รัฐบาลสมัคร ฉายาลูกกรอก1

เจ้าของฉายา “ขาประจำ” นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชอย่างดุเดือด พร้อมตั้งฉายารัฐบาล “ลูกกรอก 1” มีฤทธิ์เดชมากมาย แต่ด้อยทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ คาดมีอำนาจได้แค่ 6 เดือนถึง 1 ปี

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แถลงข่าววิเคราะห์การเมืองไทย ในหัวข้อ “วิพากษ์จุดแข็งจุดอ่อนและโอกาสรัฐบาลพลังประชาชน แนวโน้มอนาคตการเมืองไทยและทางออกปัญหา” ว่า ทุกฝ่ายรวมทั้งวงวิชาการไม่ควรมีอคติว่าพรรคใดควรได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคพลังประชาชนมีความชอบธรรมเต็มที่ที่จะจัดตั้งรัฐบาลไปได้ 4 ปี แต่คนจะยอมรับฝีมือในการบริหาร การลุแก่อำนาจหรือความซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ ยังเป็นอีกปัญหาหนึ่ง ถือเป็นโอกาสที่ดีที่พรรคพลังประชาชนจะสร้างสิ่งดีๆที่ยั่งยืนให้แก่ชาวบ้านได้คือต้องยกระดับความมั่นใจในอำนาจของชาวบ้านทั่วประเทศ แทนที่จะเสพติดอยู่กับผลประโยชน์ของประชานิยม และควรทำให้ ประชาชนภาคต่างๆมีความทัดเทียมกันทั้งด้านการจัดสรรงบประมาณและนโยบาย รวมถึงควรสนับสนุนความทัดเทียมกันทางวัฒนธรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวแก่ เศรษฐกิจท่องเที่ยวและความสมานฉันท์ในประเทศ

นายธีรยุทธกล่าวอีกว่า พรรคพลังประชาชนถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีของไทยรักไทย ซึ่งนอมินีมักเป็นบุคคลที่อ่อนวัยวุฒิกว่า

ด้อยคุณวุฒิความฉลาดกว่าเจ้าของแต่มีความซื่อสัตย์จงรักภักดีสูง ซึ่งในวัฒนธรรมไทยมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งคือ การเลี้ยงลูกกรอก ซึ่งผู้มีอาคมปลุกเสกจากทารกที่หมดอายุขัยไปแล้วให้กลับมามีอิทธิฤทธิ์ควบคุมจิตใจให้ซื่อสัตย์ จงรักภักดีคอยช่วยทำงานให้ จึงควรแปลนอมินีว่า “ลูกกรอก” และเรียกรัฐบาลสมัคร สุนทรเวชว่า “รัฐบาลลูกกรอก 1” ซึ่งลูกกรอกคณะนี้มีระดับผู้นำอยู่ 2 ตนคือ รักเลี้ยบ ยมมิ่ง มีฤทธิ์เดชฉกาจฉกรรจ์ ส่วนหัวหน้าคณะลูกกรอกมี 2 ตน เป็นกุมารทองคะนองฤทธิ์ ตนที่หนึ่งเป็นกุมารทองคะนองปาก คิดอะไรก็พูดอย่างนั้นทันที จนสร้างศัตรูไปทั่วทุกกลุ่ม ส่วนกุมารทองที่สองคะนองอำนาจ ชอบกระทรวงที่มีอำนาจ เชื่อมั่นว่าอำนาจจะสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องเกรงใจใคร

นายธีรยุทธกล่าวด้วยว่า รัฐบาลคณะลูกกรอกแม้ จะมีฤทธิ์เดชแต่ด้อยวัยวุฒิคุณวุฒิและด้อยความสามารถกว่าจอมขมังเวทผู้เป็นเจ้าของ จึงทำให้ความชอบธรรมไม่สูงเท่าที่ควรจะเป็น

