วันนี้ (1 มิ.ย.) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในโอกาสเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีการค้ากลุ่มสมาชิกความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่เมืองอรีควิป้า ประเทศเปรู ว่า
ในการประชุมครั้งนี้จะมีการหารือเรื่องวิกฤติอาหาร ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากเรื่องน้ำมันแพงและ สภาวะอากาศของโลกที่เปลี่ยนแปลงจนกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรโดยไทยจะแสดงท่าทีในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ว่า จะรักษาความอุดมสมบูรณ์และคงการผลิตอาหารส่งออกต่อไปโดยไม่มีนโยบายห้ามการส่งออก โดยเฉพาะข้าวที่ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก ไม่มีนโยบายกำหนดราคาขายที่ไม่เป็นธรรมและไม่ฉวยโอกาสซ้ำเติมประเทศที่เดือดร้อนจากวิกฤติอาหารในครั้งนี้
นายมิ่งขวัญ กล่าวด้วยว่า
การประชุมเอเปกนับเป็นเรื่องสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของไทย เพราะมีสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วม และยังเป็นประเทศที่ไทยส่งออกสินค้าถึงร้อยละ 73 ของการส่งออกทั้งหมด โดยมีทั้งประเทศในกลุ่มอาเซียน กลุ่มประเทศยักษ์ใหญ่ทางการค้าของ เอเชีย เช่น จีน เกาหลีใต้ และกลุ่มทวีปอเมริกา เข้าร่วมเป็นสมาชิก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้นอกจากจะมีการหารือเรื่องการสนับสนุนการเจรจาองค์การการค้าโลก(ดับเบิลยูทีโอ) รอบโดฮาแล้ว ยังคาดว่าจะสร้างสัมพันธ์เพื่อขยายตลาดการส่งออกต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย
ทั้งนี้ สมาชิกเอเปก 21 เขตเศรษฐกิจ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก สิงคโปร์ จีนไทเป สหรัฐฯ เวียดนาม ชิลี จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์รัสเซียและไทย