ออกทีวีช่อง11-9 สมัคร ฟัด ตอบโต้พันธมิตร

หลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมผู้ชุมนุมจำนวนมากยังยึดพื้นที่ถนนราชดำเนินนอก บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์มาตลอดสัปดาห์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลถอนมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และปรับแผนเป็นขับไล่รัฐบาล สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องผ่านไปในบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดข่าวสะพัดตลอดคืนวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเข้าสลายการชุมนุม จนกลุ่มพันธมิตรฯต้องตื่นตัวตลอดเวลา พร้อมรับมือกับเหตุไม่คาดฝัน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งคืนเช่นกันนั้น

ลุ้นระทึกตลอดคืนระวัง ตร.บุก

ต่อมาเมื่อล่วงเข้าสู่วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าทีมงานรักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการดัดแปลงสถานที่ชุมนุมบริเวณจุดทางเข้าให้เป็นป้อมค่ายเพื่อป้องกันการบุกสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะบริเวณถนนราชดำเนินนอก ขาออกหน้า บก.ทบ. ได้มีการนำลวดสลิงมาขึงกั้นขวางถนนราชดำเนินถึง 2 ชั้น และยังมีการจัดตั้งกองกำลังพิเศษขึ้นอีก 2 ชุด โดยชุดแรกนำชายฉกรรจ์ประมาณ 30 คน สวมหมวกกันน็อกสีแดง ถือไม้และโล่ ทำหน้าที่เป็นหน่วยปะทะ คอยตีสกัดหน่วยปราบจลาจลของตำรวจ ขณะที่ชุดที่สอง เป็นชายฉกรรจ์ ประมาณ 40 คน สวมหมวกกันน็อกสีดำ ถือโล่ พร้อมชุดเครื่องยิงหนังสติ๊กและลูกแก้ว จะคอยทำหน้าที่ยิงสกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตัดลวดสลิงได้ง่าย

หมอผีเขมรขึ้นเวทีทำพิธีสาปแช่ง

กระทั่งเวลา 03.00 น. บรรยากาศความตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายลง หลังจากอยู่ในสภาพตึงเครียดและตากสายฝนมาตลอดทั้งคืน เนื่องจากฝนหยุดตกและไม่มีการเคลื่อนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุมตามที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง คาดการณ์ไว้ จากนั้นตัวแทนกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรฯ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 5 คน ได้ขึ้นเวทีปราศรัยทำพิธีสาปแช่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน ตามตำราไสยศาสตร์แบบเขมร ในข้อหาร่วมกันคิดคดเป็นกบฏต่อชาติ ซึ่งสร้างความครึกครื้นให้กลุ่มผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก

ปัดเป็นเหตุทำรถติด-เศรษฐกิจพัง

ในเวลา 11.00 น. พล.ต.จำลองได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงเรื่องการที่จราจรติดขัด  สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้รถใช้ถนน โดยยืนยันว่าไม่ใช่ความผิดของกลุ่มพันธมิตร  ถ้าตำรวจให้เข้าทำเนียบฯก็จะไม่เกิดปัญหานี้  เช่นเดียวกับเรื่องเศรษฐกิจ  พล.ต.จำลองกล่าวว่า  ก็ไม่ใช่ปัญหาของเราอีก  แต่เป็นปัญหาของรัฐบาล  ซึ่งทางพันธมิตรได้ออกแถลง การณ์มานานแล้วขอให้รัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน  ดีกว่าเอาเวลาไปมุ่งเน้นกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  เพราะมีแต่เกิดความเสียหาย  ฉะนั้น  เศรษฐกิจจะพังลง เรื่อยๆ  ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่แก้ไขเศรษฐกิจอย่างจริงจัง  จะมาอ้างไม่ถึงเวลา  เพราะทางรัฐบาลต้องพร้อมตั้งแต่มารับตำแหน่งแล้ว  เนื่องจากไม่มีใครบังคับมาเป็นนายกฯ 

ชี้ รธน.เปิดช่องให้ชุมนุมได้

 

พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า เรื่องที่นายจักรภพ เพ็ญแข ลาออกกับการถอดถอนเป็นเรื่องที่ดี  ควรทำมานานแล้ว  ถ้าทำตอนนี้ก็ไม่สาย  จะทำให้อะไรดีขึ้น  ขณะที่ยังยืนว่าพันธมิตร ยังดำรงจุดมุ่งหมายเดิมคือใช้ ม.70 ตามรัฐธรรมนูญที่ว่า บุคคลมีหน้าที่รักษาไว้ทั้งสามสถาบันและระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข  และถ้ามีเหตุการณ์ เกิดขึ้นเราจะมาชุมนุมกัน  ส่วนเรื่องที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีการปะทะกันนั้น  ขอบอกว่าตนไม่มีความกังวลแต่อย่างใด หากจะมีความรุนแรงน่าจะมีหลายวันแล้ว  เพราะความรุนแรง ที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นที่นี่เพราะเราชุมนุมอย่างสันติ  ถ้าตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เหตุการณ์รุนแรงคงไม่น่าเกิดขึ้น

พันธมิตรฯ ยื่นถอด ส.ส.ส.ว. 

