ไทยโพสต์
เปลวสีเงิน คนปลายซอย
1 มิถุนายน 2549 กองบรรณาธิการ
โลกหมุนเร็ว หรือเพราะใจผมเร็วก็ไม่ทราบซินะ เพราะ ส.ค.ส. ๒๕๔๙ ยังเวียนอ่านไม่ครบดี ป๊อบแป๊บ..ป๊อบแป๊บ..ครึ่งปีเข้ามาแล้ว อายุคนมากขึ้น การป่วยไข้ตามวัยสังขารเป็นเรื่องปกติ แต่ประเทศชาตินี่ซีครับ จะเห็นว่า "ป่วยเรื้อรัง" และกระเสาะกระแสะ "ข้ามปี" จนถึงเดี๋ยวนี้
ครับ..ป่วยการเมือง แล้วก็ลามเป็นป่วยเศรษฐกิจ และสังคม
"ต้นโรค" เขาบอกกันว่ามาจาก "ระบอบทักษิณ" ฉะนั้น การรักษาให้หายขาดก็มีทางเดียวคือ
ถอนราก-ถอนโคน "ระบอบทักษิณ"!
จะถอนกันอย่างไร ก็ต้องตามไปดูกันเรื่อยๆ เรื่องของบ้านของเมือง มันเป็นเรื่องของทุกคน แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่า ระบบอะไรก็ตาม ใครจะมีอำนาจ หรือใครจะมาบริหารประเทศชาติบ้านเมืองก็ตาม
ของแท้ต้อง..ทำเป็นธรรม!
เมื่อวานมีคนนัดเลี้ยงข้าวเย็นผม ก็เลยรีบเข้ามาทำงานในภาระรับผิดชอบให้เสร็จแต่วัน ฟังข่าวจากวิทยุในรถมาเรื่อยๆ ก็ทราบว่า "ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา" คว่ำบาตร กกต.เรียบร้อยไปแล้ว
เสียงเลขาธิการศาลฎีกาแถลงผลประชุมว่า
"มีมติด้วยเสียงข้างมาก ๗๒ คะแนน ข้างน้อย ๔ เสียง งดออกเสียง ๖ เสียง เห็นสมควรไม่พิจารณาสรรหาผู้สมควรเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งตามหนังสือของประธานวุฒิสภา"
ครับ..ที่ "ประชุมใหญ่ศาลฎีกา" ก็มีความเห็นสอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกับประมุข ๓ ศาล คือไม่ต้องการเข้าไปทำงานเกลือกกลั้วกับ ๓ กกต.ที่เหลืออยู่
เพราะ ๓ กกต.นั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็มีวินิจฉัยไปแล้วว่า "มีการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ" ในการจัดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และขณะนี้ก็ตกเป็น "จำเลย" ต่อศาลอาญาในคดีที่ "นายถาวร เสนเนียม" เป็นผู้ฟ้องเป็นคดีแรกแล้ว
และยังจะทยอยตามมาให้ตกเป็นจำเลยอีกหลายสิบคดี!
ฉะนั้น มันเรื่องอะไรที่ "ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา" ท่านจะส่งคนลงไปทำงานกับพวกที่มัวหมอง และไร้ความเชื่อถือจากสังคม
นายสุชนนี่นับวันจะพิลึกขึ้นเรื่อย ความจริง กกต.มีเสียชีวิตไป ๑ คน นานแล้วคือ "นายจรัล บูรณพันธุ์ศรี" ไม่นับพลเอกจารุภัทร เรืองสุวรรณ ที่เพิ่งลาออกไปทีหลัง
แต่ครั้งนั้น นายสุชนไม่ยักรีบร้อน-ขมีขมันสรรหาคนมาแทนตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๓๘ ปล่อยให้ ๔ กกต.ที่เหลือทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งในการเลือกตั้ง ๒ เมษา.ที่ผ่านไป
ต้องจำกันได้นะครับ เมื่อ ๒๕ เมษายน ๒๕๔๙
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่ง และประมุข ๓ ศาลรับด้วยเกล้าฯ มาแก้ไขปัญหาวิกฤติของบ้านเมือง อันสืบเนื่องจากการเลือกตั้งที่ส่อถึงความไม่สุจริต และไม่ยุติธรรมมากมาย
ที่ประชุมประมุข ๓ ศาลแนะให้ กกต.ทั้ง ๔ ลาออกเพื่อเห็นแก่ชาติบ้านเมือง แล้วศาลจะสรรหา กกต.ใหม่ทั้ง ๕ คน เพื่อจัดการเลือกใหม่ให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม
๓ กกต.เฉย ทำหูทวนลมซะงั้นแหละ มีเพียง ๑ ท่านที่สำเหนียกแล้วสำนึก "ลาออก" ทันที คือ พลเอกจารุภัทร
คราวนี้แหละ ทำเป็นขมีขมัน เหมือนเคร่งครัดว่า กกต.ขาดแล้วก็ต้องรีบสรรหามาให้ครบ ๕ ขึ้นมาทันที อันที่จริงแล้ว "กรรมคือเครื่องส่อเจตนา"
และนี่ก็คือ ๓ กกต.กับนายสุชน "เจตนา" ท้าทายคำเสนอแนะจากประมุข ๓ ศาล แถมเล่นบทศรีธนญชัย ทำหนังสือถึงที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาให้สรรหาคนมาแทนที่ กกต.ที่ขาดอยู่ ๒
เหมือนพระที่ประพฤติ "ผิดศีล-ผิดวินัย" ชาวบ้านก็ขับไล่ พระวินัยธรก็กำลังไต่สวนทวนความในโทษถึงขั้น "ถูกจับสึก" ส่งเข้าคุกเข้าตะราง
แล้วอย่างนี้ พระชุดนี้ จะไปนิมนต์พระสงฆ์องคเจ้าจากวัดอื่นให้มาร่วมทำสังฆกรรมด้วย พระที่ศีลบริสุทธิ์ทั้งหลาย ที่ไหน..ที่ไหน..ท่านก็ไม่ยอมมาร่วมสังฆกรรมด้วยหรอก
ลีลาแบบนี้มันชัดเจนว่า พวกอลัชชีหวังอาศัยพระที่ "ศีลบริสุทธิ์" ให้มาช่วยมาคลุกเคล้า ให้สิ่งที่เน่ากลายเป็นสิ่งหอม
แล้วก็จะอ้างเป็นความถูกต้อง-ชอบธรรมใน "สังฆกรรม" ว่าบริสุทธิ์!
