถานะเป็น "ผู้ถูกกล่าวหา" ในหลายคดี ยังไม่รวมคดียุบพรรคการเมืองอื่นที่ถูก "เรียงคิวเชือด" อีก

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนหัวรั้นอย่าง "สมัคร" ไม่น่าจะยอมคายอำนาจง่ายๆ

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภารกิจสำคัญที่ได้รับมอบหมายจาก "นายใหญ่" ยังไม่บรรลุผล

อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีภารกิจเฉพาะหน้าต้องทำ 2 อย่าง ได้แก่ การผ่านงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 และการวางฐานกำลังข้าราชการในการแต่งตั้งโยกย้ายเดือนตุลาคม

แม้วิบากกรรมของ "สมัครกับพวก" จะยังไม่จบ แต่ระเบิดเวลาเริ่มนับถอยหลังเรียบร้อยแล้ว!!!