ปิดถนนสกัดพันธมิตรล้อมทำเนียบ

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯซึ่งชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 17 แล้วนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่ที่เดิม

โดยช่วงเช้ามีการปิดเวที เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการถ่ายทอดการแข่งฟุตบอลยูโร 2008 ถึง 2 คู่ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ลุกขึ้นมาทำกิจกรรม มีเพียงกลุ่มกองทัพธรรมทำหน้าที่เก็บกวาดถนน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการปิดถนนพิษณุโลก บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ไปถึงแยกกระทรวงศึกษาธิการ ที่ปกติจะเปิดการจราจรให้รถวิ่งได้ เพราะเป็นเส้นทางที่เชื่อมมาจากทางด่วนยมราช เนื่องจากมีประชาชนและนักเรียนจะต้องใช้เส้นทางดังกล่าวมายังถนนราชดำเนินนอก ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีเป็นประจำทุกวันอังคาร และสาเหตุที่ต้องมีการปิดการจราจรเพราะเกรงกลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้ามาปิดถนนหน้าทำเนียบรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร ประกาศใช้แผนดาวกระจายปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ทางเจ้าหน้าที่หวั่นว่าจะเกิดปัญหาจึงทำการปิดถนนเส้นดังกล่าวไว้ก่อน
 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า บริเวณสถานที่ชุมนุม พล.ต.จำลอง ได้ออกมาพูดคุยกับผู้ชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้า

โดยเน้นย้ำจุดประสงค์ของการมาชุมนุมเพื่อต้องการมาขับไล่รัฐบาล พร้อมระบุว่า แผนดาวกระจาย นอกจากจะปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางไปที่รัฐสภาด้วย  เป็นการพิสูจน์ว่าพันธมิตรไม่ได้เป็นต้นเหตุ แต่เป็นฝ่ายตรงข้าม

เย็นวันเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรได้ออกประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 1/2551 เรื่อง มาตรการตอบโต้ข้าราชการที่ทรยศชาติและเป็นปรปักษ์ต่อประชาชน

โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ ระบุว่า ข้าราชการฝ่ายปกครอง ทั้งปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด และตำรวจบางคน ประพฤติตนเป็นทาสรับใช้ของระบอบทักษิณ แทนที่จะประพฤติตนเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทำการทรยศต่อชาติ และเป็นปรปักษ์ต่อประชาชน สมควรกำหนดมาตรการตอบโต้ด้วยการถอดถอนออกจากตำแหน่ง และฟ้องร้องคดีต่อศาลให้ได้รับโทษขั้นสูงสุด
 

นอกจากนี้ มีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับบัญชาตำรวจ และข้าราชการบางคนที่ใช้อำนาจเถื่อน

สั่งให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นยุติการถ่ายทอดการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี หรือการสั่งให้วิทยุชุมชนยุติการถ่ายทอดเสียง หรือข่าวการต่อสู้ของพันธมิตร รวมทั้ง ข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ และพนักงาน อสมท มีหน้าที่ต้องนำเสนอข่าวสารที่รอบด้าน ถูกต้อง กลับเสนอข่าวบิดเบือนข่าวสารข้อมูล การใส่ร้ายป้ายสีพันธมิตร