กลิ่นปฏิวัติโชย ถกบิ๊กเหล่าทัพ ทักษิณ สุดทน 3มีนาตั้งเวทีสู้

กลิ่นปฏิวัติโชย "ทักษิณ" เรียก ผบ.เหล่าทัพ กินข้าว กะทันหัน หลัง "รบพิเศษ" เข้ากรุง ขณะเดียวกัน ยอมทุกอย่าง หวังปลดล็อก จะให้พบ "อภิสิทธิ์" ที่ไหนก็ได้ ด้านฝ่ายค้าน ประสานเสียง "สายเสียแล้ว" เตรียมเข้าพบ "ป๋าเปรม" วันนี้

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี พยายามปลดล็อกทุกปัญหาที่ถาโถมเข้าใส่ ด้วยการเรียก ผบ.เหล่าทัพรับประทานอาหารกลางวันกะทันหัน หลังจากมีข่าวว่า มีการเคลื่อนย้ายกำลังจากหน่วยบัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ (นสศ.) เข้ามาในเมืองหลวง ขณะเดียวกันก็พยายามทอดสะพานไปยังฝ่ายค้านด้วยการยินยอมตามเงื่อนไขทุกอย่าง เพื่อให้ฝ่ายค้านกลับใจส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ก่อนวันสมัครรับเลือกตั้งจะมีขึ้นในอีก 2 วันข้างหน้า

รายงานข่าวแจ้งว่า อาหารกลางวันระหว่างรักษาการนายกรัฐมนตรีกับผู้นำเหล่าทัพ ซึ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ข้าวมันไก่มื้อนี้มีการสอบถามถึงความเป็นอยู่ของกองทัพ พร้อมกับคำมั่นสัญญาว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณได้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โครงการเมกะโปรเจคท์ของกองทัพ ก็จะเดินหน้าต่อไป

ขณะเดียวกัน มีการพูดคุยในเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะประเด็นการชุมนุมเรียกร้องขับไล่ให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง โดยนายกฯ ขอให้ผู้นำเหล่าทัพเสนอแนะทางออก เพื่อให้เหตุการณ์ยุติ และนำไปสู่การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน

ข่าวแจ้งว่า ผบ.เหล่าทัพได้เสนอว่า ขอให้ลดอุณหภูมิความร้อนแรงที่กำลังเกิดขึ้น เพราะต่างคนต่างเห็นว่าสถานการณ์ไปไกลเกินกว่าที่จะแก้ไข ดังนั้นการปฏิบัติจะต้องนิ่มนวลใช้ความรุนแรงไม่ได้ หนทางที่ดีที่สุดควรจะถอยกันคนละก้าวสองก้าว เพื่อนำไปสู่การเจรจา

หลังจากรับฟังข้อคิดเห็นแล้ว รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อเสนอของทุกคน ตนจะนำกลับไปพิจารณา และจะตัดสินใจในบางอย่าง เนื่องจากยังมีทางออก ส่วนการประกาศยุบสภาไปนั้น คิดว่า ผบ.เหล่าทัพ น่าจะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี จึงอยากให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลในเชิงสร้างสรรค์

ขณะที่แหล่งข่าวจากกองทัพ เปิดเผยว่า การเชิญผู้นำเหล่าทัพร่วมรับประทานอาหารกลางวันครั้งนี้เป็นไปด้วยความฉุกละหุกจนน่าเชื่อว่า มาจากกระแสข่าวมีกำลังจาก นสศ.เข้ามาเมืองหลวง

"ผบ.ทบ.รู้ข่าวว่านายกฯ เรียกประมาณ 10 โมงเศษ ตอนนั้นประชุมอยู่ที่ช่อง 5 ส่วน ผบ.ทร.ตอนนั้นประชุมเรื่องงบประมาณ ปี 2550 อยู่ที่ บก.ทร. ถึงกับต้องหยุดประชุมแล้วมอบหมายให้รอง ผบ.ทร.ประชุมแทน เพราะกลัวรถติดมาทำเนียบไม่ทัน"

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า รักษาการนายกรัฐมนตรีคงจะกลัวว่าทหารจะปฏิวัติ เพราะคนใกล้ตัวของนายกฯ ก็ยังโวยวายว่า มีข่าวเรื่อง นสศ. เคลื่อนย้ายกำลังออกมาได้อย่างไร

เผยทักษิณยาหอมโปรยเงินให้ทหาร

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. เปิดเผยว่า ระหว่างร่วมรับประทานอาหาร พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าให้ไปดูแลลูกน้องให้ดีๆ ทหารคงจะเหนื่อยเวลาเราเตรียมพร้อม ต้องมาอยู่ที่ตั้งของหน่วย ซึ่งเด็กพวกนี้เวลาออกมาจากบ้าน อาหารการกินความเป็นอยู่ ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้ให้ดูเพราะเป็นห่วง อยากให้เด็กๆ มีความสดชื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินสถานการณ์อย่างไรในการที่กองทัพธรรมจะกลับชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 5 มีนาคม พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่ได้พูดเรื่องนี้ นายกฯ เป็นห่วงแต่ทหารเท่านั้นเอง เป็นห่วงเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ด้วย หากเงินไม่พอให้มาเบิกเอา

