อปท.-นักวิชาการรุมค้านวาสนา ยกจัดเลือกตั้งท้องถิ่นหวังอยู่ต่อ

นายกอบจ.-นักวิชาการภาคใต้ รุมค้าน "วาสนา" ยกยังต้องการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นนั่งเก้าอี้ประธาน กกต. ต่อ ระบุเป็นคำอ้างหมดความชอบธรรม เหตุ กกต.จังหวัดทำได้ดีอยู่แล้ว ปลัด อบต.ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับ กกต.ชุดนี้ ประธาน กกต.ไม่พูดผลประชุมพิจารณาพรรคใหญ่จ้างพรคคเล็ก เผย 2 วัน รู้ผล

5 มิ.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประชุมเพื่อพิจารณากรณีพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กเสร็จแล้ว พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยหนังสือตามที่มีการระบุก่อนหน้านี้ โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผมต้องรายงานให้พวกคุณทราบทุกเรื่องเลยเหรอ"


เมื่อถูกถามว่าจะทราบผลการสรุปทุกเรื่องในอีก 2 วันหรือไม่ พล.ต.อ.วาสนา กล่าวสั้นๆว่า ใช่ พร้อมกับเดินเข้าไปยังห้องทำงานของตัวเอง

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่4 มิ.ย.พล.ต.อ.วาสนา ได้ระบุถึงสาเหตุที่ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งโดยยกการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นกว่า 300 แห่งระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ ได้มีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ออกมาแสดงความเห็น

ท้องถิ่นยันกกต.ลาออกกระทบเลือกตั้ง

นายยอดยิ่งจันทนพิมพ์ ที่ปรึกษาสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะช่วงนี้ อปท.หลายแห่งกำลังจะหมดวาระลงตามกฏหมาย ก็มีระเบียบชัดเจนว่าหากหมดวาระจะต้องมีการเลือกตั้งภายในกี่วัน หาก กกต.ลาออก ก็จะทำให้การจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เป็นไปตามกำหนด

"หากลาออกก็จะไม่มี กกต.จัดการเลือกตั้ง จะต้องใช้เวลาสรรหา กกต.ขึ้นมาใหม่ ทำให้การเลือกตั้งท้องถิ่นที่มีหลายแห่งที่หมดวาระต้องล่าช้าออกไป ส่วนตัวมองว่าการที่ กกต.ไม่ลาออกเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามระเบียบ ไม่ใช่ข้ออ้างเหมือนหลายฝ่ายออกมาโจมตีแต่อย่างใด" นายยอดยิ่ง กล่าวและว่า

ถึงแม้ว่าชื่อการเลือกตั้งจะเป็นเพียงการเลือกตั้งท้องถิ่นแต่จริงๆ แล้วมีความรุนแรงไม่แพ้การเมืองระดับอื่นๆ เพราะเป็นการเลือกตั้งนายกโดยตรง หาก กกต.ไม่มีความเที่ยงธรรมการเมืองในระดับท้องถิ่นก็ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชนและเสียหายต่อประเทศชาติ

ด้านนายสมพันธ์เตชะอธิก นักวิชาการมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เป็นเพียงข้ออ้างในการต่อสู้เท่านั้น เหมือนกับการขึ้นหลังเสือแล้วอ้างว่าลงไม่ได้ ที่ผ่านทำเรื่องไม่ถูกต้องไว้มาก เกรงว่าการลงมาจะกลายเป็นจำเลย หากลงมาแล้วไม่มีสถานภาพยิ่งลำบากกว่าเดิมจึงไม่ยอมลาออกโดยใช้ข้ออ้างต่าง ๆ นานา

"เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับ 3 ศาลว่าจะพิจารณาคดีต่าง ๆ อย่างไร หากพบว่าผิดก็ต้องเอาบทลงโทษมาใช้กับ กกต.ชุดนี้ เพราะเชื่อว่าหากไม่ใช้บทลงโทษบีบ กกต.ชุดนี้คงไม่มีจิตสำนึกในการลาออกแน่ ดังนั้น การตัดสินต่าง ๆ ต้องให้ 3 ศาลเร่งพิจารณา ยิ่งพิจารณาเร็วเท่าไหร่ก็จะเป็นการดีต่อประเทศเท่านั้น" นายสมพันธ์ กล่าวและว่า

ยิ่งช่วงนี้ใกล้ที่จะมีการเลือกตั้งใหม่รวมทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งจากปัญหาการเลือกตั้งที่ผ่านมา กกต.ควรพิจารณาตัวเองลาออก เพื่อปรับระบบการเลือกตั้งใหม่ โดยการสรรหา กกต.ชุดใหม่ ควบคู่ไปกับการปฏิรูปการเมืองใหม่ ไม่ให้มีการเมืองน้ำเน่าเหมือนสมัยอดีต

อปท.ใต้ไม่หวั่นมีกกต.จังหวัดดูแลอยู่แล้ว

นายนวพล บุญญามณี (คนในภาพ) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา กล่าวว่า พล.ต.อ.วาสนา ไม่น่าจะกล่าวอ้างเหตุผลเช่นนี้ เพราะเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะคำกล่าวอ้างที่ว่าต้องติดภาระกิจในการจัดการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นในระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมนี้ เพราะหากลาออกเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองอย่างแท้จริง ก็คงมีบุคคลอื่นๆ เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวแทนได้ เรื่องดังกล่าวน่าจะขึ้นอยู่กับจริยธรรมและสามัญสำนึกของผู้ทำหน้าที่ในองค์กรมากกว่า

"ที่ผ่านมามองว่า พล.ต.อ.วาสนา ขาดความชอบธรรม ขาดจริธรรม และขาดสามัญสำนึกในการบริหารองค์กรอยู่มาก อีกทั้งในสภาวการณ์ที่คนในบ้านเมืองต้องการแก้ไขวิกฤติทางการเมืองในลักษณะเช่นนี้ ท่านก็ควรมีจิตสำนึกด้วยการขอลาออกจากตำแหน่ง และต้องคิดว่าการลาออกตามคำเรียกร้องของประชาชนหมู่มากนั้นเป็นการลาออกเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ประกอบกับจากการรับฟังข้อมูลข่าวสารและการสังเกตด้วยตัวเองผมมองว่า พล.ต.อ.วาสนา ยังขาดความชอบธรรมในการบริหารองค์กรอยู่มากเช่นกัน" นายก อบจ.สงขลา กล่าว

ด้านนายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี นายก อบจ.พัทลุง กล่าวว่า แม้อำนาจทางกฎหมายจะมีผลให้ พล.อ.วาสนา สามารถดำรงตำแหน่งประธาน กกต.ได้ แต่ถ้าหากพิจารณาจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นหลังกำหนดให้มีการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมานั้น พบว่าความเชื่อมั่นและความศรัธาในระบอบประชาธิปไตยของ พล.อ.วาสนา ไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ทาง กกต. แต่ละจังหวัดสามารถดำเนินการได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องอาศัย กกต.จากส่วนกลางมาดำเนินการ เพราะอาจจะทำให้เกิดความไม่โปร่งใส ที่สำคัญหากใช้ กกต.ประจำจังหวัดมาดำเนินการเองจะเป็นการง่ายที่จะตรวจสอบหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

"การที่ พล.อ.วาสนา อ้างเหตุผลว่าเป็นห่วงการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ผมคิดว่าไม่มีความสมเหตุสมผล เพราะหากกลับไปมองความรับผิดชอบในส่วนของการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งที่ผ่านมากลับพบว่าทุกอย่างได้ดำเนินการไปโดยปราศจากความโปร่งใส ที่สำคัญเชื่อมั่นในศักยภาพของ กกต.ประจำจังหวัดว่าสามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยอำนาจจาก กกต.กลางเลยแม้แต่น้อย" นายก อบจ.พัทลุง กล่าว

