ที่รัฐสภา วันที่ 26 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ 7 รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเป็นวันที่สาม อภิปรายสรุปไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีการต่างประเทศ ในการไม่รักษาสิทธิ์ของประเทศไทยในพื้นที่ทับซ้อนของปราสาทเขาพระวิหาร ขณะนี้กระทรวงต่างประเทศได้ไปซื้อพื้นที่โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์แต่คำชี้แจงของกระทรวงต่างประเทศยังไม่ตรงประเด็นกับทางพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการอภิปรายไว้
ได้สอบถามนายนพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศมาโดยตลอด ในเรื่องพื้นที่ตามมติครม.เมื่อปี 2505
โดยยึดตามคำพิพากษาของศาลโลก ที่ยกอธิปไตยให้เฉพาะตัวปราสาทเขาพระวิหารไม่เกี่ยวกับพื้นที่ แต่รัฐมนตรีกลับทำให้เกิดความสับสน เข้าใจผิดหรือจงใจไม่บอกความจริง โดยมีการเสนอแผนที่ L 7017 เข้าสู่ที่ประชุมครม. เพื่อขอให้ที่ประชุมอนุมัติแผนที่ให้เป็นเขตกำหนดเพื่อปฏิบัติตามของคำพิพากษาของศาลโลก ตามข้อเสนอของกัมพูชาซึ่งรวมถึงพื้นที่รอบตัวปราสาท
โดยรัฐมนตรีอ้างว่าเป็นแผนที่ของกรมแผนที่ทหารและจากการตรวบสอบข้อมูล ตามแผนที่ L 7017 มีการระบุข้อความใต้แผนที่ไว้อย่างชัดเจน
ว่า แนวพรมแดนระหว่างประเทศในแผนที่ระวางนี้ต้องไม่ถือกำหนดเป็นทางการ และแนวแบ่งเขตการปกครองภายในประเทศในแผนที่ระวางนี้ แสดงโดยประมาณ ดังนั้น รัฐมนตรีจะมาอ้างแผนที่ดังกล่าวว่าเป็นเขตปักปันไม่ได้ และท่าทีของรมว.ต่างประเทศเป็นการอ้างแผนที่เพื่อให้โทษกับประเทศไทย
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคยืนยันว่าเราศึกษาข้อมูลมติครม. เอกสารทางประวัติ อ้างกฎหมายอย่างรอบคอบ
ไม่ใช่รมว.พยายามทำความเข้าใจว่าไปหยิบความเห็นนักวิชาการคนนั้นคนนี้มา ที่ได้เอกสารนี้ เพราะ มีคนเคยรับราชการในกรมแผนที่ทหาร เขต 2505 ไม่ถือเป็นเขตแดน ถ้ารมว.ไปถามว่าตัวปราสาทที่กัมพาขีดเส้นมา ตามมติ2505 หรือไม่ เขาก็ต้องตอบว่าเป็นของกัมพูชา