ตัดสินขนม 2 ล้าน คุก 6 เดือน หน.ทนายทักษิณ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นายมงคล ทับเที่ยง รองประธานศาลฎีกา และองค์คณะ ออกนั่งบัลลังก์ มีคำสั่งในคดีที่ นายอนันต์ วงศ์ประภารัตน์ เลขานุการศาลฎีกา กล่าวหานายพิชิฏ ชื่นบาน อายุ 48 ปี น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ อายุ 43 ปี และนายธนา ตันศิริ อายุ 46 ปี คณะทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในความผิด ฐานละเมิดอำนาจศาล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 51 โดย นายอนันต์ เลขานุการศาลฎีกา รายงานประธานศาลฎีกาว่า ขณะตรวจดูความเรียบร้อยที่ศาล นัดที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องมารายงานตัว เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีทนายความเอาของ มาฝากจะรับได้หรือไม่ จึงสั่งให้เปิดดูพบว่าเป็นธนบัตรใบละ  1  พันบาท  รวมเป็นเงิน  2  ล้านบาท
 

ผลทางไต่สวนทราบว่า  ในวันดังกล่าว  นายพิชิฏซึ่งเป็นหัวหน้าทีมทนายความ  พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลย ในคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก

ส่วน น.ส.ศุภศรี เป็นเสมียนทนาย และนายธนา เป็นผู้ประสานงาน เดินทางมาที่ศาลฎีกาเพื่อรอรับ พ.ต.ท.ทักษิณและ คุณหญิงพจมาน มารายงานตัวหลังจากกลับจากต่างประเทศ โดยนายธนาได้ให้ น.ส.ศุภศรี ไปเรียก ม.ล.ฐิติพงศ์ ชมภูนุท นิติกร 5 ประจำแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไปพบที่ห้องพักทนายความเพียง 2 คน พร้อมกล่าว ว่า ในช่วงที่ผ่านมาต้องติดต่อประสานงานบ่อยครั้ง จึง นำขนมมาฝาก หลังจากนั้นได้มอบถุงกระดาษ ซึ่งติดสกอตเทปแน่นหนาให้ ม.ล.ฐิติพงศ์ จึงไปสอบถามผู้บังคับบัญชาว่าจะรับสินน้ำใจจากทนายความได้หรือไม่ เนื่องจากเข้าใจ ว่าเป็นถุงขนม อย่างไรก็ดี ทางผู้บังคับบัญชาแจ้งว่าไม่ สามารถรับได้ และเมื่อแกะถุงดังกล่าวดูพบว่าเป็นธนบัตรฉบับละ 1 พันบาท จำนวน 2 ปึก รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท จึงนำไปคืนให้กับนายธนา
 

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่นายธนานำถุงเงิน จำนวน 2 ล้านบาท มอบให้กับเจ้าหน้าที่ของศาล มองได้ ว่าเป็นการจูงใจให้กระทำการอันเป็นการมิชอบต่อหน้าที่

โดย  น.ส.ศุภศรีและนายธนาร่วมกันรู้เห็นเป็นตัวกลาง ข้อต่อสู้ของนายธนาที่ว่าเป็นการหยิบถุงผิด โดยประสงค์ จะมอบถุงช็อกโกแลตให้กับเจ้าหน้าที่ และที่นายพิชิฏและ น.ส.ศุภศรีต่อสู้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็น  ไม่สามารถรับฟังได้ การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน เป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล และเป็นการกระทำที่ศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลยุติธรรมสูงสุดของประเทศ ถือเป็นกรณีร้ายแรง ให้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ในสถานหนัก ลงโทษจำคุก คนละ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และการกระทำของผู้ถูก กล่าวหาทั้ง 3 น่าจะมีมูลความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้า พนักงาน จึงให้เลขานุการศาลฎีกาเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ ตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


หลังมีคำสั่ง ศาลให้นำตัวนายพิชิฏไปคุมขังที่เรือนจำ พิเศษกรุงเทพ ส่วน น.ส.ศุภศรีให้นำไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางคลองเปรม สำหรับนายธนา ตันศิริ ไม่ได้ เดินทางมาศาล อ้างว่าป่วย

แต่ศาลเห็นว่าอาการป่วยไม่ถึง กับเดินทางมาศาลไม่ได้ จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับติดตาม ตัวมาลงโทษต่อไป
ขณะที่นายพิชิฏกับ น.ส.ศุภศรี ได้ยื่นคำร้องขอ ปล่อยตัวชั่วคราว อ้างว่า ศาลลงโทษหนักเกินไป ขอให้ ศาลฎีกาแก้ไขคำสั่งให้รอลงอาญาไว้แทน ศาลได้พิเคราะห์ คำร้องประกอบหลักทรัพย์แล้ว  มีคำสั่งว่า  คดีนี้กระทำอุกอาจในศาลฎีกา  อีกทั้งคำสั่งศาลฎีกาถือเป็นที่สุดแล้ว ไม่อาจอุทธรณ์คำสั่งอีกได้  จึงมีคำสั่งยกคำร้อง 


