จับตา! สั่งคดีพรุ่งนี้-ศาลฎีกาถก 31 พ.ค.แย้มท่าทีคว่ำบาตร 3 กกต.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2549 16:43 น.

ประธานศาลฎีกา เรียกประชุมด่วนคณะผู้พิพากษาระดับหัวหน้าคณะก่อนนัดถกใหญ่ศาลฎีกา วันที่ 31 พ.ค.รับมือหนังสือ สุชน ที่ขอให้สรรหา กกต.เพิ่มอีก 2 คน ขณะที่เลขานุการศาลฎีกาย้ำท่าทีไม่ร่วมสังฆกรรม วาสนา-ปริญญา-วีระชัย ชี้นัยสำคัญให้จับตาไต่สวนคดีฟ้องอาญา กกต.ระบุ จะมีกรณีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

วันนี้ (29 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่ศาลฎีกา ช่วงเช้าเวลา 09.00 น.นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา เรียกประชุมคณะกรรมการตุลาการ ในวาระด่วนของกองงานกรรมการตุลาการ โดยประธานศาลฎีกาได้เชิญผู้พิพากษาระดับหัวหน้าคณะในศาลฎีกาหลายคนเข้าร่วม อาทิ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ นายสุมิตร สุภาดุล ซึ่งทั้งหมดพกประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเข้าประชุมด้วย ใช้เวลาร่วม 5 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้นการประชุมในเวลา 13.30 น.

นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขานุการศาลฎีกา เผยว่า ศาลฎีกาได้ส่งหนังสือเชิญผู้พิพากษาศาลฎีกา 25 คณะ รวม 86 คน เรียบร้อยแล้ว เพื่อเรียกประชุมใหญ่ศาลฎีกาในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามที่ประธานวุฒิสภาขอให้ศาลฎีกาประชุมใหญ่ เพื่อสรรหาผู้พิพากษา 2 คน เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยได้แนบคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญกับศาลปกครองที่มีคำพิพากษาว่าการดำเนินการของ กกต.ไม่ชอบ และการกำหนดวันเลือกตั้ง 2 เมย.เป็นโมฆะ เพื่อต้องการให้ผู้พิพากษาวิเคราะห์และอภิปรายพร้อมทราบเหตุผลถึงการวินิจฉัยของศาลทั้งสอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมใหญ่ครั้งนี้จะมีผลไปในแนวทางใด นายวิรัช กล่าวว่า เชื่อว่า ผลไม่ว่าจะออกมาอย่างใดก็จะเป็นอีกก้าวหนึ่ง ที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ต่อข้อถามว่า หากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาไม่ส่งผู้พิพากษาเป็น กกต.จะมีผลอย่างไร นายวิรัช ตอบว่า ถ้าที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาไม่ส่งผู้พิพากษาให้วุฒิสภา ก็ให้ กกต.ทั้งสามทำงานของท่านต่อไป เพราะเขายืนยันมาตลอดว่า เขายังทำหน้าที่ได้ ก็ให้ทำไป แต่สถานการณ์อาจกลับไปสู่วังวนเดิมได้

ผลของการประชุมครั้งนี้ น่าจะเป็นบทบาทที่เราต้องการให้ กกต.ทบทวนตัวเองอีกครั้ง ขอให้ กกต.ทั้งสามท่านคิดว่าจะทำสิ่งอันใด ขอให้ยึดถือประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก ผมขอเปิดใจ ว่า ศาลฎีกาและศาลยุติธรรมไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่เคยทะเลาะกับ กกต.เป็นการส่วนตัว และไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด ไม่เคยทำตัวสนับสนุนกลุ่มการเมือง เรายืนหยัดข้างประชาชน เชื่อว่า สถานการณ์ขณะนี้ประชาชนอาจจะอึดอัดที่ปัญหายืดเยื้อ แต่ขอให้เข้าใจว่าศาลต้องทำงานในกรอบของกฎหมาย ไม่อาจทำอะไรให้เร็วดั่งใจได้ เพราะกฎหมายเป็นกติกาของบ้านเมืองศาลเป็นผู้รักษากฎหมาย สุดท้ายผมขอให้ประชาชนจับตาการไต่สวนคดี กกต.เป็นจำเลยของศาลอาญาอย่างใกล้ชิด เพราะจะมีกรณีที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เลขานุการศาลฎีกา กล่าว

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) เวลา 13.00 น.ศาลอาญาได้นัดฟังคำสั่งคดีอาญาที่ นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ฟ้อง กกต.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีเกี่ยวกับการย้ายเขตสมัครรับเลือกตั้งเอื้อประโยชน์ให้บางพรรค