เจิมศักดิ์ ชี้มี ป.ป.ช.ใหม่สอย กกต.ได้ บี้ สุชน เลิกยื้อเวลาสรรหา
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2549 13:37 น.
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ชี้ถ้ามี ป.ป.ช.ใหม่สามารถสอย กกต.ชุดปัจจุบันได้ทันที เพราะมีคดีขึ้นค่าตอบแทนโดยมิชอบที่ ประทิน ยื่นให้พิจารณา ข้องใจ สุชน-รัฐบาล ทำไมต้องดึงเรื่อง พ.ร.ฎ.เปิดประชุมหลังงานพระราชพิธี ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญน่าจะรีบทำให้เสร็จ
วันนี้ (29 พ.ค.) นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการ ส.ว.กทม. กล่าวถึงความล่าช้าในการสรรหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ล่าสุดทางคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ที่มีนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานนั้น ประธานได้ทำการสรรหาครบแล้วจำนวน 18 คน ดังนั้น ทางที่ดีควรจะมีการเปิดประชุมวิสามัญของวุฒิสภาเพื่อทำการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติโดยด่วน เพราะตอนนี้มีเรื่องที่ส่งไปที่สำนักเลขาธิการ ป.ป.ช.เพื่อรอให้ ป.ป.ช.ทำการพิจารณาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาสอบสวนและศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตวุฒิสภา ที่มี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นประธานในตอนนั้น ได้ส่งเรื่องการขึ้นค่าตอบแทนขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 3 องค์กร คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ไปให้ ป.ป.ช.พิจารณา
นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อเรามี ป.ป.ช.ชุดใหม่ที่ดีและเป็นกลางจะสามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้ทันที เพราะคดีนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และคิดว่าน่าจะพิจารณาได้รวดเร็วเนื่องจากเป็นกรณีเดียวกับการออกระเบียบค่าตอบแทนแบบเดียวกับอดีตกรรมการ ป.ป.ช. 9 คน ที่มี พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ เป็นประธาน ฐานกระทำความผิดทุจริตต่อหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีออกระเบียบขึ้นค่าตอบแทนให้ตัวเอง และถ้ากรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหม่สรุปเรื่องนี้เสร็จและส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยถ้าศาลฎีการะบุว่าเรื่องนี้มีมูลและรับไว้พิจารณา กกต.ที่เหลือจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที ซึ่งตนเชื่อว่าสุดท้ายเมื่อการพิพากษา กกต.ที่เหลือจะต้องโทษคดีอาญาแน่นอน
ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณสุชน (ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา) ต้องดึงเรื่องนี้ด้วย เหมือนกับรู้กันกับทางรัฐบาล ซึ่งการขอพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ ที่รัฐบาลระบุว่าต้องเปิดหลังเสร็จงานพระราชพิธี ผมเห็นว่าเรื่องการสรรหา ป.ป.ช.เป็นเรื่องที่สำคัญ และการขอเปิดประชุมก็แค่การตั้งกรรมาธิการตรวจสอบประวัติเท่านั้น ในทางกลับกัน ถ้ามีการเปิดประชุมได้เร็ว และตั้งกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ทางกรรมาธิการก็สามารถทำการตรวจสอบความประพฤติทั้ง 18 คนไปได้ ซึ่งเชื่อว่าการตรวจสอบประวัติทั้ง 18 คน สามารถทำได้เสร็จในช่วงกลางเดือนมิถุนายนอย่างแน่นอน และหลังจากนั้นก็สามารถให้วุฒิสภาเลือกให้เหลือ 9 คนได้ในเดือนกรกฎาคม และจะทำให้ ป.ป.ช. ชุดใหม่เริ่มการพิจารณาเรื่องนั้นได้ทันที นายเจิมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพิจารณาการขึ้นค่าตอบแทนขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 3 องค์กร คือ กกต. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภานั้น พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีต ส.ว.กทม.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาสอบสวนและศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต วุฒิสภา ได้สรุปผลการพิจารณาไว้แล้ว โดยกรรมาธิการเห็นว่าน่าจะมีมูลความผิดเช่นเดียวกับ ป.ป.ช.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินไปแล้ว เป็นการออกระเบียบที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผิดตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้ทางกรรมาธิการได้จัดทำทำรายงานต่อวุฒิสภา และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ชุดใหม่ ดำเนินคดีอาญาไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2548