ปลัดสำนักฯยัน สมาร์ทการ์ด ครุฑยังอยู่ อ้างข้อมูลเยอะไม่มีพื้นที่โชว์
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2549 16:48 น.
ปลัดสำนักนายกฯ ยืนยันมีตราครุฑในบัตรสมาร์ทการ์ด และต้องส่องแบล็กไลต์เท่านั้นจึงจะเห็น อ้างพื้นที่บัตรอัดข้อมูลเยอะ ทั้งประกันสังคม - 30 บาท จนไม่สามารถโชว์ได้ ย้ำไม่เกี่ยวกับปฏิญญาฟินแลนด์เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งสิ้น ปัดเปลี่ยนชื่อข้าราชการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แค่แยกคำนิยามให้ชัดเจนเท่านั้น
วันนี้ (31 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายรองพล เจริญพันธุ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีที่มีการระบุว่า รัฐบาลได้เปลี่ยนคำว่าข้าราชการให้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ หรือบัตรสมาร์ทการ์ดไม่ให้มีตราครุฑ ว่า ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542 ได้บัญญัติเอาไว้ว่า ข้าราชการทุกคนและทุกประเภทนั้น จะต้องมีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ได้เปลี่ยนข้าราชการให้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้ คำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะมีนิยามแยกประเภทของข้าราชการฝ่ายต่างๆ ออกไป โดยบัตรจะมีตราครุฑที่ด้านหลัง และมีการระบุประเภทของข้าราชการไว้ใต้ครุฑ ว่า เป็นข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร ข้าราชการรัฐสภา เป็นต้น ดังนั้น การมีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น ไม่ได้เป็นการยกเลิกตราครุฑเลย อย่างไรก็ตามเมื่อมีกฎกระทรวงมหาดไทยกำหนดบุคคล ซึ่งได้รับยกเว้นไม่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2548 ออกมาใช้บังคับเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2548 ข้าราชการจะต้องไปมีบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดขึ้นมาอีกใบ
นายรองพล กล่าวต่อไปว่า ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2526 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2542 นั้น ได้กำหนดบัตรประจำตัวประชาชนเป็น 3 ประเภท คือ 1.บัตรประจำตัวประชาชนที่ไม่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 2.บัตรประจำตัวประชาชนที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่ง 2 ประเภทแรกนี้มีตราครุฑปรากฏให้เห็นชัดเจน และ 3.บัตรประจำตัวประชาชนที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบอเนกประสงค์ หรือบัตรสมาร์ทการ์ด ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย ยืนยันมาว่า มีครุฑแน่นอน แต่ต้องอ่านด้วยแสงแบล็กไลต์ และเมื่อมีการประกาศใช้กฎกระทรวงฯ ก็ไม่ได้หมายความว่า ให้ข้าราชการยกเลิกการมีบัตรประจำตัวข้าราชการ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542 แต่อย่างใด เพียงแต่ต้องมีบัตรอีกใบใช้ควบคู่กันไป คือ บัตรสมาร์ทการ์ดนั่นเอง
การพูดในลักษณะที่ว่าข้าราชการไม่ต้องมีบัตรประจำตัวข้าราชการ โดยมีบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรสมาร์ทการ์ดเพียงใบเดียวนั้นไม่เป็นความจริง ข้าราชการยังคงต้องมีบัตรประจำตัวข้าราชการ เพียงแต่ว่าหลังวันที่ 30 ธ.ค.2548 ต้องไปทำบัตรอีกใบ คือ บัตรสมาร์ทการ์ด ซึ่งออกโดยระบบคอมพิวเตอร์อเนกประสงค์ ซึ่งต้องอ่านตราครุฑด้วยแสงแบล็กไลต์ นายรองพล กล่าว
ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า เข้าใจว่า การต้องอ่านด้วยแสงแบล็กไลต์ เพราะมีการเขียนข้อมูลบนบัตรเต็มไปหมด ตามวัตถุประสงค์ของบัตร ซึ่งต้องการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ จนไม่รู้จะเอาตราครุฑไว้ตรงไหน ไม่มีเจตนาหรือความประสงค์ใดๆ ที่จะตัดครุฑออกไปเลย และบัตรประจำตัวข้าราชการก็ยังใช้ในวงราชการได้ตามปกติควบคู่กับบัตรสมาร์ทการ์ด โดยเป็นบัตรที่แสดงถึงยศและตำแหน่งของข้าราชการผู้นั้น ส่วนหากจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลในเรื่องอื่นๆ เช่น ข้อมูลประกันสังคม หรือการเสียภาษีต้องใช้บัตรสมาร์ทการ์ด
ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจจะมีกลุ่มเคลื่อนไหวนำเรื่องตราครุฑไปฟ้องร้องต่อศาลในเรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จะทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างไร ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า เราห้ามไม่ได้หากเขาจะนำเรื่องไปฟ้องศาล แต่ตนขอยืนยันว่า การมีบัตรสมาร์ทการ์ดไม่ได้ตัดสิทธิการมีบัตรข้าราชการเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย และยืนยันว่า บัตรสมาร์ทการ์ดมีครุฑ แต่ต้องอ่านด้วยแสงแบล็กไลต์ ส่วนตราครุฑจะต้องปรากฏให้เห็นชัดเจนหรือไม่นั้น ต้องไปถามที่กระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับปฏิญญาฟินแลนด์ ซึ่งเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งหมด