ขณะที่นายจรูญ หยูทอง นักวิชาการและนักวิจัยสถาบันทักษิณคดีศึกษา จ.สงขลา กล่าวว่า สำหรับการหยิบยกประเด็นการติดภาระกิจการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของ พล.ต.อ.วาสนา นั้นถือเป็นเจตนารมย์ที่ท่านพยายามบอกให้สังคมได้รับรู้ว่า จะไม่ขอลาออกตำแหน่ง ซึ่งเป็นเป็นคำกล่าวอ้างที่ค่อนข้างขาดเหตุผลและเป็นคำอ้างเท่านั้น แต่ที่สำคัญคืออยากให้มองว่าคนในสังคมส่วนใหญ่หมดพลังแห่งความศรัทธาและหมดความน่าเชื่อไปกับคณะทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่เหลือไปนานแล้ว อีกทั้งคนส่วนใหญ่เห็นว่าท่านขาดความชอบธรรมในการทำหน้าที่มานานแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะการจัดเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา

"เชื่อว่าหากตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในช่วงเวลานี้ คนส่วนใหญ่จะต้องขอบคุณท่านอย่างมาก เพราะทุกคนได้ประจักษ์แล้วว่าท่านหมดความชอบธรรมในการทำหน้าที่อันมีเกียรติในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ในทางกลับกันทุกคนคงมองว่าท่านได้ทำคุณูประโยชน์ให้กับสังคมอย่างมหาศาล ขณะเดียวกันเชื่อว่าหากท่านขอลาออกจากตำแหน่งนี้ก็คงไม่ส่งผลกระทบกับการเลือกตั้งในครั้งต่อๆ ไปอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพราะทุกภาคส่วนคงหาช่องทางหรือหาวิธีการในการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้" นายจรูญ กล่าว

ปลัดอบต.ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับกกต.

นายศักดิพงศ์ธรรมอาชวกุล ปลัด อบต. ถนนใหญ่ อ.เมือง จ.ลพบุรี ในฐานะรองประธานสมาพันธ์ปลัด อบต.แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นข้ออ้างที่ไม่สมควร และจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา การเลือกตั้งท้องถิ่น ทั้ง อบต.และเทศบาลรวมทั้ง อบจ. มีปัญหามากมาย มีการซื้อเสียง และเสียงเงินทองจำนวนมากแต่ กกต.ชุดปัจจุบันนี้ไม่เคยจับคนทุจริตเลือกตั้งได้เลย แถมยังมีข่าวว่าพอเลือกตั้งเสร็จจะต้องเสียเงินเสียทองให้กับผู้มีอำนาจเพื่อแลกกับการถูกใบแดงใบเหลือง

"ที่ผ่านมาปลัด อบต.มีปัญหามากมายโดนทั้งอิทธิพลข่มขู่ และฝ่ายที่เสียประโยชน์เล่นงาน บ้างคนหลังเลือกตั้งถูกกลั่นแกล้งให้ย้ายออกนอกพื้นที่ หรือถูกขู่ฆ่า ถ้าปลัด อบต.มีการรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซื้อเสียงไปยัง กกต. เจ้าหน้าที่บางคนกลับเอาข้อมูลที่ปลัด อบต.นำไปให้ เอาไปต่อรองผลประโยชน์เพื่อแลกกับใบแดง หรือใบเหลือง แถมพอเลือกตั้งเสร็จ กกต.ก็จะมอบอำนาจให้ ผอ.กกต. ซึ่งเป็นปลัด อบต.โดยตำแหน่ง ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งปลัด อบต.โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เคยนำเอาปัญหาเหล่านี้แจ้งให้ ประธาน กกต. และคณะกรรมการ กกต.ทราบแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม แถมยังบอกว่าถ้าหากไม่ทำตามกฎหมายถือว่าท่านละเว้นผิดกฎหมายอีก ซึ่งปลัด อบต.ทั่วประเทศยังไม่มีความสบายใจในการทำหน้าที่ดังกล่าว ประกอบกับขณะนี้ กกต.ชุดปัจจุบันนี้ ได้จัดการเลือกตั้งที่ขาดความเป็นกลางทางการเมืองตามคำชี้แนะของศาลการที่เราจะไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว คงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง นายศักดิพงศ์ กล่าวและว่า

หลังจากนี้ สมาพันธ์ ปลัด อบต.แห่งประเทศไทย จะเรียกประชุมคณะกรรมการสมาพันธ์ทั้งหมดและปลัด อบต.ที่จะถูกแต่งตั้งให้ ผอ.กกต. และเลขานุการ กกต.ประจำ อปท. ในเร็วๆ นี้เพื่อร่วมกันหาหนทางแสดงพลังไม่ยอมร่วมสังฆกรรมกับ กกต.ชุดนี้ทันทีที่ผู้บริหาร หรือสมาชิกหมดวาระลง และขณะนี้ปลัด อบต.ทั่วประเทศ เห็นด้วยกับข้อเสนอสังคมที่ให้ กกต.ลาออกจากตำแหน่งเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน เพราะกกต.ชุดปัจจุบันนี้ขาดความชอบธรรม

นายกอบจ.เมืองรถม้าชี้ฟังไม่ขึ้น นางสุนี สมมี นายก อบจ.ลำปาง กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วเห็นว่าไม่มีอะไรที่จะน่าเป็นห่วงเพราะการเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศนั้นเพิ่งดำเนินการไปในปีที่ผ่านมา ส่วนการเลือกตั้ง อบจ.ก็จะมีขึ้นในปี 2551 จึงไม่น่าจะเป็นเหตุผลการลาออกของ กกต.ชุดนี้ ทั้งนี้การเข้ามาดูแลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นไม่ว่าระดับใดก็ตาม ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น กกต.ชุดนี้เข้ามาควบคุมการเลือกตั้งขอเพียงผู้ที่เข้ามาดำเนินการต้องมีความยุติธรรม ไม่มีการทุจริต เนื่องจากปัจจุบันมีความวุ่นวายมากพอแล้ว สุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบก็หนีไม่พ้นประชาชน ดังนั้นทุกฝ่ายควรถอยหลังกันคนละก้าวไม่ควรดันทุรังไปให้มากกว่านี้ เพราะขณะนี้เอง

นายก อบจ.ลำปาง กล่าวต่อว่า ยกตัวอย่างเช่นที่ อบจ.ลำปางที่ตนเองรับผิดชอบ อยู่ก็ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองเช่นนี้อยู่แล้ว เพราะงบประมาณที่จะได้รับการถ่ายโอนมายังอบจ.นั้นหายไปเป็นจำนวนมาก เช่นในปี 2548 ที่ผ่านมาได้รับงบประมาณทั้งสิ้น 137 ล้าน แต่ในปีนี้จังหวัดลำปางได้รับงบประมาณเพียง 78 ล้านบาทเท่านั้น หากสถานการณ์ทางการเมืองยังหาข้อสรุปไม่ได้เช่นนี้ เชื่อว่าจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติแน่นอนด้านนายธนวัฒน์ ยอดใจ นายก อบต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หากพล.ต.อ.วาสนาลาออกจริงคงอาจจะได้ผลกระทบบ้าง เพราะหากมีการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้นจะต้องมีการรับรอง หากไม่มีกกต.รับรองผลจะทำให้ไม่สามารถเข้าทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้เป็นที่ทราบดีว่าเศรษฐกิจอยู่ในสภาวะชะลอตัวหากเกิดสูญญากาศขึ้นก็อาจทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบด้วย

ด้านนายเอกกมล สายจันทร์ อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุผลที่พล.ต.อ.วาสนา อ้างว่าเป็นห่วงการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นเป็นเหตุผลที่ขาดน้ำหนัก ฟังไม่ขึ้นเพราะหากมีการเลือกตั้งท้องถิ่นเชื่อว่า กกต.ของแต่ละจังหวัดสามารถดำเนินการได้เองอย่างแน่นอน เนื่องจากการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีความสลับซับซ้อนทั้งนี้จึงเชื่อได้ว่าน่าจะมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากข้ออ้างดังกล่าวอย่าไงไรก็ตามกระแสของนักกฎหมายเห็นว่าควรจะดำเนินการฟ้องร้องกกต.ชุดนี้ด้วยกระบวนการคดีอาญาเพราะหากศาลตัดสินแล้วจะต้องปฏิบัติทันที