เมื่อถามถึงกรณีที่องค์กรพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกมาขีดเส้นตายให้นายกฯ ลาออกภายใน 5 วัน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า นายกฯ คงมีแนวทางแล้ว ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ถามเรื่องของกองทัพ นายกฯ ก็ต้องรู้อยู่แล้ว เพราะว่าเราเป็นทหารอาชีพ

ยันทหารอาชีพไม่มีปฏิวัติ

ก่อนหน้านี้ พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ที่ ททบ.5 ก่อนเดินทางมาทำเนียบรัฐบาล ถึงการสับเปลี่ยนกำลังจาก นสศ. มาผลัดเปลี่ยนกำลังพลของ ปตอ.ที่รักษาความปลอดภัยใน บก.ทบ.ว่า ไม่ได้เปลี่ยน ทุก ผบ.เหล่าทัพจะมีนายทหารจาก นสศ.มารักษาความปลอดภัย โดยปกติที่ บก.ทบ.มีรถตามอยู่คันเดียว จึงดูเหมือนมีจำนวนน้อย แต่ทุกวันนี้ย้ายมานอนที่ บก.ทบ. คนที่ตามมาด้วยก็หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป ซึ่งกำลังพลจาก นสศ.ที่มาอยู่ ก็เพียงมาตามรักษาความปลอดภัยตน ทั้งที่บ้านและที่ทำงานเท่านั้น ไม่ได้มีเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวลือเรื่องปฏิวัติ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ก็ปล่อยข่าวกันไป เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดประโยชน์ และเกิดผลดี ผลเสีย

ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ยืนยันว่า ไม่คิดที่จะทำการปฏิวัติ และเชื่อว่าไม่มีใครกล้าทำ ยืนยันว่าทุกคนมีวินัย และกองทัพพร้อมที่จะสนับสนุนการเลือกตั้ง

ต่อข้อถามว่า เตรียมทหารรุ่น 10 เตรียมที่จะสนับสนุนนายกฯ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ใน ทบ.ไม่มีใครคุม ผบ.ทบ.เป็นคนคุม

"ไม่มีปัญหา น้องทั้งสองคนรักกันทั้งคู่" พล.อ.สนธิ กล่าวถึง ผบ.พลที่ 1 รอ. และ ผบ.พล ม.2 ซึ่งเป็นนายทหารรุ่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี

ยอมรับถกตท.10 กลางดึก 27 ก.พ.

เมื่อถามว่า เตรียมทหารรุ่น 10 เตรียมจะปฏิบัติการแทนนายกฯ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คนทำอย่างนั้นก็ขาดทุน ใครคิดอย่างนั้นหรือทำอย่างนั้นก็ขาดทุน มีแต่เสียกับเสีย ยิ่งทำอะไรอย่างนั้นก็จะยิ่งทำให้ลบมากขึ้น น้องๆ เขาคงไม่ทำ เขาคงไม่รู้

ส่วนกรณีที่เกิดกระแสข่าวลือเรื่องการปฏิวัติขึ้นมา พล.อ.สนธิ กล่าวว่า กระแสข่าวดังกล่าวทำให้เกิดประโยชน์อีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้เกิดโทษอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นกุศโลบายของการทำงานอยู่แล้ว การปล่อยข่าวเป็นการทำลายอย่างหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื่อหรือไม่เมื่อมีเหตุการณ์บ้านเมืองวิกฤติจะมีทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ประวัติศาสตร์สอนให้มาเป็นอย่างนั้น แต่เวลาตอนนี้เปลี่ยนแปลงไป ความคิดความอ่านผู้บังคับบัญชายุคปัจจุบันค่อนข้างมองอะไรมากพอสมควร การทำงานเป็นเอกภาพ เป็นตัวของตัวเอง ตนอยู่กับ ผบ.สส. และ ผบ.เหล่าทัพ มีความสุขมาก

เมื่อถามต่อว่า เตรียมทหารรุ่น 10 วางตัวเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ดก็ได้คุยกัน เมื่อคืนก็คุยกัน ยืนยันว่าน้องๆ เตรียมทหารรุ่น 10 น่ารักทุกคน

ทักษิณยอมทุกอย่างแล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และ ผบ.เหล่าทัพ ว่า วันนี้ตนอยากให้ระบบทุกอย่างเป็นระบบที่อยู่ในครรลองของระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ก็อยากจะวิงวอนให้ทุกฝ่ายลดราวาศอกกันหน่อย

ผมยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ยินดีร่วมมือทุกอย่าง จะเอาอย่างไรก็เอากัน ขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย จะเอาอย่างไรก็เอากัน บอกมาเลยอะไรก็ได้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการขยายระยะเวลาการเลือกตั้งหรือไม่ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็แล้วแต่ กกต. รัฐบาลมีหน้าที่นำพระราชกฤษฎีกา กราบบังคมทูล ก็แล้วแต่ว่า กกต.จะพิจารณาอย่างไร พรรคการเมืองที่ไม่อยากจะลงเลือกตั้งวันนี้ ถ้าตรงนี้เป็นเงื่อนไข ตนก็ยินดีร่วมมือทุกอย่าง

ไม่สนกฎหมู่เรียกร้องให้ออก

เมื่อถามว่า แม้ว่าจะมีการเรียกร้องให้ลาออกก็ยินดีอย่างนั้นหรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ย้อนถามว่า มันมีในกติกาด้วยหรือ ?

ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า ถ้าเป็นข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมจะทำตามหรือไม่ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ม็อบเป็นกฎหมู่ที่อยู่เหนือกฎหมาย ผมรับไม่ได้ ผมขอให้ทุกอย่างอยู่ในครรลองของระบอบประชาธิปไตย อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐธรรมนูญวันนี้เราใช้ เราก็ต้องปฏิบัติตาม แต่ถ้าหากเราคิดว่ามันไม่ชอบ ไม่ชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเปลี่ยน ก็มีกลไก ซึ่งเมื่อวาน (27 ก.พ.) ได้ออกประกาศชัดเจนจุดยืนของพรรคไทยรักไทย ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ขอให้อ่านตรงนั้นให้ดี ว่าผมได้เปิดกว้างทุกอย่าง พร้อมทุกอย่างจะเอาอย่างไรก็เอากัน"

เมื่อถามว่า จะหารือทำความเข้าใจกับหัวหน้าพรรคเลยหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ได้เลย อย่างไรก็ได้ จะให้ตนไปหานายอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) ที่บ้านก็ได้ ยินดีเลย

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับว่า มีคนพรรคไทยรักไทยพยายามติดต่อนายอภิสิทธิ์ แต่ยังไม่เป็นที่ลงตัว แต่ยินดีทุกอย่าง จะให้ตนไปหานายอภิสิทธิ์ ที่บ้าน ไปหาที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทั้งนั้น

กินข้าวผบ.เหล่าทัพไม่มีอะไรพิเศษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์การเมืองที่อึมครึมขณะนี้ จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉินหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่ถึงขนาดนั้น ใจเย็นๆ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงการเรียก ผบ.เหล่าทัพมาหารือและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันว่า ได้บอกกับ ผบ.เหล่าทัพว่า ขอฝากขอบคุณกำลังพลทั้งหลายที่เหนื่อยเป็นพิเศษในช่วงนี้ เพราะเนื่องจากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ทุกคนก็ต้องระมัดระวัง ทำงานกันเหนื่อย ใช้ความใจเย็นสุขุม อย่าให้กำลังพลเหนื่อยล้าเกินไป ให้ผลัดเปลี่ยนกำลังกัน เพราะหากเหนื่อยล้า เวลามีเหตุเกิดขึ้นก็จะไม่ดี

รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ไม่มีการเคลื่อนไหวของนายทหารรุ่น ตท.10 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับตน

"ไม่มีเลย ข่าววันนี้เป็นข่าวโคมลอยเยอะ ข่าวจริงน้อย ข่าวบิดเบือนก็เยอะ"

เล่นอย่างนี้ไม่ไหวเว้ย กติกาไม่มีแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดวันที่ 28 กุมภาพันธ์นั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้สัมภาษณ์หลายครั้งถึงความพยายามที่จะเชิญ 3 พรรคการเมืองที่ตัดสินใจคว่ำบาตรการเลือกตั้งให้มาร่วมหารือกัน และปลดล็อกปัญหาที่เขม็งเกลียวขึ้นทุกขณะ แต่เขาก็ยืนยันว่าจะไม่ลาออก

โดยเมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ ณ ที่ทำการพรรคไทยรักไทยว่า ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทั้ง 3 พรรคเพื่อหารือกันแล้ว โดยเพิ่งเซ็นไปเมื่อสักครู่และส่งไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทราบท่าทีของทั้ง 3 พรรค

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินเข้าลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องทำงาน พร้อมกับนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รักษาการ รมต.ประจำสำนักนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณได้เปรยกับนายสุรนันทน์ ว่า เล่นอย่างนี้ไม่ไหวเว้ย กติกาไม่มีแล้ว

เมื่อเวลา 16.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางมาร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ตอบข้อถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการลาออกจากตำแหน่งอีกครั้ง โดยคราวนี้นายกฯ ตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า "มันคนละเรื่อง ไอ้หนูเอ๋ย วันนี้ผมจะพูดน้อยๆ เพราะพูดไปแล้วมันบิดเบือนมาก ช่วงนี้ไม่รู้เป็นโรคอะไร บิดเบือนกันขนาดหนัก"

ส่วนแนวความคิดที่จะขอนายกฯ พระราชทานเพื่อแก้ไขปัญหาวุ่นวายทางการเมืองนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม