อภิรักษ์ฝันทำกรุงเทพฯเป็นมหานครเทียบนิวยอร์ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)
 
เป็นประธานการประชุมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ วิสัยทัศน์การพัฒนากรุงเทพมหานคร 12 ปี และแผนบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2552-2555 มีทีมผู้บริหาร ผอ.สำนัก ผอ.เขต ส.ก. ส.ข. ผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมกว่า 500 คน นายอภิรักษ์ กล่าวว่า แผนบริหารราชการ กทม. 4 ปี 2548-2551 จะหมดวาระปีนี้ จึงให้ศูนย์วิชาการ จุฬาฯ เป็นที่ปรึกษาจัดทำแผนใหม่ปี 2552-2555 และให้วางแผนระยะยาวกรอบ 12 ปี แบ่งเป็นรอบละ 4 ปีเข้ากับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

สำหรับวิสัยทัศน์การพัฒนากรุงเทพฯ 12 ปี จะยกระดับกรุงเทพฯ เป็นมหานครเทียบเท่ามหานครอื่น ๆ ในโลก
 
เช่น ซิดนีย์ ฟูกุโอกะ โซล ปักกิ่ง โตเกียว ลอนดอน ปารีส นิวยอร์ก ให้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจและสังคม เป็นต้นแบบการบริการประชาชนในระดับมหานคร ให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน มีคุณภาพชีวิตที่ดี บริหารจัดการเมืองโปร่งใส เป็นธรรม ให้ประชาชนมีส่วนพัฒนาเมือง มากกว่างานเก็บขยะ ลอกท่อ ป้องกันน้ำท่วมที่ กทม.เคยดูแล ต่อไป กทม.จะเป็นมวยวัดหรือมวยลูกทุ่งอย่างเดียวไม่ได้แล้ว

ต้องปรับทิศทางการบริหารงานใหม่ ให้ทันมหานครอื่น ๆ โดยมี 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
 
1.การผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงในภูมิภาค เชื่อมโยงความแข็งแกร่งกับปริมณฑล โดยจะจัดตั้งคณะกรรมการภูมิภาคพัฒนาภาคมหานครแบบบูรณาการ จัดตั้งบริษัทโครงสร้างพื้นฐาน จัดตั้งองค์กรขนส่งนครหลวง ให้จังหวัดปริมณฑลร่วมเป็นกรรมการดูแลแก้ไขปัญหาการขนส่ง พัฒนาพื้นที่พิเศษ เช่น หัวตะเข้และลาดกระบัง รองรับสนามบินสุวรรณภูมิ ทำผังเมืองเฉพาะพื้นที่มักกะสันรับแอร์พอร์ต ลิงค์ ผังเมืองเฉพาะบริเวณศูนย์ขนส่งหมอชิตและท่าพระ

2.ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง จัดตั้งหน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจ กทม. ก่อตั้งมหาวิทยาลัย กทม. ดูแลการจัดการบริหารเมือง

3.พัฒนา กทม.เป็นเมืองน่าอยู่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม จะตั้งคณะกรรมการวัฒนธรรมและภูมิทัศน์ กทม.

4.ประชาชนอยู่ดีมีสุข สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ ภายใต้วาระกรุงเทพฯ สีเขียวที่มี 5 ด้าน

และ 5.พัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อเป็นองค์กรต้นแบบด้านการบริหารมหานคร เน้นบริหารจัดการมหานครมากกว่าลักษณะเทศบาล พัฒนาระบบเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิ ภาพงาน บริการประชาชน ลดขั้นตอนการทำงาน ขยายช่องทางการให้บริการที่หลากหลาย จัดตั้งสถาบันพัฒาเมืองมหานคร จัดตั้งศูนย์นิทรรศการเมือง กทม. ผลักดันการถ่ายโอนอำนาจและงบประมาณจากส่วนกลางมา กทม. จัดประชุมสภาเมือง

ทั้งนี้หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จะผลักดันให้สำเร็จตามแผน

ซึ่งไม่หวั่นข้อวิจารณ์ที่ว่างานหลักปัจจุบันทำไม่ได้แล้วจะยกระดับไปสู่สากลเป็นการเพิ่มภาระ เพราะหากปรับรูปแบบตามแผนได้การบริหารงานก็จะมี ประสิทธิภาพเพราะได้มาตรฐานเทียบเท่ามหานครทั่วโลก และจะพยายามผลักดันให้เป็นจริงไม่ใช่แค่ราคาคุย เพราะมีตัวชี้วัด แต่หากไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ต่อแผนนี้ก็จะเป็นแกนหลักในการพัฒนา กทม.ส่วนโครงการหรือกิจกรรมอาจจะเปลี่ยนไปตาม นโยบายผู้ว่าฯ นั้น ๆ.