แนวหน้า
ลุ้นระทึก!กกต.คอพาดเขียง ศาลเร่งปิดคดี
35วุฒิฯสุดทนเข้าชื่อขับไล่ซ้ำ
ข้อหาฉกรรจ์ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ
จัดหย่อนบัตรมิชอบ-ไม่เป็นกลางทางการเมือง
เปิดหนังสือลับศาลฎีกาแจงเหตุไม่สรรหากกต.
ชี้หมดความชอบธรรม-จี้ให้ลาออกสถานเดียว
มีรายงานข่าวจากศาลอาญา เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากในคดีที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.),นายปริญญา นาคฉัตรี, นายวีรชัย แนวบุญเนียร 2กกต.และพล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ อดีตกกต.ตกเป็นจำเลยในข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะคดีที่นายถาวร เสนเนียม อดีตสส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น ศาลอาจจะพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งที่กกต.กำหนดไว้แล้วในวันที่ 15 ตุลาคม
เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นคดีที่มีความชัดเจน และเกี่ยวข้องกับระบบประชาธิปไตยที่ใกล้จะถึงทางตันในขณะนี้และอาจมีความจำเป็นที่ต้องพิจารณาคดีต่อเนื่อง โดยคดีดังกล่าวศาลมีคำสั่งนัดเปิดแถลงคดีในวันที่ 19 มิถุนายน ในขณะที่นายถาวร ซึ่งเป็นโจทก์จะยื่นคัดค้านการประกันตัวของกกต.ในฐานะตกเป็นจำเลย เพราะกลัวจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ก่อนหน้านี้นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขานุการศาลฎีกา เคยระบุว่าขอให้จับตาการไต่สวนคดีที่กกต.เป็นจำเลยของศาลอาญาอย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะมีกรณีที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
วันเดียวกันศาลอาญายังได้ไต่สวนมูลฟ้องคดี ที่นายวิโรจน์ นิติธรรม กับชาวสุราษฎรธานี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคณะกกต.ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่กรณีให้ผู้สมัครพรรคเล็กเวียนเทียนลงสมัครในการเลือกตั้งรอบ2เมื่อ 23 เมษายน โดยศาลนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 5 มิถุนายน เวลา 14.00 น.
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่าคดีดังกล่าว คำฟ้องในคดีของนายวิโรจน์ นั่นใกล้เคียงกับคดีที่นายถาวร เสนเนียมฟ้องไปก่อนหน้านี้และศาลประทับรับฟ้องไปแล้ว
"คณิณ"ชี้ลางร้ายของกกต.
ด้านนายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) กล่าวถึงกรณีศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายปัญญา ตันติยวรงค์ อดีตประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ฐานเสนอชื่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมิชอบ และสั่งรับฟ้องคดีที่กกต. ตกเป็นจำเลย คดีเวียนเทียนสมัคร ส.ส. ว่า ถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อบรรดากรรมการ หรือตุลาการในองค์กรอิสระ ที่ยอมถูกกดดัน หรือแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง โดยไม่ห่วง "ชะตากรรม" ของตัวเอง ว่าจะต้องประสบกับอะไรบ้าง ซึ่งในที่สุด ในขณะที่ตัวเองต้องรับเคราะห์แทนฝ่ายการเมือง แต่ฝ่ายการเมืองเองกลับลอยนวลไปได้ทุกครั้ง นับเป็นเรื่องที่องค์กรอิสระทุกองค์กรต้องพึงสังวรไว้ให้จงหนัก
นายคณิน กล่าวว่า ความเป็นอิสระ และซื่อสัตย์สุจริต เป็นหัวใจขององค์กร และกระบวนการทำงานขององค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ถ้าปราศจากคุณสมบัติ 2 ข้อนี้ การปฏิรูปการเมืองก็ล้มเหลว และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐก็ย่อหย่อน ยิ่งถ้าหากได้วุฒิสภาที่ฝักใฝ่การเมือง และอำนาจรัฐอย่างประเจิดประเจ้อ และออกหน้าออกตาอย่างที่ผ่านมา ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะความเสียหายมิได้เกิดเฉพาะแต่การปฏิรูปการเมืองเท่านั้น แต่เกิดกับประเทศชาติโดยรวม และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรงอีกด้วย
"ความเสียหายเช่นว่านี้ เกิดมาหลายปีแล้ว ยังไม่เคยรู้ตัวกัน ด้วยเหตุนี้ การที่ศาลอาญาตัดสินลงโทษจำคุกอดีตประธาน คตง. และมีคำสั่งรับฟ้องคดีที่ กกต. ตกเป็นจำเลยคดีเวียนเทียนสมัคร ส.ส. จึงถือเป็นสัญญาณเตือนในเบื้องต้นว่า อย่าทำให้บ้านเมืองเสียหายมากไปกว่านี้ เพราะองค์กรอิสระมีหน้าที่ป้องกันมิให้บ้านเมืองเสียหาย ไม่ใช่มาทำให้บ้านเมืองเสียหายเสียเอง" อดีต ส.ส.ร. กล่าว
ยื่นศาลรัฐธรรมนูญถอดกกต.
