ซ่ายิงหินใส่รถบัสจับทันควัน

วัยรุ่นโคราชเมาแล้วซ่า ขึ้นสะพานลอยใช้หนังสติ๊กยิงใส่รถบัส 2 คัน ที่นำเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหนองคายกลับจากทัศนศึกษาที่จ.ตราด โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย คนขับเข้าแจ้งความตร.สืบจับได้ทันควัน โจ๋ซ่าอ้างทำไปเพราะความคึกคะนอง ไม่ได้ต้องการทรัพย์สิน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 พ.ค. พ.ต.อ.ถวาย บูรณรักษ์ ผกก.สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รองผกก.สส.สภ.โพธิ์กลาง ควบคุมตัวนายบุญเรือง แพปรุ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 1 ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา

พร้อมของกลางหนังสติ๊ก 1 อัน ลูกหิน 5 ลูก ที่ตรวจพบภายในบ้านนายบุญเรือง มาสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัยที่มีตำหนิรูปพรรณสัณฐาน คล้ายกับคนร้ายที่ใช้หนังสติ๊กก่อเหตุยิงกระจกรถโดยสาร

ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายศุภชัย หมั่นดี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/4 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา คนขับรถโดยสารไม่ประจำทาง เลขทะเบียน 30-0236 อุดรธานี และนายไพโรจน์ ปลัดสูงเนิน อายุ 27 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 3 ต.โนนสูง อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น คนขับรถโดยสารไม่ประจำทาง เลขทะเบียน 30-0233 อุดรธานี เข้าแจ้งความที่สภ.โพธิ์กลาง ว่า
 
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 31 พ.ค. รถของพวกตน ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นพนักงานเทศบาลนครหนองคาย และชาวบ้านในชุมชน กลับจากไปทัศนศึกษาที่จ.ตราด แล่นตามกันมาบนถนนสายนครราชสีมา-ปักธงชัย ขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา

ผู้เสียหายให้การว่า
 
เมื่อรถวิ่งผ่านโรงเรียนบ้านไชยมงคล ต.ไชยมงคล อ.เมือง นครราชสีมา หลักกิโลเมตร 119-120 ทางแยกเข้าสวนสัตว์นครราชสีมา มีชายอายุประมาณ 20 ปี สูงประมาณ 160 ซ.ม. สวมเสื้อกางเกงสีดำ ยืนอยู่บนสะพานลอยข้ามถนน ใช้หนังสติ๊กบรรจุลูกหินยิงเข้าที่กระจกด้านหน้ารถของทั้งสอง โชคดีที่พวกตนสามารถตั้งสติได้ ควบคุมรถจอดข้างทาง แล้วลงจากรถช่วยกันวิ่งไล่จับกุมคนร้าย แต่คนร้ายก็วิ่งหนีหายไปในความมืด จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพ.ต.ท.ณัฐวุฒิ บุญสิงห์ พนักงานสอบสวนสภ.โพธิ์กลาง

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่สอบถามรูปพรรณสัณฐานและออกสอบสวนพยาน พบว่า

คนร้ายรายนี้คือนายบุญเรือง จึงเข้าจับกุมที่บ้าน โดยนายบุญเรืองให้การรับสารภาพว่าทำไปด้วยความคึกคะนอง ประกอบกับดื่มสุรามึนเมา แต่ไม่คิดเอาชีวิตหรือทรัพย์สินใครแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น กระทำการต่อรถยนต์โดยสารสาธารณะอันอาจทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ดำเนินคดีต่อไป