นพดลแจงในสภา

"นพดล" เสียงแข็งไทยไม่เสียดินแดนเขาพระวิหาร ชี้ลงนามร่วมไม่ใช่ทำสนธิสัญญา ส่วนท่าทีไทยปล่อยกัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียวมีตั้งแต่สมัย "ขิงแก่" แล้ว

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรายบุคคล นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ได้ลุกขึ้นชี้แจงข้อกล่าวหาว่าโยงใย พ.ต.ท.ทักษิณในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในกัมพูชา ว่า
 
ตนเป็นทนายความหากินตามวิชาชีพ เมื่อมีลูกความมาปรึกษาก็ต้องรับ แต่เมื่อได้รับโปรดเกล้าฯเป็น รมว.ต่างประเทศก็ยุติหน้าที่โดยสิ้นเชิง ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้ามีหลักฐานว่าตนทุจริตก็ให้นำมาเสนอต่อสภา 
 

รมว.ต่างประเทศ กล่าวต่อว่า
 
การที่รัฐบาลไทยลงนามร่วมกับกัมพูชา ไม่มีตอนใดที่ประเทศไทยสละสิทธิ์ในดินแดน การปักปันเขตแดนหลังแพ้คดีก็มีการแบ่งเขตแดนใหม่ ยืนยันไม่มีส่วนใดของกัมพูชาล้ำเข้ามาแม้แต่เซ็นเดียว และแถลงการณ์ร่วมยืนยันว่าไม่เป็นสนธิสัญญา ไม่ข้อความใดที่ระบุว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตหรืออธิปไตยของประเทศ มีแต่บอกว่าให้เขาขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ส่วนสาเหตุที่ไม่ขึ้นทะเบียนร่วมกันเพราะเราถูกกัมพูชาปฏิเสธตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพราะเขาถือว่าตัวปราสาทเป็นของเขา เรื่องนี้เป็นประเด็นการเมืองเพื่อต้องการล้มล้างรัฐบาล โดยสร้างความสับสนให้กับคนในสังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

จากนั้นเวลา 00.45 น.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นหารือกับประธานว่า วิปทั้ง 2  ฝ่ายได้หารือกันว่าจะยุติในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ และจะเริ่มอีกครั้งในวันที่ 25 มิ.ย.เวลา 09.30 น.จากนั้นประธานที่ประชุมจึงสั่งปิดประชุม รวมใช้เวลาวันแรกไป 12 ชั่วโมง