จำลอง ฉุนบุกโรงพักทวงไม้เบสบอล

เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ที่รักษาการอยู่บริเวณหน้าวัดมกุฏฯ

ได้สกัดจับทีมงานของ พันธมิตร 2 คน พร้อมยึดไม้ตีเบสบอลที่มีผู้นำมาบริจาค ได้จำนวน 48 อัน จึงนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.นางเลิ้ง เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับ พล.ต.จำลอง เป็นอย่างมาก จึงระดมทีมงานกองทัพธรรมราว 10 คนขึ้นรถตู้ไปยัง สน.นางเลิ้ง ทันที เพื่อทวงไม้เบสบอลและทีมงานที่ถูกจับ พร้อมทั้งติดต่อไปยังทีมกองทัพธรรมว่า หากตนถูกจับให้เปลี่ยนที่มั่น มาล้อมโรงพักนางเลิ้งแทน เมื่อ พล.ต.จำลองเดินทางไปถึง ได้เข้าไปยังห้องสอบสวน พร้อมต่อว่าต่อขานตำรวจอย่างมีอารมณ์ว่าไม้เบสบอลเป็นอุปกรณ์กีฬา ถ้าอยากจับ ทำไมไม่ไปจับตามห้างสรรพ-สินค้า อีกทั้งไม้เบสบอลพวกนี้ตนเป็นคนขอรับบริจาคเอง 

ระหว่างนั้น พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส. สน.นางเลิ้ง เห็น พล.ต.จำลองกำลังหงุดหงิด

เกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งกับแกนนำผู้ชุมนุมและกลายเป็นเหตุบานปลาย ยอมตัดสินใจคืนไม้เบสบอลให้ แต่ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วให้ทีมงานสตาฟฟ์ของพันธมิตรฯ และ พล.ต.จำลองเซ็นชื่อรับของไว้ ขณะที่ พล.ต.จำลอง ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้งว่า จะมีชายฉกรรจ์มาก่อกวนบริเวณที่ชุมนุม ขอให้ตำรวจช่วยส่งกำลังมารักษา การณ์ด้วย ซึ่งตำรวจยอมรับแจ้งความ จากนั้นทีมงานกองทัพธรรมจึงช่วยกันหอบหิ้วไม้เบสบอลทั้ง 48 อัน กลับไปยังที่ชุมนุมแจกจ่ายให้กับทีมงานการ์ด ไว้ป้องกันการก่อกวนของฝ่ายตรงข้าม

ส่วนบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในช่วงเย็นเริ่มคึกคักขึ้น โดยมีแนวร่วมกลุ่มต่างๆที่สนับสนุนพันธมิตรฯ ทยอยเดินทางมาเข้าร่วมเพิ่มขึ้น

ที่มาเป็นกลุ่มๆ ก็มี อาทิ แนวร่วมพันธมิตรโคราช และ ร.อ.วรรณโน กริ่มละ นายกสมาคมทหารผ่านศึกพิการแห่งประเทศไทย นำทหารผ่านศึกพิการราว 50 คน บางรายนั่งรถเข็นเดินทางเข้ามาในที่ชุมนุม พร้อมยื่นแถลงการณ์ให้ พล.ต.จำลอง แสดงเจตนารมณ์ว่ามีความจงรักภักดีและพร้อมจะปกป้องสถาบัน สำหรับการรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมนั้น ยังคงมีการแจกจ่ายหมวกกันน็อก โล่พลาสติกใส ไม้เบสบอล ให้กับทีมงานการ์ด พร้อมทั้งแจกจ่ายเสื้อกันฝนให้ผู้ชุมนุม ทั้งนี้ พล.ต.จำลองได้ขึ้นเวทีปราศรัย ประกาศกร้าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้งว่า ถ้าเขาจะเอาแก๊สน้ำตามาฉีดใส่ ก็ขอให้ไปล้างออกแล้วกลับมาชุมนุมใหม่ ขอเตือนกลุ่มอันธพาลที่จะบุกเข้ามาด้วยว่า ถ้าคิดจะมาต้องกล้าที่จะเสียสละรถจักรยานยนต์ ขอบอกทีมงานการ์ดด้วยว่า อย่าไปตีให้ถึงตาย เอาแค่น่วมๆพอเข้าห้องไอซียูก็พอ  

กระทั่งเวลา 19.10 น. ฝนได้โปรยปรายลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งแตกกระเจิงเข้าหาที่หลบฝน

แต่ยังคงมีบางส่วนที่ยังปักหลักชุมนุมกลางสายฝน เพื่อฟังการปราศรัยบนเวทีอย่างไม่ยอมลดละ ระหว่างที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก เวทีปราศรัยของพันธมิตรต้องหยุดลงชั่วคราว เนื่องจากต้องปิดเครื่องปั่นไฟและเครื่องเสียงทั้งหมด ส่งผลให้ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต้องวิ่งหลบฝนกันจ้าละหวั่น แต่ยังคงมีแนวร่วมพันธมิตรจำนวนหนึ่ง ที่ยังปักหลักสวมเสื้อกันฝน ร้องเพลงเต้นรำกันอย่างครึกครื้น ระหว่างนั้นจู่ๆ มีคนเห็นกระเป๋าสีดำต้องสงสัย วางอยู่ด้านหน้าเวทีอย่างผิดสังเกต จึงให้มาตรวจสอบเพราะเกรงว่าจะเป็นระเบิด ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมแตกฮือหลบไปคนละทิศละทาง ทีมงานการ์ดพันธมิตรก็รีบกรูเข้ามากันประชาชนออกจากบริเวณอย่างเร่งด่วน แล้วนำยางรถยนต์มาวางทับไว้ เพื่อตรวจสอบในเบื้องต้น ปรากฏว่าเมื่อเปิดออกมากลายเป็นกระเป๋าเอกสาร กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งหายผวาจึงพากันกลับมารวมตัวกันใหม่ จากนั้นเวทีปราศรัยก็เริ่มเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการขึ้นอีกครั้ง เหล่าแกนนำขึ้นเวทีปราศรัยสลับกับดนตรีเพื่อดึงมวลชนต่อ