2ปีผ่านไป!"เมียทนายสมชาย"ยังไม่ท้อ -แฉรัฐไม่จริงใจช่วยตามหา
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2549 19:48 น.
อังคณา นีละไพจิตร ยังไม่ท้อ เดินหน้าตามหา ทนายสมชายไม่ลดละ เผย ตำรวจ-ดีเอสไอ โยนเผือกไปมา สุดท้ายไม่คืบหน้าสักอย่าง ขณะเดียวกัน แฉ ประชาชนร้องตามหาญาตินับสิบรายผ่านกอส. สุดท้ายได้แต่เงินฟาดหัวกลับบ้าน โดยไม่ได้คำตอบสักแอะว่าญาติอยู่ไหน สอน รัฐดับไฟใต้ ต้องสร้างความยุติธรรมในพื้นที่ ปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม แนะ ให้เก็บกรณี ครูจูหลิงไว้เป็นอุทาหรณ์
วันนี้(27 พ.ค.) ที่สวนลุมพินี เมื่อเวลา19.00น. นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร กล่าวบนเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร คอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 2 เปิดเผยถึงการเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เมื่อวานนี้(26 พ.ค.) ว่า ต้องการจะรายงานสถานการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการวิสามัญ 2,000กว่าศพเมื่อครั้งปราบปรามยาเสพติด และเรื่องพรก.ฉุกเฉิน ทำให้มีคนหายไปจำนวนมาก จึงอยากให้ยูเอ็นเรียกร้องทางการไทยทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง
นางอังคณา กล่าวต่อว่า ทางยูเอ็นได้สอบถามข้อมูลจากพวกตน และเท่าที่ทราบเขาได้ทำหนังสือถามรัฐบาลไทยทั้งทางกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงมหาดไทย แต่เราก็ไม่มีโอกาสทราบว่ารัฐบาลไทยตอบไปว่าอย่างไร และขณะนี้ไม่ใช่แค่ยูเอ็นเท่านั้นที่ให้ความสนใจเรื่องการหายตัวไปของทนายสมชาย แต่สหภาพยุโรปเองก็เริ่มห่วงใยเช่นกัน ซึ่งทางยูเอ็นได้สอบถามรัฐบาลไทยเช่นกัน แต่ไม่ทราบว่ารัฐบาลตอบไปว่าอย่างไร
การตามหาตัวคุณสมชายทำได้อย่างยากลำบาก เรามีศูนย์พิสูจน์บุคคลหายที่กระทรวงยุติธรรม และนายกฯ(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร )เคยบอกว่าจะทำ โดยให้คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นคนดำเนินการ แต่กลายเป็นศูนย์นี้ตั้งขึ้นมาลอยๆไม่มีงบทำอะไรได้เลย นางอังคณา กล่าว
นางอังคณา กล่าวต่อว่า แต่ก็ยังมีอนุกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาตามหาทนายสมชายด้วย ซึ่งได้ติดตามการหายตัวไปของทนายสมชายและบุคคลทั่วไป โดยได้ไปตรวจหาร่องรอยที่อ.พบพระ และอ.แม่สอด จ.ตาก ได้กระดูกมาจำนวนหนึ่งมีร่องรอยการนั่งยาง และในจำนวนนั้นพบว่าสามารถตรวจดีเอ็นเอได้ พบเป็นชายสองคน และมีการแถลงข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รวมทั้งทางคณะกรรมการสิทธิ์ฯได้ประกาศว่า ผู้ใดสงสัยว่าเป็นญาติให้มาตรวจดีเอ็นเอได้ที่กรรมการสิทธิ์ฯ ซึ่งในส่วนของตนเองได้ตรวจสอบแล้วไม่ใช่เป็นของทนายสมชาย
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว สอดคล้องกับที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รักษาการส.ว.นครราชสีมา ระบุว่ามีสุสานที่กระดูกกองกันหลายร้อยศพ จนวันนี้ก็ไม่รู้ว่าพวกนั้นเป็นใคร รัฐบอกเพียงว่าเป็นแรงงานต่างด้าว แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็มีสิทธิความเป็นมนุษย์เหมือนกัน อีกหน่อยญาติเขาก็ต้องมาตามหานางอังคณา กล่าว และว่า เท่าที่ทราบตอนนี้มีทั้งสุสานจีนและมุสลิม และเจ้าหน้าที่ใช้วิธีการแยกคนด้วยการดูว่าขลิบอวัยวะเพศหรือไม่ หากขลิบแล้วเป็นมุสลิม ซึ่งตนคิดว่าเป็นการคัดแยกที่หยาบมาก
นางอังคณา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ทราบว่ามีกลุ่มคนสูญหายไปร้องกอส.ประมาณ20กว่าคน และได้มีการชดเชยค่าเสียหายให้กลุ่มดังกล่าว รายละ1แสนบาทเท่ากับคนตาย ทั้งที่ทั้งหมดนั้นไม่มีการติดตามแจ้งความด้วย เหมือนกับรัฐยอมรับเขาเสียชีวิต เป็นการจ่ายเงินแบบไม่เปิดเผย ไม่เป็นข่าว แต่เท่าที่ทราบไม่มีการพูดเรื่องยุติธรรม และทนายสมชายก็ไม่ได้ถูกโยงเข้ากลุ่มดังกล่าวด้วย ขณะนี้ชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าจะดำเนินคดีอย่างไร และจะสืบหาตัวได้หรือไม่
นอกจากนั้นนางอังคณา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตามหาทนายสมชายด้วยว่า ทนายสมชายนั้นหายตัวไป 2 ปีกับ2เดือนเศษแล้ว เมื่อต้นเดือนได้ไปยื่นหนังสือที่ดีเอสไอ เนื่องจากคดีไม่คืบหน้า ส่วนทางตำรวจนครบาลปัดว่าไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจแล้ว หลังศาลพิพากษาว่าพ.ต.ท.เงิน ทองสุก และพวกอีก 2-3คน เป็นคนผลักทนายสมชายขึ้นรถ แต่ก็ไม่มีการพยายามหาตัวว่าพวกอีก 2-3คนคือใคร และดีเอสไอก็ไม่มีความคืบหน้าในการติดตามด้วย
อยากเรียนผ่านทุกท่านว่าปัญหาความรุนแรงภาคใต้ เชื่อว่ามาจากความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรม ประชาชนไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคุณสมชายพยายามจะช่วยเหลือให้เข้าสู่กกระบวนการยุตธรรมมาตลอด จากกรณีครูจูหลิง เป็นบทเรียนชัดว่า เวลารัฐพยายามใช้ความรุนแรง ประชาชนก็ตอบโต้ด้วยความรุนแรง อยากให้รัฐกล้าออกมาพิสูจน์ความจริง แล้วเอาคนผิดมาลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นใคร พิสูจน์ให้เห็นว่าทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม เชื่อว่าจะทำให้ความไม่สงบคลี่คลายไปในทางที่ดีได้นางอังคณา กล่าวทิ้งท้าย