จักรภพตัดสินใจ ลาออก! โทรหาสมัครแล้ว

เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม 404 บช.ก. พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก.เป็นประธานประชุมคณะกรรมการสอบสวน

คดีหมิ่นสถาบันของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.อดิศรแถลงว่า บช.ก.ได้รับมอบหมายดำเนินคดีนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่ถูกกล่าวหาพูดหมิ่นสถาบัน พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้นำเสนอพยานหลักฐานที่มีผู้ร้องทุกข์ กล่าวโทษ พยานหลักฐานบุคคล และได้ทำการสอบสวนไปจนมีผลเป็นที่น่าพอใจ ทั้งนี้ ขอเรียนว่า บช.ก.และพนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินการด้วยความเที่ยงธรรม และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เนื่องจากคดีนี้เป็นเรื่องที่สื่อมวลชน และสังคมจบตาอยู่ ขอสรุปว่า คณะกรรมการพิจารณาสำนวนคดีหมิ่นของ บช.ก. ที่ประกอบด้วย ผบช.ก. รอง ผบช.ก. ผบก.และพนักงานสอบสวน มีมติว่า กรณีนายจักรภพที่ได้พูดนั้นมีพฤติการณ์ความผิดตามมาตรา 112 เป็นการหมิ่นสถาบัน หลังจากนี้ไปจะดำเนินการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ ที่ต้องนำมาสอบสวนอีกเพื่อให้เรียบร้อยรัดกุมขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเรียกนายจักรภพมารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อไร

ผบช.ก. ตอบว่า คงเป็นช่วงต้นสัปดาห์ หน้า หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม ขั้นตอนจากนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ หากนายจักรภพจะติดต่อมามอบตัว ก็เป็นสิทธิของนายจักรภพ แต่ถ้าไม่เข้ามอบตัว จะรวบรวมพยานหลักฐานขอเสนอศาลเพื่อขออนุมัติหมายเรียกตัวนายจักรภพ ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้นายจักรภพตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน พล.ต.ท.อดิศรตอบว่า มีมติต้องทำการสอบสวนเป็นผู้ต้องหาต่อไป ส่วนเอกสารที่ต้องนำประกอบเพิ่ม เป็นเรื่องสำนวนคดีเปิดเผยไม่ได้ พยานเอกสารไม่ได้มาก แต่ต้องขอความเห็นพยานบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์เพิ่มเติม เพราะการแปลเอกสารทางราชการของกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว

คดีนี้แปลหลายฝ่าย บางคำบางความหมายต้องให้ผู้มีความรู้ทางภาษามาให้ความเห็นเพิ่มเติม

แต่ขอยืนยันว่าพยานหลักฐานที่มีเพียงพอสอบสวนดำเนินคดีได้ ทางตำรวจต้องขอความเห็นชอบจากศาล คิดว่าไม่นาน 10 วันจากนี้ไปจะสามารถสรุปเรื่องส่งคณะกรรมการของ ตร. ความผิดมาตรา 112 ที่ว่า “ผู้ใดดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน พระบรมวงศานุวงศ์ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ไม่เกิน 15 ปี” ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่เรียกนายจักรภพเข้ามาพบก่อนดำเนินคดี ผบช.ก. ตอบว่า คดีหมิ่นสถาบันเป็นเรื่องไม่เหมือนการสอบสวนทั่วไป ต้องทำด้วยความรอบคอบ มีผู้บังคับบัญชาร่วมพิจารณา เพราะฉะนั้น กรณีนี้ผู้กล่าวหาและพยานหลักฐานต่างๆ มีหลักฐานพอให้แนวคิดดำเนินการต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีคณะกรรมการ บช.ก.ต้องรีบสรุปคดีหมิ่นสถาบันของนายจักรภพ

ทั้งที่ก่อนหน้าคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มี พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก. บอกว่ายังมีหลายขั้นตอน ทั้งการแปลเอกสารคำปราศรัยของนายจักรภพ แต่มีใบสั่งฝ่ายการเมืองให้รีบทำการสรุปคดีนายจักรภพ พร้อมทั้งดำเนินคดีตามมาตรา 112 เพราะความขัดแย้งกันเองของฝ่ายการเมือง นายจักรภพได้ติดต่อเคลียร์ผู้ใหญ่ฝ่ายการเมืองฝ่ายรัฐบาล แต่ไม่ลงตัวเนื่องจากหลายฝ่ายต้องการให้นายจักรภพเป็นผู้รับผิดชอบกับเรื่องคดีหมิ่นสถาบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ได้ตัดสินใจที่จะลาออกจากตำแหน่ง โดยได้แจ้งประสานไปยังนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว โดยการตัดสินใจดังกล่าวนายจักรภพแจ้งว่าหลังจากที่ใช้เวลาในระหว่างการลากิจ ได้พิจารณาและรับฟังกระแสสังคมต่างๆเห็นว่าคงต้องตัดสินใจลาออก เนื่องจากไม่ต้องการให้กรณีของตัวเองถูกนำไปเป็นชนวนในการสร้างปัญหาให้สังคมเกิดความแตกแยกทางความคิด โดยเฉพาะข้อกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน และจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล

ต่อมาเมื่อเวลา 22.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า

ได้รับทราบการตัดสินใจการลาออกจากตำแหน่งของนายจักรภพ เพ็ญแข แล้ว ส่วนรายละเอียดให้ไปรอฟังการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่าการพิจารณาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายสมัครตอบว่ายังไม่คิดเรื่องนี้ และทางพรรคยังไม่มีการหารือกัน ซึ่งตนคิดว่าจะทิ้งเอาไว้ก่อน