กรณี ๓ กกต.กับนายสุชนที่ไปร้องขอคนมาเป็นอีก ๒ กกต.จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาก็ทำนองนั้น
ท่านจะมาทำงานภายใต้คำที่รัฐธรรมนูญระบุชัดว่า "สุจริตและเที่ยงธรรม" กับ ๓ กกต.ที่ตกเป็นจำเลยของศาลในข้อหา "ทำงานไม่สุจริตและเที่ยงธรรม" ได้อย่างไร!
ไม่มีใครอยากลงไปเกลือกกลั้วกับ "หนอนในถังขี้" หรอกครับ!
เผลอๆ ๓ กกต.ผู้เป็นจำเลย คือ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร เมื่อไม่ยอมลาออก ซ้ำตกเป็นจำเลยต่อศาลในข้อหานี้
อาจถูกสั่ง "พักงาน" ก็เป็นได้!
เพราะอะไร..เพราะหัวใจของการเลือกตั้งคือ "ความสุจริตและเที่ยงธรรม" จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง คือ กกต.
แต่เมื่อ กกต.ตกเป็นจำเลยในข้อหาน่าขยะแขยงเช่นนี้ จะปล่อยให้ทำหน้าที่กำกับและดูแลการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม เป็นที่เชื่อถือ และไว้วางใจจากประชาชนได้อย่างไร?
รัฐธรรมนูญมาตรา ๑๓๖ ย้ำถึง "คุณสมบัติ" ผู้ที่จะมาเป็น กกต.ไว้ชัดเจนมาก นั่นคือในประเด็น
คนจะมาเป็น กกต.ต้อง มีความเป็นกลางทางการเมือง และ มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
ก็ลองให้ชาวโลกตอบซิว่า ณ ความจริงที่ประจักษ์ ทั้งในอดีต และทั้งในปัจจุบัน พฤติกรรมของ พล.ต.อ.วาสนา ก็ดี ของนายปริญญา ก็ดี ของนายวีระชัย ก็ดี
มีความเป็นกลางทางการเมืองมั้ย?
มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์มั้ย?
ข้อหลังนี้อาจแย้งว่า "มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์" ไม่เชื่อไปถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือใครๆ ทุกคนในพรรคไทยรักไทยดูซี!?
เออ..จริง
แต่..มันอาจจะขัดกับคุณสมบัติข้อแรกนะครับ คือ เรื่องความเป็นกลางทางการเมือง!
เอาละครับ..ผมก็ต้องยืนกระต่าย ๔ ขาเป็นวันที่ ๓ ว่า..วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๙ นั้นมีในปฏิทินทั่วๆ ไป
แต่จะไม่มีในปฏิทินเลือกตั้งของประเทศไทย!
ตราบใดที่ ๓ กกต. ๓ จำเลยนี้ ยังอยู่ในอาคารศรีจุลทรัพย์
ตราบใดที่ รัฐบาลไทยรักไทยยังมี พ.ต.ท.ทักษิณอยู่
ผมถามคำเดียวว่า เมื่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ลงมติไม่ส่งคนมาเป็น กกต.แทนที่ขาด ๒ คนเช่นนี้แล้ว
ประชาธิปัตย์ก็ดี ชาติไทยก็ดี มหาชนก็ดี และพรรคที่จะตั้งขึ้นมาใหม่ต่อจากนี้ก็ดี
เขายินดี และพร้อมจะลงแข่งขันการเลือกตั้ง ภายใต้การกำกับควบคุมดูแลการเลือกตั้งของ ๓ จำเลย "วาสนา-ปริญญา-วีระชัย" เช่นนั้นหรือ?
และที่สำคัญ ถ้าปล่อยให้สภาพนั้นเกิดขึ้นในการเลือกตั้งที่ ๑๕ ตุลา.
ประมุข ๓ ศาลที่น้อมรับพระราชกระแสรับสั่งเมื่อ ๒๕ เมษายน ๒๕๔๙ ใส่เกล้าฯ มาปฏิบัตินั้น เมื่อปฏิบัติอันนำมาซึ่ง "ความสุจริตและเที่ยงธรรม" ให้เกิดขึ้นไม่ได้
ท่านจะอยู่ในตำแหน่งต่อหรือ?
ขอฝาก "ข้อคิด" ไว้ให้ท่านช่วยกันขบนะครับ สำหรับผม ขออนุญาตรีบไปรับประทานของฟรี ซึ่งนานปีทีหนจะมีสักครั้ง ไม่ว่ากันนะครับ.
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว