ชิดชัย ขวาง พรทิพย์ ตรวจสุสาน สั่งปลัด ยธ.ลงใต้ค้นความจริง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2549 17:19 น.

ชิดชัย สั่งปลัดยุติธรรม ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ดูสุสานศพนิรนาม ปัด หมอพรทิพย์ ร่วมทีมตรวจสอบ ย้อมถามสื่อ เคยเห็นป่อเต็กตึ๊งรื้อศพไร้ญาติไหม ด้านกรรมสิทธิฯ จี้รัฐพิสูจน์ศพตามหลักสากล

วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.10 น. พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพบสุสานฝังศพนิรนาม ว่า สาเหตุของการที่ไม่มีการตรวจพิสูจน์ศพก่อนนำศพไปฝัง ว่า คุณเคยเห็นป่อเต็กตึ๊งไปรื้อศพไร้ญาติบ้างไหม อย่างไรก็ตาม ก็ได้มอบหมายให้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปดู เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วต้องให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ไปดูด้วยหรือไม่ รมว.ยุติธรรม กล่าวย้ำว่า ให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปดูแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การพบสุสานมีความเกี่ยวกับการหายไปของคนพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้หรือไม่ รองนายกฯด้านความมั่นคง กล่าวว่า ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุ เพียงแต่ตอนนี้อยากจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร เมื่อถามต่อไปว่าที่นายโคทม อารียา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) และในฐานะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านกลัวจนไม่อยากยุ่งกับใคร เพราะไม่ว่าจะเป็นพวกรัฐหรือพวกผู้ก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวเพียงว่า มันเกิดได้ทั้งนั้น

นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีพบสุสานปริศนาในพื้นที่ภาคใต้ ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ช่วงที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้ข้อมูลมาว่า มีศพนิรนามถูกฝังอยู่ในสุสานจีน ธ่งเต๊กเซียงตึ๊ง จังหวัดปัตตานี โดยมีศพอยู่ที่นี่ประมาณ 300 ศพ และพบที่สุสานจีนในจังหวัดยะลาอีก 200 ศพ กรรมการสิทธิฯจึงได้ขอความร่วมมือไปยังกระทรวงยุติธรรม ขอให้มีการขุดศพเหล่านั้นขึ้นมาพิสูจน์ โดยให้เริ่มที่สุสานในจังหวัดปัตตานีก่อน ซึ่งตนได้ทำหนังสือแจ้งขอความร่วมมือไปยังผู้จัดการมูลนิธิธ่งเต๊กเซียงตึ๊ง ซึ่งก็ได้รับแจ้งกลับมาว่ายินดีให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม การขุดศพพิสูจน์ทั้งหมดตั้งใจจะทำอย่างเงียบๆ

ตำรวจก็บอกว่าศพทั้งหมดที่ถูกฝังอยู่นั้นเป็นแรงงานต่างด้าว เราก็ไม่ว่าอะไร แต่ถึงเขาจะเป็นแรงงานต่างด้าวก็ควรได้รับสิทธิตามหลักสิทธิมนุษยชนที่ต้องดูว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร ที่ผ่านมาตอนไปประชุมที่ มอ.ปัตตานี ก็ได้ประกาศในพื้นที่ว่าหากมีญาติหรือแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ด้วยสูญเสียไป และคาดว่า จะเสียชีวิตก็ขอให้แจ้งมา เพื่อจะได้ไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเทียบกับผลการตรวจศพที่จะขุดขึ้นมา แต่ตอนที่ประกาศไม่ค่อยได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในขณะนั้น อีกทั้ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ จะเป็นผู้ดำเนินการ ทำให้ไม่ทราบว่าจนถึงขณะนี้มีญาติหรือแรงงานต่างด้าวมาแจ้งว่ามีใครสูญหายไปหรือไม่ นายวสันต์ กล่าว

นายวสันต์ ยังกล่าวอีกว่า แม้มีความตั้งใจเรื่องการขุดศพมาพิสูจน์เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ โดยทาง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ แจ้งว่า ค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์ประมาณ 10,000 บาทต่อศพ ทำให้จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการขุดศพแต่อย่างใด แต่ในขณะนี้ทราบว่าพอที่จะแก้ปัญหาเรื่องงบประมาณได้แล้ว และทางองค์การสหประชาชาติที่มีหน่วยงานที่ติดตามผู้สูญหายจึงได้พูดคุยกับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ว่า หากมีปัญหาเรื่องงบประมาณว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจจะติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางสหประชาชาติ แต่ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทราบว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้มีการติดต่อสถานที่พิสูจน์ศพเหล่านั้นแล้ว โดยจะมีการชุดศพทั้งหมดในช่วงต้นเดือนหน้า ซึ่งจะเริ่มจากสุสานธ่งเต๊กเซียงตึ๊ง มาพิสูจน์ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ในรายละเอียดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งก็แล้วแต่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์

เมื่อถามว่า เบื้องต้นกรรมการสิทธิฯตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของศพเหล่านี้อย่างไร นายวสันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นก็ต้องเชื่อที่เจ้าหน้าที่ บอกว่า เป็นพวกแรงงานต่างด้าว แต่เราเองก็ต้องยืนยันในหลักการของสิทธิมนุษยชนที่ไม่แยกเชื้อชาติ ศาสนา ใครที่ทำให้เสียชีวิตก็ต้องได้รับการพิสูจน์ อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าเสียชีวิตเพราะอะไร เช่น หากเป็นแรงงานทางฝั่งมาเลเซีย หรือพม่า แม้ไม่มีใครมาแจ้ง แต่ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นคนของประเทศใดก็จะได้ประสานกับไปยังประเทศเขา เพื่อให้ญาติพี่น้องที่สงสัยว่าผู้ที่เสียชีวิตเป็นญาติของตนเองจะได้มารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

ผมไม่ทราบจริงๆ ว่า ผู้ที่เสียชีวิตเกี่ยวข้องกับกรณีที่มีการสูญหายของคนในภาคใต้หรือเปล่า เพราะเราไม่ได้มีธงอะไรไว้ล่วงหน้า ผมเพียงแต่ต้องการให้มีการขุดศพไปตรวจ ซึ่งเป็นการทำตามหลักสิทธิมนุษยชนที่เป็นหลักสากล ไม่ว่าใครที่เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุก็ควรได้รับความเป็นธรรม ครอบครัวควรได้รับการเยียวยา นายวสันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า ยังมีศพนิรนามที่ถูกฝังในที่อื่นๆ อีกหรือไม่ นายวสันต์ กล่าวว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้แจ้งให้ทราบว่า ยังมีศพนิรนามอีกจำนวนมากถูกฝังตามกุโบร์ หรือสถานที่ฝังศพของชาวมุสลิม ซึ่งไม่ทราบผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นใคร แต่ตามหลักศาสนาอิสลามแล้ว ห้ามมีการขุดศพที่ฝังแล้วขึ้นมาดู ในขณะนี้จึงกำลังพยายามประสาน และมีการพูดคุยว่าจะมีการขุดศพเหล่านี้มาพิสูจน์อย่างไร หรือจะทำอะไรได้บ้าง