แนะ ´อภิรักษ์´ หารือ ´สมัคร-โภคิน´ กรณีทุจริตรถดับเพลิง

ไทยรัฐ

น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวในวันนี้ (4 มิ.ย.) ถึงกรณีการทุจริตรถดับเพลิง ซึ่ง กทม.ได้แถลงข่าวไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า มีประเด็นที่อยากตั้งข้อสังเกตคือ กรรมการตรวจสอบการทุจริตครั้งใหญ่ 2 เรื่องของ กทม. คือ 1.การฮั้วประมูลการก่อสร้าง 16 โครงการของ กทม. ซึ่ง พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีต ส.ว.กทม.ได้สอบสวน และผลสอบสวนออกมาแล้ว พบว่ามีการสรุปพาดพิงไปถึงผู้บริหารและข้าราชการระดับสูงของ กทม.ร่วมทุจริต แต่คนที่โดนลงโทษกลับมีแค่ข้าราชการระดับ 8 และระดับ 9 จำนวน 2 คนเท่านั้น อีกทั้งมีขบวนการทำให้ไม่มีการเปิดเผยผลการสอบสวนในเรื่องดังกล่าว 2.การสอบสวนการทุจริตรถดับเพลิง ซึ่งมีข่าวหนาหูว่าตอนนี้มีการล็อบบี้ผลการสอบสวนเรื่องนี้ ให้ออกมาตรงตามความต้องการของใครบางคน แต่กรรมการสอบสวนไม่สามารถทำได้ เพราะเรื่องนี้มีการพาดพิงผู้บริหารระดับสูงของ กทม.บางคนด้วย

โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวต่อไปว่า การแถลงข่าวครั้งล่าสุดของ กทม.ไม่มีการชี้ว่าใครผิด นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้แถลงถึงการเปิดแอลซีที่ตัวเองลงลายมือชื่อ เพื่อให้ข้อตกลงบังคับใช้ในสัญญานั้นไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้ ทั้งนี้ ในทางราชการ หากไม่มีสัญญา หรือเปิดแอลซี จะไม่มีเอกชนรายใดมาขายสินค้าและบริการให้กับทางราชการ หรือจัดผลประโยชน์ให้ใครบางคนได้ การรั่วไหลของงบประมาณอยู่ที่การเปิดแอลซี ซึ่ง ผู้ว่าฯ กทม.ไม่เคยพูดถึงแอลซีที่ตัวเองไปดำเนินการเลย แต่กลับพูดแต่เรื่องแอลซีสมัยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาผู้ว่าฯ กทม. ยกเลิกแอลซีเก่าและเปิดแอลซีใหม่ในเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

ส่วนเอกสารที่บริษัทสไตเออร์ ทำถึงนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. ลงวันที่ 2 พ.ค.2549 โดยเอกสารแจ้งว่าบริษัทสไตเออร์ขอโต้ตอบข้อหาของบางคนที่ให้ข่าวผิด ๆ กับสื่อมวลชนนั้น น.ต.ศิธา กล่าวว่า บริษัทสไตเออร์ยืนยันข้อเท็จจริงและข้อตกลงทั้งหมดเกิดจากข้อบังคับที่ 9.1 คือ เอ็มโอยูที่กระทรวงมหาดไทยตกลงกับริษัทสไตเออร์ที่สืบเนื่องจากการเปิดแอลซี ซึ่งหากผู้ว่าฯ กทม.ไม่ลงนามในแอลซีนั้น ข้อตกลงและการส่งมอบรถดับเพลิงจะไม่เกิดขึ้น บริษัทสไตเออร์ทำตามข้อตกลงทุกประการ ในความเป็นจริงนั้น กทม.ถูกสังคมตำหนิคือ การพลาดพลั้งในการติเตียนบริษัทสไตเออร์ในทางตรงและอ้อมจนบริษัทสไตเออร์ไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้ และไม่ยอมรับสิ่งที่ กทม.ดำเนินการ เท่ากับว่าบริษัทสไตเออร์ตบหน้า กทม.เต็ม ๆ เพราะ กทม.โยนความผิดให้คนอื่น

โฆษกพรรคไทยรักไทยกล่าวด้วยว่า ผู้ว่าฯ กทม. เคยกล่าวว่าจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือกับ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงขอชี้แจงว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนนี้ เพิ่งรับตำแหน่งหลังจากเรื่องนี้จบไปแล้ว ความผิดนี้ในเรื่องนี้สำเร็จก่อนที่ พล.อ.อ.คงศักดิ์ จะเข้าไปทำงาน จึงอยากแนะนำนายอภิรักษ์ให้ไปหารือและขอคำแนะนำกับนายสมัคร สุนทรเวช อดีต ผู้ว่าฯ กทม.และนายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือจะเชิญตน และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคประชาธิปัตย์ ไปด้วยก็ยินดี จะได้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง เพราะงบประมาณการจัดซื้อรถดับเพลิงนั้นมีมูลค่าถึง 6 พันล้านบาท แต่ความจริงแล้ว ราคารถดับเพลิงมีมูลค่า 2 พันล้านบาท งบประมาณหายไป 4 พันล้านบาท ดังนั้นนายอภิรักษ์ ควรใช้ภาวะความเป็นผู้นำและความโปร่งใสตามที่เคยหาเสียงไว้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์