อีกด้านหนึ่ง ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.30 น. แกนนำพันธมิตรฯ  นำโดยนายสมศักดิ์  โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายเทิดภูมิ ใจดี นายอมร อมรรัตนานนท์ และนายสุริยใส กตะศิลา นำรายชื่อประชาชนจำนวน 31,881 ชื่อ ยื่นต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อดำเนินการถอดถอน ส.ส.และ ส.ว. 164 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ออกจากตำแหน่ง โดยนายสมศักดิ์กล่าวถึงเหตุผลในการถอดถอนว่า เนื่องจากบุคคลเหล่านี้เข้าข่ายความผิดมาตรา 270 ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 

งัดข้อ ก.ม.แจง 4 ความผิด

คือ 1. ความผิดของ ส.ส.ตามมาตรา 122 การปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการขัดกันแห่งประโยชน์ที่มี ส.ส.ของพรรคการเมืองที่กำลังถูกดำเนินคดียุบพรรค แม้ ส.ส.จะอ้างเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้เอกสิทธิ์ไปในทางที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตราอื่นได้ 2. ความผิดของ ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อ ที่มุ่งหมายเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของวุฒิสภา ทั้งที่มาและอำนาจหน้าที่ โดยหวังเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้ ส.ว.เลือกตั้ง และยุบเลิก ส.ว.สรรหาทิ้ง

ถือว่ามีส่วนได้ส่วนเสีย 3. ความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 ตั้งแต่หมวดที่ 3 จนถึง บทเฉพาะกาล (มาตรา 26-มาตรา 309) แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาบังคับใช้แทนทั้งหมด เท่ากับขัดหลักการในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ทั้งประธานสภาฯ สมาชิกรัฐสภา จึงถือว่าเข้าข่ายร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 4. ความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ซึ่งเห็นชัดว่าทั้งรูปแบบวิธีการและสาระสำคัญในร่างแก้ไขที่เสนอต่อรัฐสภา เป็นการโละและล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 2550 ทั้งฉบับ เป็นวิธีการที่เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้นจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่ง พวกเราจึงขอเป็นผู้ริเริ่มใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 เพื่อให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ให้ถอดถอนบุคคลตามมาตรา  270  ออกจากตำแหน่งต่อไป  

เผยจะเกิดเหตุรุนแรงมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับรายงานยืนยันการก่อเหตุระเบิดอีกหรือไม่ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ใช่ และยังมีรายงานว่า จะมีเหตุมากขึ้นจากกลุ่มที่ได้ระบุไปแล้ว เมื่อถามว่ามีความต้องการที่จะให้เกิดเหตุและมีการปฏิวัติหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ตนไม่กล้าพูดขนาดนั้น แต่หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นจริงคงไม่มีการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ใช้กฎหมายอาญาที่มีอยู่ก็พอ รัฐบาลไม่ปล่อยให้เกิดความวุ่นวายแน่ แต่มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งขนคนใน กทม.จากย่านฝั่งธนบุรี มีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก เยาวราช เข้ามาร่วมชุมนุม ซึ่งเงินส่วนหนึ่ง ที่ใช้เคลื่อนไหวมาจากเจ้ามือหวยใต้ดิน เจ้าของบ่อนย่านบางซื่อ และเจ้าของบ่อนลอยฟ้า ย่าน สน.บางยี่ขัน 

ปูดมีขบวนป่วนรอฉวยโอกาส

เมื่อถามว่าแสดงว่ามีขบวนการในการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากพันธมิตรฯ และพรรคการเมืองดังกล่าวใช่หรือไม่ และเป็นพวกไหน ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า เป็นพวกรอจังหวะ 2 อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไม่ชอบรัฐบาล ไม่อยากให้บ้านเมืองสงบ กลัวเป็นประชาธิปไตย หากเป็นระบอบเผด็จการเมื่อไหร่ คนกลุ่มนี้จะได้มีตำแหน่งหน้าที่ เมื่อถามว่าคนกลุ่มนี้หมายถึง คมช.ด้วยหรือไม่ รมว.มหาดไทยตอบว่า ไม่พูดว่าใคร เมื่อถามว่ามีการถอนญัตติเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว จะทำให้การเคลื่อนไหวซาลงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ถ้าไม่ทำให้ซาลง เท่ากับว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่ ให้กลุ่มพันธมิตรฯไปตกลงกันให้รู้เรื่อง หากมีจุดยืนแล้ว รัฐบาลพร้อมเจรจาให้รู้เรื่อง 