เช้าวันเดียวกัน พ.อ.สมคิด ศรีสังคม รักษาการสว.อุดรธานี และคณะ35 สวเข้ายื่นหนังสือคำร้องขอให้ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้ กกต.พ้นจากตำแหน่ง
ด้วยเหตุขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ โดยยื่นคำร้องต่อนายสุชน ชาลีเครือ รักษาการประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้รับด้วยตัวเอง
โดย พ.อ.สมคิด กล่าวว่า การเลือกตั้ง เมื่อ 2 เมษายน ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ทั้ง 3 คน ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นว่ากกต.ชุดนี้ไม่ชอบธรรมที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอีกแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องได้ระบุการขาดคุณสมบัติของ กกต.ทั้ง 3 คน ว่า 1)มีพฤติการณ์ละเว้นหรือวินิจฉัยสั่งการโดยมิชอบ ทั้งการกำหนดวันเลือกตั้ง การจัดคูหา จัดการเลือกตั้งใหม่ การเวียนเทียนผู้สมัคร การเร่งรัดการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย การละเว้นไม่สะสางปัญหาจ้างวานพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง, 2)ความไม่เป็นกลางทางการเมือง โดยละเว้นการวินิจฉัย และออกกฎหมายโดยไม่ชอบ 3) มีพฤติการณ์เป็นที่ปรจักษ์ว่าไม่เป็นกลางทางการเมือง และ 4)ปัญหาการใช้กฎหมาย
"สุชน" ยันหน้าไม่ได้แหก
ด้านนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา แสดงความหงุดหงิดหลังมีการเสนอข่าวว่าตนเองหน้าแตก จากการที่ศาลฎีกาไม่สรรหา 2 กกต.ส่งมาให้วุฒิสภา ตามที่ประธานวุฒิสภามีหนังสือไป นายสุชน ระบุว่า ตนเคารพในดุลพินิจของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และตอนนี้คงยังไม่ทำอะไรเพราะต้องรอหนังสือตอบกลับจากทางประธานศาลฎีกาก่อน จากนั่นจะมาดูในรายละเอียด ต่อไปสำหรับตนที่เสนอเรื่องไปก็ทำตามรัฐธรรมนูญ และไม่ว่าใครมาเป็นประธานวุฒิสภา ก็คงต้องทำเหมือนตน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากกต.ที่เหลือจะทำงานไปได้หรือไม่ นายสุชน ไม่ขอแสดงความคิดเห็นแต่ยอมรับว่ากกต.ถูกกดดันแรงมากพอแล้ว กกต.จะทำผิดกฎหมายหรือไม่ ก็มีมีหลายฝ่ายทำตามขั้นตอนของกฎหมายอยู่ อย่างเช่น การดำเนินการของ ส.ว. เป็นต้น ซึ่งเป็นช่องทางที่ถูก ส่วนช่องทางของศาลก็ต้องรอศาลที่กำลังจะมีพิจารณาในเร็วๆนี้
วิษณุยืนยันมีเลือกตั้งแน่นอน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใครจะลาออกหรือไม่ก็แล้วแต่ สุดท้ายก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งอยู่ดี การวินิจฉัยของศาลก็เป็นคนละส่วนกันกับปัญหาของกกต.ในขณะนี้อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากกต.ชุดเก่า หรือชุดใหม่ อยากจะให้เปลี่ยนวันเลือกตั้งก็สามารถทำได้ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่กำหนดวันทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง
ด้านพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 5 มิ.ย.นี้ กกต.ได้นัดหมายที่ประชุมพิจารณาข้อมูลของผู้บริหารพรรคไทยรักไทยที่เข้าให้รายละเอียดเพิ่มเติมกรณีการว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงรับเลือกตั้ง ส่วนจะสรุปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะพิจารณาวินิจฉัยอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้กกต.ไม่มีการประชุม เนื่องจากว่า กกต.อยู่ไม่ครบองค์ประชุม โดยวันนี้มีเพียงพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต.เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ส่วน นายวีระชัย แนวบุญเนียร ได้ลาป่วย เพราะต้องเดินทางไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจสุขภาพ ตามที่หมอนัด
