อัปยศ!ตร.รู้เห็นม็อบถ่อยนับร้อยฮือรื้อเต๊นท์ผู้ชุมนุมไล่กกต.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2549 17:18 น.

กลุ่มของนายชินวัตร หาบุญพาด อายุ 53 ปี นายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท๊กซี่ นำข้าวของที่รื้อมาจากด้านหน้า กกต.ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน

ม็อบหนุน 3 หนากกต.ยังก่อพฤติกรรมเถื่อนถ่อยไม่เลิก ล่าสุดได้ยกขบวนนับร้อยบุกรื้อเต๊นท์กลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ "พี่หนา-ปริญญา-วีระชัย" กลางวันแสกๆ โดยมีตำรวจรู้เห็นเป็นใจคอยอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่

วันนี้(27 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ สน.ปทุมวัน นายชินวัตร หาบุญพาด อายุ 53 ปี ซึ่งอ้างว่าเป็นนายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท๊กซี่ และกลุ่มสมาคมพิทักษ์ประชาธิปไตย และนักจัดรายการวิทยุชุมชน คลื่น 92.75 พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กว่า 100 คนได้นำรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 70 6865 กทม.ซึ่งภายในบรรทุกสิ่งของ เช่น เต๊นท์ผ้าใบ เครื่องขยายเสียง รั้วเหล็ก ป้ายผ้ามีข้อความขับไล่ กกต.ของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ ที่ชมนุมอยู่บริเวณด้านหน้ากกต. อาคารศรีจุลทรัพย์ ถนนพระราม 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.มามอบให้ พ.ต.ต.ณพงษ์ กปิตถัย สารวัตรเวร สน.ปทุมวันพร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

นายชินวัตร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมา กลุ่มของพวกตนได้นัดกันมาที่บริเวณด้านหน้ากกต.เพื่อเข้าไปรื้อสิ่งของของกลุ่มผู้ชุมนุมด้านหน้า กกต.เนื่องจากเห็นว่า กระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นทำให้บ้านเมืองสกปรก รกรุงรัง อีกทั้งยังส่งเสียงดังรบกวนประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้เคียง โดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 229 นอกจากนี้ยังเห็นว่า ใกล้วันงานมหามงคลพิธีเฉลิมฉลองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงน่าจะรื้อถอนออกไปได้แล้ว โดนกลุ่มพวกตนที่มาในวันนี้ บางส่วนก็นัดกันมา บางส่วนก็ขับรถผ่านไปมา เมื่อเห็นพวกตนกำลังรื้อถอนอยู่ก็ลงมาช่วยเหลือ โดยไม่มีการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ท.อาคม จันทนลาช รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวนำโดยนายชินวัตร ได้เข้าไปรื้อถอนสิ่งของต่างๆ ของกลุ่มผ้ชุมนุมหน้า กกต.หลังจากนั้นก็นำรถบรรทุกขนสิ่งของทั้งหมดมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.เบื้องต้นก็ได้ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยหลังจากนี้หากกลุ่มผู้ชุมนุมด้านหน้า กกต.มีความประสงค ์จะรับของคืนก็สามารถมารับได้เลยทันที หรือหากประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี ฐานทำให้เสียทรัพย์ก็สามารถทำได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครมาแจ้งความ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณด้านหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ ก็พบว่า ยังคงมีข้าวของเครื่องใช้บางส่วนของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ วางกองอยู่จำนวนหนึ่ง ผู้ชุมนุมนำมาวางไว้ นอกจากนี้ยังพบกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนประมาณ 20 คนนั่งจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบถามนายอุดม บุญส่ง อายุ 54 ปี 1 ในกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่กกต.และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนั่งอยู่เฝ้าสิ่งของกลุ่มพวกตนอยู่ฝั่งตรงข้ามอาคารศรีจุลทรัพย์ก็สังเกตุเห็นว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมาที่บริเวณเต๊นท์ของพวกตน จากนั้นก็ระดมกำลังกันรื้อเวที ถอดเครื่องเสียง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ขนข้าวของพวกตนขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อไปทันที โดยตลอดเวลาที่ทำการรื้อค้นนั้นก็สังเกตุเห็นว่า มีชายฉกรรจ์บางส่วนก็กระจายกำลังกันไปคอยยืนคุมเชิงอยู่ที่ด้านหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาสะพานกษัตริย์ศึก บางส่วนก็ข้ามไปฝั่งตรงข้ามข้างวัดสามง่าม หรือคอยยืนดูอยู่บนสะพานลอย

นายอุดม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ขณะที่กลุ่มชายฉกรรจ์กำลังลงมือรื้อข้าวของอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่อยู่ภายในอาคารศรีจุลทรัพย์ก็ไม่ได้เข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด กลับนั่งเฉย ๆ นอกจากนี้ตำรวจจราจร 2 นาย ที่ยืนโบกรถอยู่ตรง 4 แยก พงษ์พระราม ก็ยังมาคอยกั้นรถอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวขนของขึ้นรถอีกต่างหาก ซึ่งหลังจากนี้ ตนเองได้โทรศัพท์แจ้งเรื่องให้ทางแกนนำทราบแล้ว ซึ่งจะรอให้ทางแกนนำตัดสินใจว่า จะดำเนินการไปแจ้งความที่สน.ปทุมวันหรือไม่