สมัคร หนีม็อบย้ายทำงานกลาโหม

หลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกว่า 40,000 คน ใช้ยุทธการสงคราม 9 ทัพ

ฝ่าแนวกั้นของตำรวจจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยวิธีอหิงสาและปราศจากอาวุธ เข้าไปปักหลักตั้งเวทีปราศรัยอย่างสงบบริเวณถนนพิษณุโลก ข้างเทำเนียบรัฐบาลได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน โดยตั้งเวทีปราศรัย ที่หน้าก.พ.  และแยกนางเลิ้ง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดว่า เวลา 18.00 น. วันเดียวกัน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนต รีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

  ร่วมรับประทานอาหารเย็นและหารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1  เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรอีกครั้ง ภายหลังปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายสมัครพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้สื่อมวลชนตามไปทำข่าว ซึ่งภายหลังการหารือ นายสมัครได้กลับเข้าบ้านพักในเวลา 20.00 น.

รายงานข่าวจากกองทัพบกแจ้งว่า นายสมัครสั่งไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มพันธมิตร และจะปล่อยให้ผู้ชุมนุมล้อมทำเนียบ โดยทางรัฐบาลจะไม่ใช้กำลังตำรวจหรือทหารสลายการชุมนุม เนื่องจากตำรวจน่าจะควบคุมได้ ยกเว้นแต่หากมีการปีนเข้าไปในทำเนียบก็จะจับเป็นรายบุคคลที่เข้าไปเท่านั้น

ทั้งนี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ทั้งนี้ หากกลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักชุมนุมยืดยาวจะปล่อยให้ชุมนุมอย่างเสรี เพียงแต่จะไม่อำนวยความสะดวกในเรื่องรถสุขาให้ หากทนได้ก็ทนไป ซึ่งหลังจากนี้นายกรัฐมนตรีจะย้ายไปทำงานที่กระทรวงกลาโหมแทนทำเนียบรัฐบาล ส่วนการประชุม ครม.จะใช้สถานที่ประชุมที่อื่นแทน

ตลอดทั้งวันที่ 20 มิถุนายน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรี ไม่มีใครเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลแม้แต่คนเดียว

โดยมีภารกิจปฏิบัติงานอยู่ภายนอกทำเนียบ แม้กระทั่ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งแจ้งวาระงานว่าจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวปรัชาญาเศรษฐกิจพอเพียง ในเวลา 09.30 น. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก็ยกเลิกกำหนดการทั้งหมด

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบก็เป็นไปอย่างเข้มงวด เปิดให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนเข้าออกได้เพียงประตู 5 ฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาฯเพียงประตูเดียว ขณะที่ประตูทางเข้าออกอื่นๆ ถูกปิด และมีการเพิ่มตำรวจยืนอารักขาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
 
ส่วนที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในวันนี้มีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่มาทำงานน้อย เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

ต่อมาหน่วยงานต่างๆ ภายใน ศธ.ได้เวียนหนังสือแจ้งให้กลับบ้านได้ก่อนเวลา 12.00 น.ทำให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เดินทางกลับบ้านกันหมด  แม้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ก็ยกเลิกภารกิจการบรรยายที่ ศธ.ในเวลา 14.00 น.เช่นกัน

ส่วนความเคลื่อนไหวของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในช่วงก่อนกลุ่มพันธมิตรเคลื่อนบุกทำเนียบนั้น เวลา 09.30 น.

ได้ไปกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 14 มีรัฐมนตรีเข้าร่วมหลายคน อาทิ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ทั้งนี้ นายสมัครมีสีหน้ายิ้มแย้ม และหลังประชุมได้แถลงข่าวผลการประชุม แต่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีกลุ่มพันธมิตรบุกทำเนียบว่า ''ไปถามคนที่เกี่ยวข้อง''

เวลา 11.30 น. นายสมัคร ออกจากกระทรวงการต่างประเทศอย่างไร้ร่องรอย โดยคนใกล้ชิดนายสมัครเปิดเผยว่า นายสมัครจะไปงานยังมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา

แต่ภายหลังรู้ว่าสื่อมวลชนล่วงรู้กำหนดการดังกล่าว ได้สั่งยกเลิกกะทันหันและได้หายตัวไป จนกระทั่งเวลา 13.00 น. นายสมัครไปเยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ มี ร.ต.(หญิง)ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังต้อนรับ เมื่อนายสมัครมาถึง ได้ทักทายกับ ร.ต.(หญิง)ระนองรักษ์ และนางพันธ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ อย่างอารมณ์ดี โดยใช้ตรวจงานกว่า 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้รายงานสถานการณ์การบุกทำเนียบของกลุ่มพันธมิตร โดยนายสมัครกล่าวว่า ''ให้ตำรวจว่าไป''