นายกฯ ปัดพรรคร่วมรัฐบาลบีบบังคับ เด้ง 'นพดล-มิ่งขวัญ' เป็นข่าวเหลวทั้งเพ อัดสื่อยุให้ระตำให้รั่ว ขย่ม รมว.ต่างประเทศต่ำกว่าแค่ 1 แต้ม 'เลี้ยบ'ย้ำไม่มีปรับ ครม. ชัดใหญ่ 'บิ๊กเหวียง' เชียร์รื้อใหญ่รบ.จะเพิ่มตำแหน่งให้ก็ยินดี 'สุวิทย์' โยนเป็นเรื่องนายกฯ
'สมัคร' ปัดข่าวบีบเด้ง 'นพดล-มิ่ง'
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นอภิปรายระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน กรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวพรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแลกกับการลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ 7 รัฐมนตรีว่า ' งานการเมืองนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองสำคัญ ผมห่วงแต่ว่าบรรดาผู้สื่อข่าวพยายามทำให้แตกแยก ฟังข่าวตอนเช้าบอกว่านพดล (นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) มิ่งขวัญ (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) จะถูกปลด พรรคร่วมรัฐบาลบีบบังคับให้ผมตัดสินใจ เป็นข่าวที่เหลวทั้งเพ ลองดูว่าถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง อะไรจะเกิดขึ้น แต่ถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็เพราะผมเห็นว่าต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็จะจัดการทีเดียว เพราะเป็นหน้าที่ของนายกฯ อ่านข่าวพาดหัววันนี้มันยุให้รำตำให้รั่ว เหมือนพรรคร่วมรัฐบาลบังคับให้ทำ ไม่อย่างนั้นจะไม่โหวตให้' นายสมัครกล่าว
สับสื่อขย่ม 'นพดล' แค่ต่ำกว่า1แต้ม
นายสมัคร กล่าวต่อที่ประชุมอีกว่า เวลานี้มีการพูดกันถึงบรรทัดฐานว่า รัฐมนตรีจะต้องไม่โหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคประชาธิปัตย์ก็ตกลง ทำให้เสียงของรัฐบาลที่ตัดจำนวนรัฐมนตรีออกแล้วจะเหลือ 280 เสียง ตนและรัฐมนตรีคนอื่นๆ ได้รับเสียงโหวต 279 เสียง แต่นายนพดลได้ 278 เสียง น้อยกว่าแต้มเดียว ทำนายไว้เลยว่า คอยดูวันรุ่งขึ้นสื่อต้องขย่มแต้มเดียวนี้ นี่แค่แต้มเดียว ถ้าเป็นสิบแต้ม นายนพดลคงต้องผูกคอตาย แต่ไม่สำเร็จแน่นอน เพราะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนโหวตแล้ว เป็นการแสดงคำคารวะ ซึ่งไม่ใช่การบีบบังคับอะไร แต่เป็นเรื่องการบริหารในการอยู่ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาเกิดมาจากรัฐธรรมนูญที่กำหนดเรื่องเสียงโหวต ถ้ารัฐบาลมีเสียงเกินกว่าฝ่ายค้านไม่มากแล้วต้องตัดจำนวนรัฐมนตรีออก ถ้าโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านชนะทันที และถ้าฝ่ายค้านตั้งรัฐบาลแล้วจะชนะหรือไม่ก็ต้องยื่นอภิปรายกันไปมา
'นี่คือสิ่งที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนไว้ พิสูจน์กันให้เห็นกลางสภาว่า ต่อไปถ้าเลือกตั้งแล้วชนะกัน 20 แต้ม ก็เป็นรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะต้องหักจำนวนรัฐมนตรีออก ดังนั้นมาตรฐานที่พูดกันเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลไม่ต้องการตอแย เมื่อพรรคประชาธิปัตย์บอกว่าให้รับรองเป็นมาตรฐานรัฐบาลก็รับรอง ไม่เป็นปัญหา' นายกฯกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าประชุมงบประมาณ นายสมัครปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าวปรับ ครม. แต่เลือกที่จะไปพูดชี้แจงทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลในสภาแทน
'เลี้ยบ' ยันซ้ำไม่มีปรับใหญ่
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้ปรับ ครม. หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ไม่มีการกดดัน ประเด็นเรื่องการปรับ ครม.ยังไม่ได้พูดคุยกันในช่วงเวลาที่ผ่านมา นายสมัคร ยังไม่ได้ให้ความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะนี้มีเพียงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯเท่านั้นที่ยังว่างอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของรัฐบาลกลับคืนมา ควรถือโอกาสนี้ปรับ ครม.ครั้งใหญ่เลยหรือไม่ นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า รัฐมนตรีแต่ละคนได้ตอบข้อซักถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน ถ้าจะพิจารณาเรื่องการปรับ ครม.จริง ก็ยังไม่ได้หารือกัน
