คตส.ยื้อคดีรถดับเพลิงกทม.ส่งต่อป.ป.ช.

คตส.ยื้อคดีรถดับเพลิงกทม.ส่งต่อป.ป.ช.

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐหรือ คตส. ที่หมดวาระลงเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 ไม่สรุปสำนวนคดีรถดับเพลิง แต่ส่งสำนวนต่อให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ซึ่งจะทำให้การพิจารณาคดีล่าช้าออกไป
ส่งผลกระทบต่อรถดั[พลิงทั้งหมดที่ กทม.ยังไม่ตรวจรับว่า เดิมเคยตั้งใจว่าจะหาทางออกในเรื่องการตรวจรับรถหากมีการสรุปคดีในชั้นของ คตส.เพื่อพิจารณาดูว่าจะเลิกสัญญาหากว่า คตส.จะสรุปให้การจัดซื้อเป็นโมฆียะ  หรือต้องพิจารณาแก้ไขปัญหาเรื่องการตรวจรับรถอย่างไร

แต่เมื่อคดีถูกส่งต่อให้ ป.ป.ช. กทม.ก็ต้องรอ ป.ป.ช.  พิจารณาคดี และจะมีหนังสือสอบถามไปที่ ป.ป.ช. เพื่อขอดูสำนวนการพิจารณาคดีของ คตส.ว่ากทม. จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างในการบริหารสัญญา 

ต่อไปในระหว่างที่คดียังไม่มีข้อสรุป
ซึ่งระหว่างนี้ก็ต้องชะลอการตรวจรับออกไป ส่วนเรื่องความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากไม่มีการตรวจรับรถที่จะส่งผล กระทบต่อการใช้งานในอนาคตที่ห่วงกันนั้น ตนก็เข้าใจในประเด็นนี้ แต่เมื่อคดีต้องไปถึง ป.ป.ช. กทม.ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ก็ต้องรอคำตอบจาก ป.ป.ช.ก่อน
 
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรถดับเพลิงเจ้าปัญหา กทม.สั่งซื้อจากบริษัทสไตเออร์ เดมเลอร์     พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ ออสเตรีย ตั้งแต่สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯกทม. มูลค่า 6,687 ล้านบาทและรถดับเพลิงลอตแรกมาถึงเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. 2549

แม้จะเคลียร์สินค้าออกจากท่าเรือแหลมฉบังได้แล้วแต่จนป่านนี้ก็ต้องจอดตากแดดตากฝน ไม่ได้นำมาใช้งาน เพราะ กทม.ยังไม่ตรวจรับรถดับเพลิง รอ คตส.ตรวจสอบเรื่องการทุจริตส่วนรถในลอตที่ 2 ก็มาถึงเมืองไทยแล้วเช่นกันเมื่อเดือน ก.พ.ปี 2550 ก็ยังจอดคาอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

เพราะ กทม.ยังไม่ไปเคลียร์ภาษีนำเข้าและแวต ทั้งที่ กทม.ควักกระเป๋าจ่ายค่ารถดับเพลิงไปแล้ว 3 งวดกว่า 2,000 ล้านบาท และต้องจ่ายค่ารถงวดที่ 4 อีกกว่า 700 ล้านบาทในเดือน ส.ค.นี้.