สองกุมารทองผู้นำก็ทะเลาะกับผู้คนไปในทุกๆเรื่อง ทำให้รัฐบาลตกอยู่ในฐานะมีตำแหน่งอำนาจได้ แต่ปกครองไม่ได้ ภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี คาดว่าจะถูกผู้คนต่อต้านหนักมากขึ้น ทั้งที่รัฐบาลน่าจะอยู่ได้ยาวกว่านี้ เหตุเพราะมีจุดอ่อนหลายข้อที่นโยบายประชานิยม ซึ่งยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญหรือมืออาชีพเป็นหลักตามมาด้วยระบอบของพรรคการเมืองไทยยังต้องถอนทุนคืน ซึ่งการคอรัปชันในสมัยรัฐบาลชุดนี้จะนำไปสู่การคัดค้านของสังคมอย่างกว้างขวาง และจะเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างจอมขมังเวท กุมารทองและบรรดาลูกกรอก กลุ่มรักทักษิณและพวกคัดค้านทักษิณ ที่มีความคิดสุดขั้วแฝงอยู่ จะเป็นตัวเร่งให้ความขัดแย้งในสังคมเกิดเร็วและขยายตัวได้ง่าย ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจมีแนวโน้มรุนแรง แต่บุคลากรของพรรคพลังประชาชนขาดความเป็นมืออาชีพที่จะแก้ปัญหาได้

นายธีรยุทธกล่าวด้วยว่า สำหรับแนวโน้มอนาคตการเมืองไทย ต้องระวังอย่าให้ประเทศไทยกลับไปสู่วัฏจักรวิบัติที่ก้าวจากยุค คมช. สู่ยุค ชคม.

คือยุคนักการเมืองชั่วครองเมือง ทั้งนี้ ต้องการเตือนนักการเมืองโดยรวมอย่างจริงจังว่าอย่าก้าวไปสู่จุดนั้น เพราะจะเกิดความเสียหายร้ายแรงมากกว่าทุกครั้งในประวัติศาสตร์ไทย จนกลายเป็นความขัดแย้งวุ่นวาย เกิดการปฏิวัติ วนเวียนเป็นวัฏจักรจนในที่สุดเกิดเป็นความขัดแย้งเชิงซ้อน ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ระหว่างเสรีนิยมสุดขั้วกับสถาบันต่างๆ ในประเทศ ซึ่งจะลุกลามไปสู่ความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับชนชั้นกลางในเมือง จนกลายเป็นความขัดแย้งของคนทั้งชาติอีกด้วย

นายธีรยุทธกล่าวอีกว่า เราผ่านวิกฤติทักษิณมา 1 รอบ ซึ่งได้สร้างผลเสียแก่ประเทศอย่างมหาศาล

และหากรัฐบาลยืนกรานจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ตัวเองพ้นผิด เพื่อให้พวกพ้องหลุดจากคดี ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติรอบ 2 แต่เนื่องจากครั้งนี้ประเทศมีปัญหามากมาย ความขัดแย้งเริ่มต้นจึงจะไม่เข้มข้นเท่าครั้งก่อน แต่จะยืดเยื้อยาวนาน ไม่มีคนแพ้คนชนะ ดังนั้น ทางออกในเชิงปฏิบัติคือพรรคพลังประชาชนควรทำตามหน้าที่ของตัวเองที่ได้รับจากการเลือกตั้งคือการบริหารประเทศให้ดี ไม่ควรรีบร้อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ บ้านเมืองก็หมดปัญหา คตส.และ ป.ป.ช.เร่งทำคดีอย่างเต็มที่ ถ้าศาลได้พิจารณาคดีความต่างๆอย่างเที่ยงตรงยุติธรรมและรวดเร็วทันกาล ก็จะคลี่คลายปัญหาลงได้ ท้ายสุดควรสร้างบรรทัดฐานที่ดีในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ภาคสังคม ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ มิใช่แก้ไขตามอำเภอใจเพื่อประโยชน์ของตัวเอง