เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่กองบังคับการกองปราบปราม นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบช.ก. และ พล.ต.ต. สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน
เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมีนายณัฐวุฒิใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) และทนายความ เดินทางไปร่วมให้กำลังใจ
พล.ต.ท.สมยศกล่าวว่า
นายจักรภพเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเอง ซึ่งพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ออกหมายเรียกแต่อย่างใด หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ ก่อนจะอนุญาตให้กลับไปได้ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้พนักงานสอบสวนสามารถเชิญตัวนายจักรภพมาให้การได้ตลอดเวลา และขณะเดียวกันนายจักรภพสามารถให้การเพิ่มเติมหรือจะมอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาเช่นกัน เมื่อเสร็จสิ้นการรวบรวมหลักฐานแล้ว คณะพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนมาให้คณะกรรมการในระดับกองบัญชาการฯ ซึ่งมีตนเป็นหัวหน้าคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาสำนวนคดีอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งต่อให้ คณะกรรมการระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสรุปมีความเห็นทางคดีต่อไป คาดว่าสามารถสรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการได้ภายในวันที่ 2 ก.ค.นี้
ด้านนายจักภพกล่าวว่า
สมัครใจเข้าพบพนักงานสอบสวน เพราะมีผู้แจ้งความตนด้วยข้อหารุนแรง ผลจากเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองจนต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรงที่จะต้องพิสูจน์ตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องของเจตนามากกว่าเรื่องกฎหมาย หรือความรู้สึกนึกคิด การมาครั้งนี้เพื่อพิสูจน์เจตนาว่า ไม่เคยมีเจตนาตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ทั้งครอบครัวและตนมีหลักฐานที่แสดงถึงความจงรักภักดี ส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นการพูดที่ไหน หรือข้อเขียนทุกชิ้นไม่เคยมีเจตนาหมิ่นเบื้องสูง
ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนได้สอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา
และพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อนำไปตรวจสอบประวัติตามขั้นตอนของบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งนายจักรภพได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใดๆในชั้นพนักงานสอบสวน ระบุเพียงว่าจะนำพยานหลักฐานมาเพิ่มเติมในภายหลัง เนื่องจากช่วงนี้ยังมีภารกิจที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ไปทำอยู่อีกหลายเรื่อง
ด้าน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า
ในระดับ ตร.มี พล.ต.อ. วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.กม. เป็นประธานคณะกรรมการฯ ต้องพิจารณากลั่นกรองพยานหลักฐานการสอบสวน เบื้องต้นจะมีความเห็นสอดคล้องกับความเห็นคณะกรรมการฯ บช.ก. ที่เสนอมาที่ ตร. ความสำคัญของเรื่องบอกไม่ได้ว่าใช้เวลานานเท่าไร ผู้ที่เกี่ยวข้องตระหนักอยู่แล้ว ต้องละเอียดรอบคอบเป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีกดดัน มั่นใจว่าการพิจารณาเรื่องนี้ไม่ล่าช้า
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้ กระทู้เด็ดน่าแชร์
