วันที่ 29 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะรัฐมนตรีเงาร่วมแถลง
“99 วัน เวลาที่เสียไปกับโอกาสที่รออยู่” ว่า จากการประเมินการทำงานของรัฐบาลที่บริหารประเทศครบ 99 วัน พบว่าคนไทยสูญเสียเวลา และโอกาสไปมาก ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง สังคมยิ่งหนักขึ้น เกิดวิกฤติพลังงาน ในทางกลับกันรัฐบาลไปเสียเวลากับการมุ่งเน้น แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งเป็นชนวนความขัดแย้งในสังคม ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ขอให้รัฐบาลตั้งต้น เริ่มแก้ปัญหาการเมืองด้วยการถอนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และล้มเลิกความคิดที่จะทำประชามติ แล้วจัดเวทีความคิด แก้ปัญหาเศรษฐกิจ พรรคพร้อมสนับสนุน ส่งบุคลากรเข้าร่วมแก้ปัญหา
ตนไม่ปฏิเสธการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องตั้งคณะกรรมการ หรือกรรมาธิการร่วมศึกษาการแก้ไข
และจัดทำเวทีแก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งเรื่องพลังงาน อาหาร ขนส่งมวลชน ค่าครองชีพ โดยดึงทุกฝ่ายมาร่วม ถ้ารัฐบาล ยอมปลดชนวนความขัดแย้งทั้งหลาย ตนพร้อมนำบุคลากรของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนเข้าไปสนับสนุนรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประเทศและประชาชน ขอย้ำว่ารัฐบาลต้องหยุดสร้างชนวนขัดแย้งทางการเมือง และแก้ปัญหาของประชาชนจริงๆ แล้วพรรคพร้อมที่จะช่วยสนับสนุน และร่วมมือกับรัฐบาลในการทำงาน
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคพลังประชาชน
โจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้มีทัศนคติอันตราย กรณี การเสนอใช้มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญปี 2540 ว่า การเสนอทางออกของนายอภิสิทธิ์เป็นแนวคิดที่ทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นทัศนคติไม่ดีต่อระบอบประชาธิปไตย การที่สมาชิก นปก. ปกป้องนายจักรภพถือเป็นการดิ้นรนเฮือกสุดท้ายของกลุ่ม นปก. เพราะวันนี้กระแสสังคมกดดันให้นายจักรภพต้องแสดงความรับผิดชอบ ถ้าจำนิทานอีสปเรื่องคางคกขึ้นวอได้ คิดว่าวันนี้มีคางคกบางตัวกำลังดิ้นสุดชีวิตไม่ยอมลงจากวอเสียที
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคพลังประชาชนยื่นหนังสือต่อ กกต.ให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์
เนื่องจากมี ส.ส.ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมืองว่า มั่นใจว่าพรรคไม่ได้ทำอะไรผิด การที่ ส.ส.ของพรรคไปร่วมชุมนุม ถือเป็นสิทธิ ไม่กังวลว่าจะสร้างปัญหาให้กับพรรค อยากตั้งข้อสังเกตว่า คนของพรรคพลังประชาชนเอง คอยให้การสนับสนุนกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะบุคคลที่เคยเป็น นปก.มาก่อน แต่พรรคต้นสังกัดไม่เคย ห้ามปราม และยังแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีหน้าตาเฉย ส่วนความคืบหน้าการยื่นถอดถอนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรมนั้น มีความคืบหน้าไปมาก และได้รับการ ร้องเรียนจากข้าราชการในกระทรวงยุติธรรมว่า ถูกคำสั่ง ให้โยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม เนื่องจากโดนตั้งข้อสังเกตจากผู้บริหารระดับสูงในองค์กรว่า แอบให้ข้อมูลพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเรื่องการขอเอกสารการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจในกระทรวง หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เป็นไปได้ว่า พรรคจะยื่นถอดนายสมพงษ์เพิ่มเติมจากกรณีดังกล่าวด้วย