ด้านนายอเนก คำชุ่ม ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ว่าความในคดีที่ดินรัชดาฯเผยว่า ที่ศาลไม่ให้ประกันตัว เพราะเหตุเกิดในศาลฎีกา ศาลถือว่าคดีเป็นที่สุด การยื่นประกันตัวจึงถูกยก

ส่วนจะส่งผลกระทบต่อคดีที่ดินรัชดาฯ หรือไม่นั้น คงไม่กระทบ เพราะมีคณะทนายความหลายทีม มีการเตรียมเอกสาร  แนวคำถาม  พยานหลักฐานต่างๆ โดยบัญชีพยานมี  23  ปาก  จะเตรียมนำเสนอศาลวันที่ 30  มิ.ย.นี้  ส่วนเรื่องจะมีการถอดชื่อทนายความของสภาทนายต่อนายพิชิฏหรือไม่ ตนยังไม่ทราบ เป็นเรื่องของ สภาทนายความ


นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เผยว่า หลังจากศาลมีคำสั่งจำคุกแล้ว นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ จะขอเอกสารหลักฐานจากศาลเพื่อสอบสวน

โดยจะตั้งกรรมการ 3 คน หากสอบสวนฟังว่าผิดจริง อาจมีโทษถึงถอดชื่อจากการเป็นทนายความ ต่อข้อถามว่า ทนายความที่เอาเงินตัวความมาบริหารคดีของตนในทางที่ผิด จะมีการตักเตือนเพื่อนๆน้องๆสมาชิกทนายความอย่างไร นายเดชอุดมกล่าวว่า เป็นคำถามนำ ตนตอบไม่ได้ ทนายความจะพูดอะไรต้องมีหลักฐานอยู่ ในมือ และตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในคดีนี้อย่างละเอียด
 

ที่รัฐสภา นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังไปให้กำลังใจนายพิชิฏ ชื่นบาน หัวหน้าทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รู้จักกันมาหลาย 10 ปี

คำตัดสินของศาลที่ออกมา ทำให้รู้สึกสงสารนายพิชิฏ เพราะว่าไม่ได้เป็นคนสั่งให้นำเงิน 2 ล้านบาท ไปให้ เจ้าหน้าที่ของศาล ก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ได้มีโอกาสคุยกับนายพิชิฏ ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนสั่งการ และยังมั่นใจว่าจะไม่มีความผิด ที่ผ่านมานายพิชิฏก็ให้ ความร่วมมือกับศาล ไปให้การถึง 2 ครั้ง แตกต่างจากนายธนา ตันศิริ ซึ่งถูกตัดสินจำคุกด้วยเพราะไม่เคยให้การกับศาลเลย
 

“เรื่องนี้คุณพิชิฏเขาไม่รู้เรื่อง อดีตนายกฯก็ไม่ เกี่ยวข้อง เป็นการกระทำเพียงลำพังของนายธนา เท่าที่ทราบนายธนาอ้างว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการขายสินทรัพย์ ส่วนตัวโดยหยิบถุงผิด เพราะต้องการหยิบถุงขนมไปให้ เจ้าหน้าที่แต่กลับหยิบถุงใส่เงินไปแทน  คนอย่างนายพิชิฏที่เป็นทนายมา 30 ปี ทำคดีสำคัญมาหลายคดี ย่อมไม่ทำสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เป็นคนวางแผนดำเนินการอย่างแน่นอน ผมก็รู้ว่านายพิชิฏเบิกความลำดับเรื่องได้เป็นอย่างดีแต่ผลกลับออกมาเป็นแบบนี้” นายสุชาติกล่าว


นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ตกเป็นจำเลยในชั้นศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

กล่าวถึงกรณีที่นายพิชิฏ ชื่นบาน และพวกอีก 2 คน ถูกศาฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน ว่า นายพิชิฏคงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในวิชาชีพทนายความได้อีก เพราะถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล ผิดวินัยและจริยธรรมของวิชาชีพทนายความ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของสภาทนายความที่จะพิจารณาเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ และถอดออกจากการเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา หลังจากนี้ทางศาลจะต้องส่งเรื่องให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป เป็นเรื่องที่สังคมต้องตรวจสอบและจับตาการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนครั้งนี้


เมื่อถามว่า นายพิชิฏสมควรเป็นทีมทนายความให้อดีตนายกฯหรือไม่ นายอุดมกล่าวว่า เป็นเรื่องของทนายความกับลูกความ

แต่การที่ลูกความจะให้บุคคลที่ขาดคุณสมบัติการเป็นทนายความวิชาชีพที่ดีมาพิจารณาคดีความคงไม่เหมาะสม และคงไม่กระทบต่อคดีที่นายพิชิฏว่าความให้ พ.ต.ท.ทักษิณในการต่อสู้กับ คตส.เพราะเรื่องของลูกความ และขณะนี้อยู่ในระหว่างศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การที่ศาลจะพิจารณาคดีนี้เกี่ยวกับพฤติกรรมของทนายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลเอง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์