จำลองย้ำมีเงื่อนไขปฏิวัติ แก้รธน.-จาบจ้วงสถาบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

วันนี้ (17 พ.ค.) เป็นวันครบรอบ 16 ปี เหตุการณ์พฤษภาคม 2535 มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม ได้จัดงานรำลึก "16 ปี พฤษภาประชาธรรม” เพื่อรำลึกและเชิดชูคุณงามความดีของวีรชนผู้เสียสละในเหตุการณ์ โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วม ได้แก่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกรัฐบาล ผู้แทนรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายโคทม อารียา ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะผู้แทนสมาชิกวุฒิสภา และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมวางพวงมาลา รำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์  

ทั้งนี้ คณะกรรมการมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม ได้ร่วมกันมอบแบบแปลนการก่อสร้างอนุสรณ์พฤษภาประชาธรรม ให้กับนายอภิรักษ์ โดยจะเป็นสถานที่รำลึกถึงผู้เสียสละต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และให้ประชาชนใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ จัดนิทรรศการกลางแจ้งและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานชื่อว่า "สวนสันติพร” และจัดให้มีการประกวดรูปแบบการก่อสร้าง และดำเนินการจ้างออกแบบพร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไป อยู่ระหว่างรอให้กรมธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ กทม. หากส่งมอบได้ทันภายใน 3 เดือนนี้ จะใช้เวลาในการก่อสร้าง 8 เดือน แล้วเสร็จทันการจัดงาน พฤษภาประชาธรรมปีที่ 17 ในปีหน้า 

สำหรับอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมนี้
 
ก่อสร้างบนเนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 26 ตร.วา บนพื้นที่ตั้งกรมประชาสัมพันธ์เก่า ปัจจุบันผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลใช้เป็นที่ค้าสลากฯ ชั่วคราว และมีกำหนดคืนพื้นที่ ตามสัญญาในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ซึ่ง กทม.ให้อนุมัติงบสนับสนุนก่อสร้าง 25 ล้านบาท และ กทม.จะเป็นผู้ดูแลสวนฯ แห่งนี้ร่วมกับมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม ส่วนรูปแบบอนุสรณ์ฯ จะเป็นลานกว้างให้ประชาชนร่วมกันทำกิจกรรมต่าง ๆ มีส่วนของเจดีย์เพื่อรำลึกถึงวีรชนผู้สละชีวิต

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า
 
ในนามของรัฐบาล ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้น เหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 มีผู้สละชีวิตจำนวนมากเพื่อเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตย  แต่วันนี้ แม้มีการมองเป็นสองแบบแต่ก็เป็นคนไทยด้วยกัน จึงหวังให้คนไทยรักใคร่ สามัคคีเพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น 

ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า

เหตุการณ์เดือนพฤษภาคม ถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เราได้เห็นความกล้าหาญ ความเสียสละของคนไทยที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย และความเสมอภาค หากจะย้อนกลับไปจะเห็นว่ารัฐบาลในปี 2535 เป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมโดยรัฐธรรมนูญ แต่มีความชอบธรรมบางอย่างที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องค้นหาตามระบบประชาธิปไตย ดังนั้น ความสามัคคีจะต้องอยู่บนความถูกต้อง และถ้าทุกฝ่ายยึดถือความถูกต้องไม่เพียงแต่ความชอบด้วยกฎหมาย แต่จะต้องชอบธรรมและถูกต้องก็จะเป็นการสานต่ออุดมการณ์ในการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตยของวีรชนเดือนพฤษภาคม 2535 

ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ที่อาจจะมีการเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า
 
เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ต้องดูว่ามีความเหมาะสม เพราะยังมีปัญหาปากท้องเรื่องอื่น เร่งด่วนมากกว่า หากจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 เพียงฉบับเดียว ต้องระบุให้ชัด หากเติมเรื่องอื่นไปด้วย คงไม่เหมาะ "ขณะนี้แม้ไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ยังมีปัญหาอยู่แล้ว และหลายฝ่ายก็ไม่เห็นด้วย ถ้าจะแก้ต้องถามประชามติจากประชาชน อย่าให้คนเพียงไม่กี่คนไปตัดสินปัญหาแทนคนทั้งประเทศ คนที่คัดค้านไม่ได้หมายความว่าปิดประตูตาย แต่อยากให้ทำตามระบอบประชาธิปไตย” พล.ต.จำลอง กล่าว และว่า หาก ส.ส.ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญวันใด วันนั้นจะยื่นถอดถอน ส.ส.ที่เข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับพิจารณาถึงวันชุมนุมใหญ่ ตามที่เคยประกาศไว้ 

พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า
 
ที่ผ่านมามักมีผู้สอบถามตลอดว่าจะมีปฏิวัติหรือไม่ ตนบอกว่าเมืองไทยการเมืองยังไม่มั่นคง ชุมชน ประชาชน ยังไม่เข้มแข็ง ลือกันเมื่อใด ก็มีคนเชื่อ เป็นไปได้ทั้งนั้น และทหารเป็นกลุ่มบุคคลที่ถืออาวุธได้ตามกฎหมาย มีหน้าที่เหมือนประชาชน คือรักษาไว้ซึ่งสามสถาบัน และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งแบกภาระยิ่งกว่าประชาชน 

"เมื่อใดที่ใครออกมาพูดว่าปฏิวัติไม่มี ผมไม่เชื่อ เมื่อชุมชนไม่เข้มแข็ง การเลือกตั้งเป็นอย่างนี้มันมีได้ตลอดเวลา อย่าไปเชื่อใคร ขอให้หยุดสร้างเงื่อนไขในการปฏิวัติ ซึ่งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่เป็นประเด็นใหญ่ รวมถึงเรื่องสถาบันด้วย” พล.ต.จำลอง กล่าว