ปตท.เอาจริงยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91-95 สิ้นปี 2552

วันนี้ (11 มิ.ย.) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.อยู่ระหว่างวางแผนการจำหน่ายพลังงานทดแทนในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ซึ่งจะยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 95 และเบนซิน 91 ในช่วงสิ้นปี 2551 และสิ้นปี 2552 ตามลำดับ เพื่อหันมาจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ทั้ง 95 และ 91 รวมถึงแก๊สโซฮอล์ อี 20 และ อี 85 อย่างเต็มที่

นายประเสริฐ กล่าวว่า ปตท. ต้องวางแผนการจำหน่ายพลังงานทดแทนให้ชัดเจนเพื่อรองรับแผนการยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 95 ในสิ้นปีนี้ สำหรับแผนการจำหน่ายน้ำมันอี 20 และ อี 85 ให้แพร่หลายจะต้องวางนโยบายให้ชัดเจนและผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันประเภทดังกล่าวอย่างจริงจัง จากนั้นจะทำให้บริษัทรถยนต์ทางยุโรป ทั้งวอลโว่ จีเอ็ม ฟอร์ด เข้าไปผลิตรถยนต์พลังงานทดแทนในประเทศไทย โดยเฉพาะการพัฒนาเครื่องยนต์ แบบ FLEX FUEL CAR ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ได้กับรถอี 100 และสามารถเติมน้ำมันที่ผสมเอทานอลต่ำกว่าสัดส่วนได้หมด  โดยเฉพาะน้ำมันอี 20 และจะพยายามส่งเสริมให้รถจักรยานยนต์หันมาใช้น้ำมันที่ผสมเอทานอล ทำให้แผนระยะยาวตลาดน้ำมันในประเทศจะมีแก๊สโซฮอล์ ที่ผสมเอทานอลร้อยละ 10 น้ำมัน อี 20 และ อี 85 ส่วนดีเซลจะเป็นน้ำมันบี 5

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนทั้งเอ็นจีวี อี 20 และ อี 85 จะไม่สร้างความสับสนให้แก่ประชาชน เพราะมองว่าน้ำมัน อี 20 และ อี 85 ใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภท และกระจายไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ขณะที่ผู้ใช้เอ็นจีวีจะเน้นให้บริการตามถนนเส้นทางหลัก และรถเอ็นจีวียังสามารถใช้น้ำมันทั้งดีเซล เบนซิน และอี 20 อี 85 ได้และเพื่อผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้อี 85 ควรต้องพยายามให้ราคาอี 85 ต่ำกว่าน้ำมันเบนซิน ในราคา 15 บาทขึ้นไป

ทางด้าน พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์  ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

เปิดเผยระหว่างศึกษาดูโครงการส่งเสริมการใช้เอทานอลในประเทศบราซิลว่า บราซิล ถือเป็นประเทศต้นแบบที่สำคัญในการใช้น้ำมันที่ผสมเอทานอล และเริ่มใช้น้ำมันเอทานอล อี 25 และอี 85  กันอย่างแพร่หลายในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และถือเป็นประเทศที่พัฒนาใช้เอทานอลมาตลอดเกือบ 80 ปี พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนการใช้น้ำมันอี 20 และอี 85  ด้วยการลดภาษีและเตรียมสนับสนุนการนำเข้ารถยนต์รองรับเชื้อเพลิง และเพื่อพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเอทานอลได้ภูมิภาคเอเชียได้ในอนาคต  จึงได้หารือกับนายอัลเฟรด สวอค  ผู้บริหารสมาคมผู้ผลิตอุตสาหกรรมน้ำตาล และเอทานอล หรือ UNICA และผู้บริหาร COLMEX GROUP ซึ่งเป็นผู้ส่งออกและนำเข้าเอทานอล รายใหญ่ของบราซิล เพื่อสร้างพันธมิตรเป็นตลาดส่งออกเอทานอลไปยังไทย หากขาดแคลนหรือรองรับการส่งออกจากไทย เมื่อผลิตเอทานอล ได้เกินความต้องการ