ปชป.จี้ล้างภาพระบอบทักษิณป่วนคดี

กรณีที่สำนักงานศาลยุติธรรม มอบหมายให้ตัวแทนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ให้ดำเนินคดีนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ข้อหาสินบนเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ม.144 และความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงาน หลังจากที่ศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกทั้ง 3 คน คนละ 6 เดือน ฐานละเมิดอำนาจศาลที่นำถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาทให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาลฎีกา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่ายังไม่มีการโน้มน้าวให้กระทำผิดกฎหมายในการล้มคดี ทำให้ขาดเจตนา จึงอาจไม่เข้าองค์ประกอบข้อกฎหมายนั้น

วันที่ 29 มิ.ย. แหล่งข่าวผู้พิพากษาศาลฎีกา กล่าวว่าการดำเนินคดีในลักษณะเช่นนี้จะต้องอาศัยความเชื่อมโยงของพยานหลักฐาน และดูพฤติการณ์ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด

รวมทั้งเส้นทางการเงินว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร น่าสังเกตว่าเหตุที่เกิดนั้นเกิดขึ้นในวันที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมาศาล ซึ่งทีมทนายความที่กระทำละเมิดอำนาจศาลก็เป็นทีมทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ และพ.ต.ท.ทักษิณเองก็ถูกฟ้องเป็นจำเลย คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา หลังจากรวบรวมหลักฐานแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องประมวลความเป็นไปได้ว่ามีเหตุการณ์ให้สินบนเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าการสอบสวนพบว่าพยานหลักฐานรวมทั้งพฤติการณ์ที่ปรากฏเชื่อได้ถึงครึ่งหนึ่งก็ต้องฟ้อง อย่าบอกว่าไม่มีประจักษ์พยาน

แหล่งข่าวผู้พิพากษาศาลฎีกากล่าวว่า คดีการให้สินบนเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มักไม่มีประจักษ์พยาน

แต่การดำเนินคดียังทำได้ด้วยการประมวลหลักฐานพยานแวดล้อมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเหมือนอย่างคดีศาลพิพากษาประหารชีวิตน.พ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ฆ่าภรรยาตนเอง ที่ไม่มีประจักษ์พยานแต่สามารถยื่นฟ้องคดีต่อศาล และในที่สุดศาลพิพากษา การทำคดีลักษณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพยายามรวบรวมหลักฐานหลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี ไม่ใช่ 1-2 วันหลังได้รับแจ้งความแล้วออกมาบอกว่าไม่น่าจะดำเนินคดีฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่ได้

"คดีนี้ผู้เสียหายเป็นศาลฎีกา ถือเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ซึ่งผู้พิพากษาทั่วประเทศเฝ้าติดตามการดำเนินคดีว่าจะออกมาอย่างไร ในชั้นการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการจะมีทิศทางอย่างไรในการดำเนินคดีนี้" แหล่งข่าวผู้พิพากษาศาลฎีกากล่าว

ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ระบุว่าคดีสินบน 2 ล้าน ความผิดดังกล่าวยังไม่ครบองค์ประกอบ

เพราะยังไม่มีการโน้มน้าวให้ทำความผิดในการให้ล้มคดีว่า ถ้าพนักงานสอบสวนพูดเช่นนี้ชี้ให้เห็นว่าระบอบทักษิณยังวนเวียนอยู่ พนักงานสอบสวนควรหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและใช้อำนาจสอบสวนว่าเส้นทางการเงินมาจากไหน และมาจากบัญชีใคร ที่สำคัญพนักงานสอบสวนไม่มีหน้าที่ให้สัมภาษณ์ ต้องดำเนินการเป็นความลับและสาวไปถึงต้นตอ เพราะคดีนี้มีพ.ต.ท.ทักษิณและภริยาเป็นจำเลย การปฏิบัติหน้าที่ต้องตั้งข้อสงสัยว่าผู้ได้รับประโยชน์เป็นใคร