แห่แจ้งความม็อบทำเดือดร้อน 

ในวันเดียวกัน ที่ บช.น. เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต. สุรพล ทวนทอง รอง โฆษก ตร. กล่าวถึงมาตรการควบคุมผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯว่า ตำรวจยังคงอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ชุมนุม และพยายามเจรจาเพื่อหาแนวทางแก้ไขในการกีดขวางการจราจร ซึ่งส่งผลกระทบกับประชาชน ขณะนี้มีประชาชนแจ้งความร้องทุกข์ ได้รับความเดือดร้อน ไว้ที่ สน.ดุสิต 159 ราย สน.สำราญราษฎร์ 1 ราย กล่าวโทษนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับพวกในความผิดตาม มาตรา 116 ฐานก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง สน.นางเลิ้ง จำนวน 11 ราย บก.จร.รับแจ้งเหตุเรื่องรถติดขัดจราจร 126 ราย 

เตือนห้ามใช้ไม้เบสบอลเป็นอาวุธ

พล.ต.ต.สุรพลกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจได้ตรวจยึดไม้เบสบอลจากนายชัยณรงค์ อรัญ ญกานนท์ อายุ 33 ปี และนายนครินทร์ ศรีจันทร์ อายุ 28 ปี ทั้งหมด 2 กล่อง รวม 48 อัน จากด่านตรวจหน้าวัดมกุฏฯ โดยอ้างว่ามีชายไม่ทราบชื่อโทรศัพท์ติดต่อขอบริจาคของนัดมอบของบริเวณลานจอดรถโรงเรียนวัดมกุฏฯ หลังจากนั้นก็นำของดังกล่าวกลับไปยังที่ชุมนุม ตำรวจจึงยึดของเก็บไว้ที่ สน.นางเลิ้ง ต่อมา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ไปติดต่อขอรับคืน โดยอ้างกรรมสิทธิ์ของตนเอง ตำรวจจึงส่งมอบคืนให้ แต่เตือนว่าหากนำไปใช้เป็นอาวุธโดยสภาพ หรือเจตนาประทุษร้ายร่างกายผู้อื่น ก็ถือว่าเป็นอาวุธ มีความผิดตามกฎหมาย

“สมัคร” สั่งตำรวจพร้อมรับมือ

ขณะที่ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า  ทำเนียบรัฐบาล  เพื่อรายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งมีแนวโน้มว่าสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 30 พ.ค. ไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ โดยมีการประเมินว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะเคลื่อนมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายสมัครได้ตัดสินใจสั่งการให้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ โดยระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกท้องที่ ทั้งตำรวจนครบาล หน่วยปฏิบัติการพิเศษ  ตำรวจตระเวนชายแดน  จำนวนมากมารักษาความปลอดภัยบริเวณทำเนียบรัฐบาลอย่างเข้มงวด และได้เตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่งพร้อมรับสถานการณ์ นอกจากนั้น  ในวันที่ 31 พ.ค. เวลา 09.00 น. นายสมัครจะชี้แจงสถานการณ์การชุมนุมและมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อย ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที และสั่งการให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท เชื่อมสัญญาณเพื่อถ่ายทอดสดคำชี้แจงไปพร้อมกันด้วย  จากเดิมที่นายกฯเตรียมไว้ว่าจะพูดผ่านทางรายการ  “สนทนา ประสาสมัคร” ในวันอาทิตย์

สมัคร” เตรียมออกทีวีแจงสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากทำเนียบรัฐบาลว่า การที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กำหนดออก อากาศสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 และเอ็นบีทีในวันที่ 31 พ.ค. ก็เพื่ออธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางการเมืองในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่กลุ่มพันธมิตรฯออกมาชุมนุมครั้งนี้จะปล่อยให้เป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่จะขอร้องอย่าไปละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นและอย่าปิดถนน รวมทั้งขอความเป็นธรรมว่าเงื่อนไขที่จะสร้างความขัดแย้งในสังคมขณะนี้น่าจะลดลงไปมากแล้ว เพราะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทางรัฐบาลก็มีมติจะทำประชามติ ไม่ใช่ดึงดันใช้เสียงข้างมากในสภาฯ นอกจากนี้นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ประกาศลาออกไปแล้ว หลังถูกกล่าวหาอย่างหนักในเรื่องหมิ่นสถาบัน จึงหวังว่าหลังออกอากาศชี้แจงแล้วจะช่วยลดกระแสหรืออารมณ์ร่วมของประชาชนที่อยากจะไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯได้