ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จนถึงขณะนี้ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 33 วันแล้ว
โดยพันธมิตรได้เคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ มาปักหลักอยู่ที่แยกนางเลิ้งนั้น ความเคลื่อนไหวเมื่อเช้าวันที่ 25 มิ.ย. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลแต่เช้า สลับกับการเล่นดนตรีและร้องเพลงเสียดสีรัฐบาล ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถขังผู้ต้องหาหลายคัน มาปิดประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาลด้านสะพานชมัยมรุเชฐและเพิ่มกำลังตำรวจมากขึ้นจนผิดสังเกต จนตอนสายมีกระแสข่าวหนาหูว่าจะมีการสลายม็อบในช่วงเที่ยง ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตร มีสีหน้าวิตกกังวลและพยายามโทรศัพท์ระดมเรียกตัวแกนนำพันธ มิตรทั้งหมดให้มารวมตัวกันยังที่ชุมนุมอย่างเร่งด่วน
จนเวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยมีการชูประเด็นเรื่องเขาพระวิหารเป็นหลักว่าเห็นได้อย่างชัดเจนว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พยายามพูดโกหกทั้งเพ
โดยเฉพาะเรื่องที่ไทยได้เสียเขาพระวิหาร ให้แก่ประเทศกัมพูชาไป 45 ปีแล้ว ซึ่งเท่ากับยอมรับและเห็นด้วยกับคำตัดสินของ ศาลโลก ที่ตัดสินและยกที่ดินบริเวณเขาพระวิหารให้แก่ กัมพูชา แต่ที่จริงแล้วเรายังสามารถทวงเอาเขาพระวิหารกลับมาได้ เพราะคดีไม่มีอายุความ ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ทางออกตามที่ ดร.อดุล วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลก แนะนำว่าวิธีเดียวที่จะรักษา ดินแดนไทยไว้ได้คือ ให้รัฐบาลชุดนายสมัคร ลาออกทั้งคณะ
ส่วนเรื่องที่มีนักเรียนและผู้ปกครอง มาร้องเรียนให้กลุ่มพันธมิตร เปิดเส้นทางการจราจร บริเวณถนนพิษณุโลก และแยกนางเลิ้งนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ได้รับข้อเรียกร้องนี้แล้ว
ซึ่งได้จัดตัวแทนไปพูดคุยกับบรรดาครูอาจารย์ แต่อยากบอกว่าถ้าจะให้กลุ่มพันธมิตรเปิดเส้นทางการจราจรแล้ว มันจะเป็นอันตรายถึงชีวิตของผู้ชุมนุม แล้วใครจะรับผิดชอบ โรงเรียนและประชาชนทั่วไปต้องเห็นใจพวกเรา ที่มาชุมนุมที่นี้ก็เพื่อประโยชน์ ประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อตนเอง ส่วนเรื่องนักเรียนร้องเรียนให้ลดเสียงเครื่องขยายเสียงนั้น เห็นด้วยกับสิ่งที่ร้องเรียน และกลุ่มพันธมิตรกำลังส่งตัวแทนไปเจรจาว่าจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง เพราะต่างคนก็ต่างเดือดร้อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่