ยงยุทธเล่นบทโศกน้อยใจ สังคมเชื่อไขก๊อกมีเงื่อนงำ

วานนี้ (2 พ.ค.) นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร

เปิดเผยภายหลังลาออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า รู้สึกน้อยใจที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าการลาออกมีเงื่อนงำทางการเมือง ทั้งที่แท้จริงแล้วสาเหตุของการลาออกเป็นเพราะความสง่างามทางการเมือง เนื่องจากไม่ต้องการดำรงตำแหน่งในช่วงเวลาที่ต้องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาลฎีกา  

ทั้งนี้ นายยงยุทธ มั่นใจว่ารองประธานสภาฯ สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ไม่เป็นปัญหา

ส่วนผู้ที่จะมารับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคนต่อไป ต้องเป็นบุคคลที่มีความเป็นกลางในการทำงาน เป็นธรรม และให้โอกาส โดยตนจะไม่สนับสนุนผู้ใดเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสังคมมีการเผชิญหน้า อ่อนไหวอย่างมาก ดังนั้นสังคมไทยควรมีเวทีในการพูดคุยแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี กว้างขวาง เพื่อหาทางออกของปัญหาสำหรับทุกฝ่าย  

อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวอีกว่า อนาคตหลังจากนี้จะไปเป็นวิทยากร ที่มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ศึกษาพระพุทธศาสนา และเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการศาล   

วันเดียวกัน นายนิติธร ล้ำเหลือ กรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ เข้ายื่นหนังสือและหารือร่วมกับ พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เพื่อขอความคุ้มครอง นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย พยานปากสำคัญในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่มที่ 1 พรรคพลังประชาชน ซึ่งถูกขู่ฆ่าตั้งแต่มาเป็นพยานให้กับ กกต. รวมถึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลการเข้ามอบตัวของ นายชัยวัฒน์ ด้วย เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่า นายอดิศร เรือนคำ กำนันใน อ.แม่จัน พร้อมยืนยันว่า นายชัยวัฒน์ จะเข้ามอบตัวในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน แต่ขอให้ตำรวจรับรองสิทธิการประกันตัว และการคุ้มครองพยานเท่านั้น