ศาลปกครองยกคำร้องสอบทักษิณ
ที่ศาลปกครอง ศาลมีคำสั่งยกคำร้องในคดีที่ นายการุณ ใสงาม รักษาการสว.บุรีรัมย์ และพวก เป็นผู้ฟ้องคดีต่อคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากเหตุ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ขอลาพักจากการปฎิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีครม.ชุดใหม่ และการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนนายกฯก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลปกครองชี้ว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดเมื่อลาออก หรือถูกสมาชิกเข้าชื่อยื่นต่อประธานสภา ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับความเป็นสมาชิกว่าสิ้นสุดลงหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญ กรณีจึงไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครองจะรับไว้พิจารณา และจึงไมจำเป็นต้องพิจารณาคำขอให้กำหนดมาตราการคุ้มครองชั้วคราวอีกต่อไป
ด้านนายการุณ ใสงาม ผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า จะรวมรวมรายชื่อสว.ตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อ พิจารณาใบลาพักยาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าพ้นจากตำแหน่งนายกฯแล้วหรือไม่ต่อไป
ขณะเดียวกันนพ.นิรันดร์ พิทักษ์ วัชร และคณะพร้อมด้วยนายวีระ สมความคิด ตัวแทนภาคประชาชน ยื่นฟ้องให้ศาลปกครองวินิจฉัยและไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วควาว เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจาก เขียนในใบลาว่าจะพักจนกว่าจะมีครม.ใหม่ แต่ระหว่างนั่น ยังมีมติครม.ออกมามากมาย ทั้งที่ใบลาพักมีผลสมบูรณ์แล้ว
ศาลปค.ไต่สวน "โสภณ - บัวสอน"
รายงานข่าวศาลปกครองแจ้งว่า ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเรียกให้นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ และนายบัวสอน ประชามอญ ส.ส.จังหวัดเชียงราย ผู้ถูกกล่าวหาในฐานความผิดละเมิดอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาลหรือตุลาการ ไปให้ถ้อยคำต่อศาลเกี่ยวกับแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ดังกล่าวแล้ว โดยศาลนัดไต่สวนในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.ที่ศาลปกครองกลาง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย กล่าว ยืนยันว่ากกต.ชุดนี้ไม่มีความชอบธรรมในการทำหน้าที่ต่อไป และแสดงความห่วงใยสมาชิกพรรคไทยรักไทย บางคนที่พูดพาดพิงสถาบันตุลาการ
เมื่อผู้สื่อข่ามถามว่าจะแนะนำอะไรกับนายสุชน ชาลีเครือ รักษาการประธานวุฒิสภา บ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า คนพวกนี้คงไม่ได้ยินเสียงแนะนำจากใครทั้งสิ้น เพราะไม่อย่างนั่นคงไม่เป็นอย่างนี้ คนเหล่านี้อาจจะลืมตัวว่าตัวเองมีอำนาจคับบ้านคับเมือง ลืมตัวไปว่าประเทศไทยคือบริษัทของตัวเอง สิ่งที่เกิดในขณะนี้เริ่มสะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมของอำนาจแล้ว
ส่วนนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวฝากไปยังนายสุชน คนเดือนตุลาคมด้วยกันว่า จะทำอะไรก็ตามควรทำนึงถึงการมีส่วนร่วมและให้เกียรติสว.คนอื่นด้วย และควรหารือนอกรอบก่อนที่จะกำหนดอะไร เพราะถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น ก็จะส่งผลกระทบต่อองค์กรวุฒิสภาทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะนายสุชนคนเดียว