นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานประชุมแกนนำพรรคเพื่อหามติต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิ การพรรค นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค
นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วม 2 ชั่วโมง ถึงท่าทีของนายกฯที่ไม่เปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญ
ว่าเหตุที่พรรคต้องการให้รัฐบาล ใช้มาตรา 179 เพราะเห็นว่ากระบวนการของสภาย่อมเป็นที่พึ่งของประชาชน แต่นายกฯเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเรื่องการขับไล่ และพยายามบิดเบือนว่า ฝ่ายค้านจะล้มล้างรัฐบาล ซึ่งไม่เป็นความจริง ดังนั้น พรรคมีมติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล ตามมาตรา 158 และ 159 โดยมอบหมายให้วิปฝ่ายค้านไป ยกร่างญัตติ และรวบรวมรายชื่อส.ส.พรรค เพื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันอังคารที่ 17 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้ การยื่นญัตติไม่ไว้วางใจดังกล่าว จะเป็นในส่วนของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีจำนวน 5-6 คน ไม่ใช่ยื่นอภิปรายทั้งคณะ
เมื่อถามว่าการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ จะทันการปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญวันที่ 27 มิ.ย.หรือไม่
นาย อภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายกฯและประธานสภา ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทันเวลา เพราะเป็นเพียงการตรวจรายชื่อ ส.ส.เท่านั้น ส่วนที่อ้างว่าต้องพิจารณางบประมาณฯนั้น เป็นเพียงการเล่นเล่ห์ เพื่อยื้อเวลาเพราะการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ตั้งแต่วันที่ 9-30 มิ.ย. แต่รัฐบาลมาเจาะจงอภิปรายพ.ร.บ.งบประมาณฯวันที่ 25-27 มิ.ย.
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การยื่นอภิปรายครั้งนี้ไม่ใช่การยื่นถอดถอน ที่มีผลจากการทุจริต
แต่จะยับยั้งเพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารประเทศที่ก่อให้เกิดความเสียหาย และหากปล่อยไว้ วิกฤตของประเทศจะเกิดขึ้นไม่มีวันสิ้นสุด ฉะนั้น การยื่นญัติติไม่ไว้วางใจครั้งนี้หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ ซึ่งนายกฯรับปากแล้ว รวมทั้งประธานสภาก็ควรปฏิบัติเช่นกันเพื่อความสะดวกในการอภิปราย
"ที่พรรคยื่นอภิปราย เพราะไม่อยากรอให้มีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น ที่นายกฯบอกว่าไม่ได้ทำอะไร จะอภิปรายได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่า เมื่อมาชั่งน้ำหนักดูแล้ว ถ้าให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป จะยิ่งเกิดความเสียหาย และเรื่องการปรับโครงสร้าง ขสมก. ยกเลิกรถเมล์ร้อน และจัดเช่ารถแอร์ติดก๊าซเอ็นจีวี 6,000 คัน ที่นายกฯบอกเป็นการโยนหินถามทางนั้น ความจริงไม่ใช่โยนหินถามทาง แต่มีการเตรียมการและเตรียมอนุมัติ เราเห็นว่ามีความไม่โปร่งใส และประชาชนมีสิทธิรู้ทุกขั้นตอน ซึ่งเชื่อว่าเมื่อนำข้อเท็จจริงออกมาแล้ว จะระงับความเสียหายได้ จะไม่รอให้เสียหายแล้วมาพูด ไม่มีประโยชน์" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าที่ไม่ยื่นถอดถอนเพราะข้อมูลไม่มีน้ำหนัก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อมูลไม่มีน้ำหนัก
แต่ด้วยความไม่เหมาะสมในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งในส่วนของนายกฯ และรัฐมนตรี เพื่อยับยั้งไม่ให้ประเทศเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ แต่เชื่อว่านายกฯคงไม่ยอมรับว่าบริหารบ้านเมืองผิดพลาด เพราะนายกฯคงมองทุกคนเป็นศัตรู แค่ลมพัด นายกฯก็ด่าลมแล้ว
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรฯยื่นข้อเสนอว่าให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมชุมนุมด้วยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เราจะใช้ช่องทางที่ได้ตกลงเป็นมติไว้ก่อน แต่หากทำไม่ได้คงต้องหารือกันอีกครั้งหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรัฐมนตรีที่เข้าข่ายจะถูกพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้แก่ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง , นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ , นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการขอมติในที่ประชุมพรรคว่าจะเลือกใครระหว่างนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช. คมนาคม หรือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม