ปลัดกห.สั่งเค้นภาพลับหลุด ลงโทษยกทีม ฐานละเมิดความปลอดภัย เทพเทือกคุยทรท.จนมุม

ปลัด กห.สั่งคณะกรรมการสอบเพิ่มปม"ภาพลับ"วงจรปิดกระทรวงกลาโหม ยันความผิดฐานละเมิดความปลอดภัย-บกพร่อง ลั่นไม่มีการลงโทษคนเดียว ยืดอกร่วมรับผิดชอบ เลขาฯ"ปชป."ขู่"ทรท."จนมุมกับของจริงในศาล

**"สุเทพ"ขู่ฟ่อ"ทรท."จนมุมของจริง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธปัตย์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนถึงกรณีการนำภาพลับอ้างสมาชิกพรรคพัฒนาชาติไทยเข้าไปพบ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แกนนำพรรคไทยรักไทยที่สำนักงานของกระทรวงกลาโหมพร้อมกล่าวหามีการจ่ายเงินให้สมาชิกพรรคเล็กเพื่อลงเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายนว่า ขณะนี้คนในพรรคไทยรักไทยที่ออกมาพูดแก้ตัวต่างๆ นานาเป็นพวกที่ไร้สาระทั้งสิ้น แก้ตัวไปข้างๆ คูๆ ถ้าประชาชนได้ย้อนกลับไปดูคำพูดของคนพวกนี้แรกเริ่มก็แก้ตัวว่าภาพ 9 ภาพที่เอามาไม่ใช่ภาพจริงเป็นภาพปลอม ทำขึ้นเพื่อใส่ร้ายไทยรักไทย ตอนหลังก็หน้าแตกเมื่อปลัดกระทรวงกลาโหมยืนยันภาพจริงมีวิดีโอวงจรปิดจริง

"ทั้งหมดแสดงว่าคนพวกนี้ตลบตะแลงไม่ได้มีข้อพิสูจน์เหตุผลจริงเท็จ คิดพูดไปวันๆ เพื่อเอาตัวรอด ยืนยันว่าไม่ว่าคนในพรรคไทยรักไทยจะตกแต่งบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างไรก็ตาม เมื่อเจอกับผมในศาลต้องจนมุมกับของจริงในศาล" นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวต่อว่า พฤติกรรมที่ออกมาตอบโต้ได้แสดงให้เห็นว่าคนพวกนี้กลัวจะแพ้คดีในศาล จึงเริ่มออกมาพูดจาก้าวร้าวศาล เป็นธาตุแท้คนเหล่านี้ที่เกิดจากปัญหาการกระทำทุจริตเลือกตั้งเพราะไม่มีปัญญาจะทำคะแนนเลือกตั้งให้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ต้องจ้างพรรคเล็กให้สมัครเป็นเพื่อนและปลอมแปลงเอกสารพอจับได้มาโทษคนอื่น แนะนำให้พวกนี้ตื่นเช้าอาบน้ำดูกระจกว่าตัวเองยังเป็นมนุษย์ดีหรือไม่

**กลาโหมสอบเพิ่มคดีฉก"ภาพลับ"

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าผลสอบของคณะกรรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีภาพจากกล้องวิดีโอวงจรปิดของกระทรวงกลาโหมถูกนำออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ว่า คณะกรรมการได้สอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องและรายงานความคืบหน้าทุกวัน มีความคืบหน้าพอสมควร แต่คณะกรรมการต้องการให้ตรวจสอบชัดเจนมากขึ้น จึงขอเวลาสอบข้อเท็จจริงอีก โดยในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ตนจะสอบถามคณะกรรมการอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร คิดว่าสัปดาห์หน้าจะรู้ผล เพราะเป็นเรื่องที่ต้องการเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็ว

เมื่อถามว่า คณะกรรมการตัดประเด็นที่บริษัทผู้ติดตั้งอาจจะเป็นผู้นำภาพลับไปมอบให้นักการเมือง พล.อ.สิริชัยกล่าวว่า คงไม่ได้ตัดประเด็นไหน เพราะให้อิสระกับคณะกรรมการ เรื่องใดที่ต้องตรวจสอบให้สิทธิเต็มที่

เมื่อถามว่า บริษัทที่ติดตั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ พล.อ.สิริชัย กล่าวว่า คงจะไม่กล่าวหาในขั้นแรกอย่างนี้ ต้องให้อิสระเสรีแก่กรรมการที่ตรวจสอบได้ทุกอย่าง และไม่ได้วางประเด็นว่าใครเกี่ยวข้องกับใคร ถือว่าทุกคนยังบริสุทธิ์ เมื่อหลักฐานเกี่ยวพันถึงใครก็จะให้คณะกรรมการไปสอบ

**ลั่นโดนลงโทษแน่ไม่ใช่แค่คนเดียว

เมื่อถามว่า เบื้องต้นมีนายทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พล.อ.สิริชัยกล่าวว่า เรื่องนี้นายทหารมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องภายในกระทรวง และภาพวิดีโออยู่ในความครอบครองของทหาร ดังนั้น เจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ต้องบกพร่อง แต่จะบกพร่องด้วยเจตนาหรือละเลยก็ต้องดูอีกที ต้องแยกประเด็นเนื้อหาเป็น 2 เรื่องคือ 1.เนื้อหาของตัวเทปที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทางสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเนื้อหาตรงนี้ และ 2.ประเด็นความบกพร่องของการปฏิบัติงานในกระทรวงกลาโหม เหตุใดสิ่งเหล่านี้จึงหลุดออกไปซึ่งเป็นการละเมิดการรักษาความปลอดภัย เป็นประเด็นนี้คณะกรรมการต้องสอบสวน

"ภาพดังกล่าวเป็นของทางราชการจะนำไปเผยแพร่ให้กับใครไม่ได้ ดังนั้น คนที่เอาออกไปมีความผิดฐานละเมิดความปลอดภัย ส่วนความผิดแบ่งเป็นความผิดโดยตรงคือ ผู้ที่กระทำ และส่วนผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องตามลำดับชั้นที่บกพร่องในการกำกับดูแล ซึ่งต้องมีความผิดหรือความบกพร่องเช่นกัน แต่โทษจะต่างกัน ดังนั้น คงไม่มีการลงโทษเพียงคนเดียว ซึ่งผมก็เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบตามลำดับชั้นเช่นกันแต่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาภายในเทป" พล.อ.สิริชัยกล่าว

เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่าทหารที่ควบคุมระบบเป็นคนใต้ น่าจะเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ พล.อ.สิริชัยกล่าวว่า ไม่ได้ตั้งเป้าเรื่องนี้เลย ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นคนภาคไหน เพราะทุกคนคือคนไทยเช่นเดียวกัน มาตรการรักษาความปลอดภัยของกระทรวงคงไม่ถึงขั้นต้องยกเครื่องใหม่ แต่อาจจะมีการแก้ไขบางส่วน เมื่อถามว่า จะมีบทลงโทษความผิดของทหารอย่างไรบ้าง พล.อ.สิริชัยกล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นไล่ออก อย่างที่บอกเรื่องเนื้อหาการเมืองกับการนำออกไปเผยแพร่เป็นคนละเรื่องกัน คณะกรรมการจะดูว่ามีการนำออกมาเผยแพร่ได้อย่างไร ระบบบกพร่องอย่างไร และมีใครทำผิดด้านวินัยทางทหารหรือหากเกี่ยวข้องกับคดีอาญาก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น

**ย้ำ"ขรก."ต้องวางตัวเป็นกลาง

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดระแวงกันระหว่างข้าราชการในกระทรวงหรือไม่ พล.อ.สิริชัยกล่าวว่า ไม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาเรื่องเล็กในกระทรวง อาจจะละเมิดการรักษาความปลอดภัยจะต้องลงโทษกัน ทั้งนี้ ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่เสมอว่าป็นข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางและต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนที่จะรักใครชอบใครนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวอย่าเอาเรื่องราชการไปเกี่ยวข้อง

"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเป็นความรับผิดชอบของผมรวมถึงการลงโทษผู้กระทำผิดด้วย" พล.อ.สิริชัยกล่าว

เมื่อถามว่า ภาพที่หลุดออกมาน่าจะมาจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่เพราะทหารระดับเล็กคงไม่สามารถนำออกมาได้ พล.อ.สิริชัยกล่าวว่า อย่าไปตั้งประเด็นว่าเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อย ขอให้กรรมการเป็นอิสระเมื่อผลสรุปออกมาจะชี้แจงเอง ทั้งนี้ คิดว่านายทหารชั้นผู้ใหญ่จริงแยกออกว่า เรื่องราชการกับความชอบส่วนตัวคนละเรื่องกัน ดังนั้น คงไม่ทำเรื่องที่เสียหายแก่ส่วนราชการ รับราชการมาขนาดนี้คงไม่ทำ

ขณะที่ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามโดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ผมได้พูดความจริงไปหมดแล้วและไม่หนักใจที่ถูกกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง"

**กกต.พิจารณาคำชี้แจง"ธรรมรักษ์"

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งจะพิจารณากรณีพรรคการเมืองใหญ่จ้างพรรคการเมืองเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งตามคำร้องของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า กกต.จะการพิจารณารายละเอียดคำชี้แจงของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ.อยุธยา นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ที่ได้เข้าถ้อยคำต่อ กกต. เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมารวมถึงบุคคลปรากฏในภาพวงจรปิดที่กระทรวงกลาโหม ได้เข้าให้ถ้อยคำต่อนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต. เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะสามารถสรุปและนำไปสู่การพิจารณาว่าจะเสนอความเห็นพร้อมหลักฐานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อให้ดำเนินการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบพรรคไทยรักไทยหรือไม่

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการสอบสวนกรณีรายงานการสอบสวนเรื่องพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กรั่วไหลไปถึงสื่อมวลชน ซึ่งมีนายรุ่งฤทธิ์ มกรพงศ์ รองเลขาธิการฝ่ายบริหารเลือกตั้งเป็นประธาน จะเสนอรายงานผลการสอบสวนให้กับ พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต. เพื่อพิจารณา