เขี่ย 'นพดล-มิ่ง' ออกแค่ข่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายนพดลและนายมิ่งขวัญจะโดนปรับออก นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า เป็นแค่กระแสข่าวเท่านั้น ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดอะไรตามกระแสข่าว ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดมากดดันให้ปรับ ครม.ใหญ่แลกการยกมือไว้วางใจ เท่าที่ได้พูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีใครพูดประเด็นเหล่านี้ ไม่มีการต่อรองอะไรทางการเมือง เพราะถ้ารัฐมนตรีตอบข้อซักถามได้ไม่ชัดเจน พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องพิจารณาตามข้อมูลเหล่านั้นก่อนการตัดสินใจโหวต ถ้ามีปัญหาจริงๆ ถึงจะต่อรองทางการเมืองใดๆ พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่ยอมรับ
'ไม่มีการต่อรองอะไรตามที่เป็นข่าว รวมถึงเรื่องการยุบสภาด้วย เพราะนายกฯย้ำชัดเจนว่าไม่มีแนวคิดยุบสภาหรือลาออก เรายังมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองต่อไป' นพ.สุรพงษ์กล่าว
'สุวิทย์' โยนเป็นเรื่องนายกฯ
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า การปรับ ครม.ในส่วนของพรรคพลังประชาชนเป็นอำนาจนายกฯ คงไม่ไปก้าวล้ำ เป็นมารยาทของแต่ละพรรคจะพิจารณาในส่วนของตัวเอง ขณะนี้ยังไม่มีการหารือมายังพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเพื่อแผ่นดินยังไม่มีท่าทีหรือคิดอะไรในเรื่องนี้
'บิ๊กเหวียง' เชียร์รื้อใหญ่
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้กดดันให้ปรับ ครม. แลกเปลี่ยนกับการลงคะแนนเสียงไว้วางใจรัฐมนตรี เพราะถือว่าเป็นอำนาจของนายกฯ แต่ถ้าจะปรับก็เห็นว่า น่าจะปรับเล็กมากกว่าปรับใหญ่ ทั้งนี้พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาพอใจกับตำแหน่งรัฐมนตรีที่มีอยู่ แต่ถ้านายกฯ จะเพิ่มตำแหน่งให้ก็ยินดี
'อภิสิทธิ์' จี้ปรับคนคุม ตปท.-ศก.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า นายกรัฐมนตรีควรนำสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายไปพิจารณาปรับรัฐมนตรีบางคน หากเป็นไปได้รัฐบาลควรปรับรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศและด้านเศรษฐกิจ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา เพราะการบริหารราชการแผ่นดินเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ถ้านายกฯไม่ดำเนินการ หากมีปัญหาขึ้นมานายกฯจะต้องรับผิดชอบ
ปชป.สงสัย พปช.ประท้วงเติมเงิน
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมของการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เพิ่งผ่านพ้นว่า พรรคเห็นว่าการทำงานของประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนฯทั้ง 2 ทำหน้าที่และดำเนินการตามกรอบเวลาได้เหมาะสม แต่มีการประท้วงในสภามากเกินไป การประท้วงหลายครั้งเป็นไปอย่างไร้สาระ ทำให้เข้าข่ายบัตรเติมเงินหรือไม่ หลายครั้งที่พรรคอภิปราย 'ระบอบทักษิณ' จะมีการประท้วงอย่างผิดสังเกต เมื่อพูดถึงครั้งใด จะมี ส.ส.ลุกขึ้นประท้วงทุกครั้ง หวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งต่อไป จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก รัฐบาลจะต้องอดทนและรับฟัง ส.ส.รัฐบาลไม่มีหน้าที่ต้องชี้แจงแทน แต่ควรเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่จะต้องชี้แจง
อัดนายกฯสีข้างถู-ไร้ภาวะผู้นำ
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า การชี้แจงของนายกฯในครั้งนี้ พรรคตั้งข้อสังเกตไว้ 3 ประการ 1.มีวุฒิภาวะที่บกพร่อง ขาดภาวะผู้นำ พร้อมที่จะขย้ำรัฐมนตรีในรัฐบาลของตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าในฐานะผู้นำรัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร 2.เมื่อได้ติดตามการชี้แจงของนายกฯ เป็นการเอาสีข้างเข้าถูไม่อยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้อง ใช้ความเข้าใจเดิมเป็นหลัก 3.นายกฯใช้พรรณาโวหารค่อนข้างมากบวกกับลีลา ' ชิมไปบ่นไป' ประกอบกับความเห็นความเข้าใจความรู้ดั้งเดิมของนายกฯเป็นด้านหลักมากกว่าหยิบยกประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจมาชี้ให้สังคมได้เห็นว่าพรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ถูกต้องอย่างไร